Mercedes-Benz A-Class 2018 ใหม่ เผยโฉมอย่างเป็นทางการแล้ว

     Mercedes-Benz A-Class 2018 เจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุดถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในโลกที่กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์

     Mercedes-Benz A-Class 2018 นับเป็นเจเนอเรชั่นที่ 4 แล้ว ออกแบบภายใต้คอนเซ็พท์ Sensual Purity ที่เน้นเส้นสายโค้งมนตลอดทั้งคัน ดีไซน์ให้อารมณ์ดุดันมากขึ้นกว่ารุ่นที่แล้ว พร้อมทั้งมีดีไซน์ไฟหน้าใกล้เคียงกับ CLS รุ่นใหม่ล่าสุดอีกด้วย ขณะที่ตัวถังมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานต่ำสุดอยู่ที่ 0.26

     ตัวถังของ A-Class 2018 มีขนาดใหญ่ขึ้นในทุกมิติ มีความยาวอยู่ที่ 4,419 มิลลิเมตร (เพิ่มขึ้น 127 มิลลิเมตร) ความกว้าง 1,796 มิลลิเมตร (เพิ่มขึ้น 16 มิลลิเมตร) ความสูง 1,400 มิลลิเมตร (เพิ่มขึ้น 7 มิลลิเมตร) รวมถึงมีการขยายฐานล้อเพิ่มขึ้นจากรุ่นที่แล้ว 30 มิลลิเมตร เป็น 2,729 มิลลิเมตร ขณะที่ห้องเก็บสัมภาระด้านท้ายมีขนาดใหญ่ขึ้น 29 ลิตร เป็นทั้งหมด 370 ลิตร พร้อมประตูท้ายขนาดกว้างขึ้นกว่าเดิม

     ภายในห้องโดยสารชูจุดเด่นด้วยระบบอินโฟเทนเม้นท์ MBUX ใหม่ล่าสุด มาพร้อมหน้าจอขนาด 7 นิ้ว เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน หรือ 12.5 นิ้ว เป็นอุปกรณ์เสริม สามารถเรียกระบบสั่งงานด้วยเสียงด้วยการพูดคำว่า "Hey Mercedes" แทนการกดปุ่มแบบเดิม ขณะที่หน้าจอบริเวณคอนโซลหน้าสามารถควบคุมด้วยการสัมผัส หรือผ่านแป้นสัมผัสบริเวณคอนโซลกลางระหว่างเบาะนั่งคู่หน้า รวมถึงยังสามารถสั่งงานผ่านปุ่มที่พวงมาลัยได้

     เมอเซเดส-เบนซ์ เอ-คลาส 2018 ถูกติดตั้งระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติ ที่รองรับการเปลี่ยนเลนแบบอัตโนมัติ ขณะที่ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันรุ่นใหม่ จะช่วยชะลอความเร็วก่อนถึงทางโค้ง ทางแยก และวงเวียน ขณะที่ระบบป้องกันการชนด้านหน้า Active Brake Assist ถูกติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย

     ด้านขุมพลังในตลาดยุโรปมีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่

- A200 เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบชาร์จรหัส M282 ขนาด 1.4 ลิตร กำลังสูงสุด 163 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร
- A250 เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบชาร์จรหัส M260 ขนาด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 224 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร
- A180d เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบรหัส OM608 ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 115 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 260 นิวตัน-เมตร พร้อมถัง AdBlue ขนาด 28.3 ลิตร

    

     ในรุ่น A180d และ A250 จะถูกส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบคลัทช์คู่ 7 สปีด เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และเป็นอ็อพชั่นเสริมสำหรับรุ่น A200 ขณะที่ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4MATIC ระบุว่าถูกปรับปรุงให้สามารถส่งถ่ายกำลังได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และสามารถกระจายแรงบิดไปยังล้อคู่หลังได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์

     หากมีกำหนดวางจำหน่ายในประเทศไทย เราจะนำมาแจ้งให้ทราบอีกครั้ง