ขับเกียร์ CVT อย่างไรให้ทนทานเหมือนเกียร์ออโต้ทั่วไป
เกียร์อัตโนมัติแบบ CVT มีจุดเด่นเรื่องการเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวล ไร้อาการกระตุก อีกทั้งยังช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองของเครื่องยนต์ได้ แต่ที่ผ่านมา เกียร์ CVT มีเสียงบ่นจากผู้ใช้เรื่องของอายุการใช้งานที่สั้นกว่าเกียร์อัตโนมัติทั่วไป แต่หากใช้อย่างถูกวิธีแล้วล่ะก็ รับรองว่าทนทานไม่ต่างจากเกียร์อัตโนมัติปกติเลย
Sanook! Auto จึงขอแนะนำเทคนิคขับเกียร์ CVT ให้ทนทานเหมือนเกียร์อัตโนมัติปกติ
เกียร์อัตโนมัติ CVT (Continuously Variable Transmission) มีการส่งกำลังจากเครื่องยนต์ไปสู้ล่อด้วยสายพานโลหะที่มีความแข็งแรงเป็นพิเศษ ขับเคลื่อนด้วยชุดพูเลย์จำนวน 2 ตัวที่มีขนาดต่างกัน โดยข้างหนึ่งจะถูกเชื่อมต่อกับฟลายวีล ส่วนอีกข้างเชื่อมต่อกับแกนถ่ายทอดกำลัง ซึ่งตัวพูเลย์สามารถขยับเข้าออกเพื่อปรับขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของสายพาน ทำให้อัตราทดค่อยๆเปลี่ยนไปตามการควบคุมของสมองกลเกียร์ ต่างจากเกียร์อัตโนมัติแบบ Torque Converter ที่ใช้ชุดเฟืองในการถ่ายทอดกำลัง
เกียร์ CVT มักพบได้ในรถญี่ปุ่นเสียเป็นส่วนใหญ่ (ครั้งหนึ่ง Audi เคยติดตั้งเกียร์ CVT ที่ใช้ชื่อว่า Multitronic ลงในรถหลายรุ่น ได้แก่ A4, A5 และ A6 ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้าเท่านั้น แต่ภายหลังถูกแทนที่ด้วยเกียร์แบบ Torque Converter และ Dual-clutch แทน) เนื่องจากชุดเกียร์ CVT มีขนาดเล็ก ต้นทุนต่ำกว่าเกียร์อัตโนมัติทั่วไป และช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองลงได้ จึงเห็นได้ว่ารถญี่ปุ่นรุ่นใหม่ๆ ถูกจับใส่เกียร์ซีวีทีกันแทบทั้งนั้น
อย่างไรก็ดี เกียร์ซีวีทีในยุคหลังๆ ถูกพัฒนาให้มีความทนทานมากขึ้นกว่าแต่ก่อน โดยผู้ผลิตมักเคลมว่าเกียร์ CVT มีอายุการใช้งานเทียบเท่าหรือมากกว่าเกียร์อัตโนมัติแบบ Torque Converter (รวมถึงเกียร์แบบคลัทช์คู่ด้วย) แต่ถึงอย่างไร การดูแลรักษาและใช้งานอย่างเหมาะสมและถูกวิธี ก็จะสามารถยืดอายุการใช้งานของเกียร์ให้ยาวนานยิ่งขึ้น ไร้ปัญหากวนใจ
สิ่งที่ควรรู้ในการขับเกียร์ CVT เพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนาน มีดังนี้
1.ไม่คิกดาวน์บ่อยจนเกินไป
การคิกดาวน์ คือ การเร่งเครื่องด้วยการกดคันเร่งมากกว่าปกติ ซึ่งเกียร์จะปรับอัตราทดลงมา ทำให้มีกำลังเร่งแซงเพิ่มขึ้น แต่ในกรณีของเกียร์ซีวีที จะเป็นการขยับชุดพูเลย์เพื่อเปลี่ยนอัตราทด ซึ่งการคิกดาวน์บ่อยๆ อาจส่งผลให้สายพานได้รับความเสียหายจากแรงบิดที่เพิ่มขึ้นกะทันหัน ซึ่งเคยมีกรณีที่สายพานรูดเนื่องจากการคิกดาวน์มากจนเกินไปมาแล้ว
2.ไม่เร่งเครื่องขณะเข้าเกียร์
วัยรุ่นใจร้อนหลายคนนิยมเร่งเครื่องรอแล้วจึงเข้าเกียร์ เพื่อให้รถพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แต่การกระทำเช่นนี้ส่งผลให้เกียร์กระชาก ทำให้อายุการใช้งานสั้นลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งไม่เพียงเป็นอันตรายต่อเกียร์ซีวีทีเท่านั้น แต่เกียร์อัตโนมัติแบบทอร์คคอนเวอร์เตอร์ก็ไม่ควรทำเช่นกัน
3.ใช้ Paddle Shift ให้เหมาะสม
Paddle Shift หรือแป้นเปลี่ยนเกียร์บริเวณพวงมาลัย จะช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์ทำได้ทันใจมากขึ้น ซึ่งกรณีเกียร์ซีวีทีนั้น จะเป็นการล็อคอัตราทดให้มีลักษณะคล้ายกับเกียร์ทอร์คคอนเวอร์เตอร์ ทำให้เร่งแซงได้อย่างทันใจ แต่การใช้งานเกียร์ Paddle Shift มากจนเกินไป จะส่งผลเสียกับชุดเกียร์คล้ายกับการคิกดาวน์ ซึ่งอาจทำให้เกียร์อายุสั้นลงกว่าที่ควรจะเป็น
4.เปลี่ยนน้ำมันเกียร์สม่ำเสมอ
อันนี้ไม่ว่าจะเป็นเกียร์อัตโนมัติแบบไหน ก็ควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์อย่างสม่ำเสมอ รถบางรุ่นใช้น้ำมันเกียร์แบบ Long-life ที่ระบุว่าไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ แต่ในความเป็นจริง ทั้งสภาพอากาศและการใช้งานในบ้านเราหนักหน่วงกว่าเมืองนอกมาก จึงควรเปลี่ยนเกียร์ตามระยะที่เหมาะสมอยู่ที่ 40,000 - 60,000 กิโลเมตร หรือบ่อยกว่านั้น
หากปฏิบัติได้ตามนี้แล้วล่ะก็ รับรองว่าอายุการใช้งานของเกียร์จะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนครับ