วิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้า 'เบรกแตก-คันเร่งค้าง' รับรองรอดชัวร์...!

วิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้า 'เบรกแตก-คันเร่งค้าง' รับรองรอดชัวร์...!

วิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้า 'เบรกแตก-คันเร่งค้าง' รับรองรอดชัวร์...!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     ปัจจุบันปัญหา 'เบรกแตก' หรือ 'คันเร่งค้าง' พบได้น้อยลงกว่าสมัยก่อนเยอะ เพราะเทคโนโลยีการผลิตรถยนต์ที่ก้าวหน้าไปมาก ทำให้วิศวกรสามารถออกแบบระบบต่างๆ ให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

     แต่อย่างไรก็ดี หากเราใช้รถเกินลิมิตของมัน เช่น เหยียบเบรกตลอดเวลาขณะลงเขาจนเบรกร้อนจัด หรือมีพรมปูพื้นเข้าไปขัดกับแป้นคันเร่ง จนทำให้เกิดเหตุการณ์คันเร่งค้าง เหล่านี้ก็สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน Sanook! Auto จึงขอแนะนำวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้าหากเกิดเหตุการณ์ 'เบรกแตก' หรือ 'คันเร่งค้าง' หากมีสติพอที่จะปฎิบัติตามนี้แล้วล่ะก็ รับรองว่าจะสามารถควบคุมรถได้อย่างปลอดภัยแน่นอน

101

เบรกแตก

     ปัญหารถเบรกแตกในปัุจจุบันมักพบได้บ่อยในรถที่ขับลงเขาด้วยความเร็วสูง โดยใช้วิธีเหยียบเบรกเพื่อชะลอความเร็วตลอดเวลา จนทำให้ผ้าเบรกและจานเบรกร้อนจัด จนเสียประสิทธิภาพในการชะลอความเร็วไป เมื่อถึงจุดนั้นต่อให้เหยียบเบรกแรงแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ แถมรถยังเพิ่มความเร็วตามความชันของเส้นทางจนไม่อาจควบคุมทิศทางได้

     ดังนั้น การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในกรณีรถเบรกแตก ไม่สามารถชะลอหรือหยุดรถด้วยการเบรกได้นั้น ก่อนอื่น "ห้ามดับเครื่องยนต์เด็ดขาด" เพราะจะทำให้พวงมาลัยเพาเวอร์หนักขึ้นและไม่สามารถเหยียบเบรกได้ สิ่งแรกที่ต้องทำคือการลดตำแหน่งเกียร์เป็น "L" ทันที เพื่อให้รถใช้เกียร์ต่ำสุด จะทำให้เกิดเอนจิ้นเบรก (Engine Brake) ช่วยชะลอความเร็วลงได้ ซึ่งตำแหน่งเกียร์ต่ำสุดในรถแต่ละคันอาจแตกต่างกันออกไป เช่น L, 2 หรือ 1 ซึ่งกรณีที่เป็นเกียร์แบบมีแป้น +, - ให้ผลักมาที่โหมด M พร้อมกับลดตำแหน่งเกียร์ลงมาทันที

     เมื่อความเร็วลดลงจนปลอดภัยแล้ว ให้ลองพยายามเหยียบเบรกอีกครั้ง แต่หากความเร็วไม่ลดลง ให้ดึงเบรกมือขึ้นอย่างนุ่มนวลเพื่อป้องกันล้อล็อคตาย โดยประคองพวงมาลัยไว้ให้มั่นคงควบคู่กันไป

100

คันเร่งค้าง

     รถยนต์รุ่นใหม่ในปัจจุบันจะถูกติดตั้งระบบ Brake Override มาให้ ซึ่งจะช่วยตัดการทำงานของคันเร่งเมื่อเหยียบเบรก ทำให้รถไม่พุ่งไปข้างหน้าและสามารถชะลอความเร็วได้อย่างปลอดภัย

     แต่สำหรับรถที่ไม่มีระบบดังกล่าวมาให้ หากเกิดเหตุการณ์คันเร่งค้างจากสาเหตุใดก็ตาม ห้ามดับเครื่องยนต์เด็ดขาด ให้ปลดเกียร์เป็นเกียร์ว่าง (N) รอบเครื่องยนต์จะพุ่งขึ้นสูงทันที แต่ตัวรถจะไม่เพิ่มความเร็ว จากนั้นให้เหยียบเบรกเพื่อชะลอความเร็วอย่างปลอดภัย ในกรณีที่เป็นรถไฮบริดที่ใช้คันเกียร์แบบไฟฟ้า ให้ผลักคันเกียร์ไปที่ตัว N ค้างไว้ ก็จะสามารถเข้าเกียร์ว่างขณะรถเคลื่อนที่ได้เช่นกัน

     สิ่งสำคัญในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก็คือ 'สติ' หากสามารถปฎิบัติตามคำแนะนำข้างต้นได้ทันท่วงที ก็จะช่วยให้รอดพ้นเหตุการณ์อันตรายได้อย่างปลอดภัยครับ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook