รู้เขารู้เราขับร้อยประหยัด-ปลอดภัยร้อยครั้ง

 

ปีนี้ (2010) เป็นปีที่ย่างเข้าสู่ทศวรรษที่ 2 ของศตวรรษที่ 21 ตามตัวเลขของฝรั่ง รถยนต์ในช่วงทศวรรษหรือเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา ดูเหมือนว่า จะมีการพัฒนากันตลอดเวลาไม่มีค่ายใดหยุดนิ่งในการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ออกมา

โดยเฉพาะเรื่องของความ สะดวกสบาย ความประหยัดและความปลอดภัย แน่นอนรถยนต์ในวันนี้ ถ้าพูดถึงเรื่องของการประหยัดเชื้อเพลิงกันแล้ว นับว่ากินน้ำมันน้อยกว่ารถของเมื่อวันวาน ความสะดวกสบายในการขับขี่และโดยสารเช่นกันผู้ผลิตสอดใส่ยัดเยียดความสะดวก สบายในการขับเหมือนกับจำลองห้องรับแขกหรูในบ้านเข้ามาไว้ตลอดการเดินทาง

 และถ้าพูดถึงเรื่อง ความสะดวกสบาย กันแล้ว นวัตกรรมใหม่ๆ ที่เป็นตัวช่วยที่จะให้ผู้ขับและผู้โดยสารเช่นกันที่ตลอดทศวรรษที่ผ่านถูกนำ มาใส่ไว้ จนกล่าวได้ว่ามากจนเกินพอกับการโดยสารและนั่งขับ แต่จำนวนของการเกิดอุบัติเหตุ ปริมาณความสูญเสีย การบาดเจ็บและล้มตายก็ไม่ได้น้อยลงมีแต่เพิ่มมากขึ้น

  ปลายปี 2009 มีการประชุมเป็นวาระแห่งโลกที่จะทำให้ความสูญเสียที่เกิดจากอุบัติเหตุทางรถ ยนต์ลดลงให้ได้ ในบ้านเรามีตัวเลขสรุปออกมาว่าค่าของความสูญเสียที่เกิดจากอุบัติเหตุจากยาน พาหนะในปีหนึ่งคิดเป็นตัวเงินออกมาแล้วนับเป็นแสนล้านบาท ชีวิตของผู้คนที่เสียชีวิตไปปีละประมาณหนึ่งหมื่นชีวิต ถ้ามีคำถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับสิ่งที่สูญเสียไปนั้น คำตอบก็คงมีอยู่คำตอบเดียว คือ ความประมาท

 ความประมาทนั้นต้องเริ่มนับจากการเลือกที่จะมีรถไว้ใช้งาน มากมายหลายคนที่เลือกรถ ใช้งานตามแรงโหมโฆษณา เลือกรถเพราะความอยากเลือกรถตามกระแสที่ถูกปั่นจากผู้ขาย โดยลืมไปว่ารถยนต์ในปัจจุบันมีขนาดมีหลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้ และแต่ละรูปแบบผู้ผลิตออกแบบให้มีจุดประสงค์ที่ใช้งานแตกต่างกัน คนที่จะเลือกรถไว้ใช้จึงต้องมีความรู้ความเข้าใจในตัวเองเป็นเบื้องต้นว่าจะ เลือกรถแบบใดใช้ในจุดประสงค์อะไร

 รถที่เลือกมาใช้นั้นถูกออกแบบมาเพื่อจุดประสงค์อะไร มีขีดความสามารถเท่าไรที่จะต้องตามจุดประสงค์ที่เราเลือกใช้ เช่น เลือกใช้รถกระบะเพราะเป็นรถที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานสมบุกสมบัน แข็งแกร่ง ประหยัดทั้งค่าน้ำมันเชื้อเพลิงและการดูแล บำรุงรักษา เมื่อเราใช้รถ กระบะ ก็ต้องรู้ถึงคุณลักษณะหรือจุดประสงค์ของรถกระบะที่จะนำไปใช้งาน การนำรถกระบะไปตกแต่งแก้ไขเพื่อให้รถมีขีดความสามารถหรือตอบสนองความสะดวก สบายในการขับขี่ สิ่งเหล่านั้นเป็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลงคุณลักษณะหรือดีเอ็นเอของรถให้ผิดไป สิ่งที่เกิดขึ้นคืออุบัติเหตุและความสูญเสีย

 เมื่ออยากได้รถ 6 หรือ 7 ที่นั่ง เพื่อให้สมาชิกที่เพิ่มมากขึ้นโดยสารเดินทางไปได้ในคันเดียว พฤติกรรมในการขับที่เคยขับรถเก๋งสี่ประตูหรือขับรถกระบะก็ต้องเปลี่ยนไปตาม รูปแบบของรถที่เป็นแบบ 7 ที่นั่ง

 อย่างแรกที่ต้องคิดอยู่ตลอดเวลาก็คือ เราต้องรับผิดชอบชีวิตผู้คนมากขึ้น เราต้องรู้ว่ารูปแบบของรถเปลี่ยนไป การขับขี่เพื่อเดินทางให้ปลอดภัยก็ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมให้เข้ากับตัวรถ จะใช้พฤติกรรมที่เคยชินกับรถคันเดิมๆ มาใช้ขับนั้นไม่ได้อีกต่อไป ต้องบอกตนเองเสมอว่า รถเปลี่ยนคน (การขับ) ก็ต้องเปลี่ยน

 ในรอบทศวรรษที่ผ่านมารถยนต์เปลี่ยนแปลงไปมากกว่าเดิม เราต้องรู้จักที่จะเรียนรู้ว่าตัวช่วยที่ติดตั้งมาในรถนั้นจะช่วยเราได้ อย่างไร เมื่อไร เช่น ถ้าเป็นรถ ขับเคลื่อนสี่ล้อ ที่เกือบทั้งหมดเป็นรถที่มี ศูนย์ถ่วงสูง อาจจะทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นดีขึ้น แต่รถสูงการทรงตัวเมื่อขับเคลื่อนประสิทธิภาพก็จะน้อยลง หรือต้องรู้ว่าเมื่อใช้โหมดขับเคลื่อนสี่ล้อระยะการควบคุมพวงมาลัยก็จะ เปลี่ยนไป

 รถยนต์ทุกวันนี้ถูกออกแบบมาให้ประหยัดเชื้อเพลิงมากกว่ารถของเมื่อวาน แต่ก็ต้องรู้ว่าการประหยัดเชื้อเพลิงนั้นนอกจากขึ้นอยู่กับ พฤติกรรมการขับแล้ว เครื่องยนต์แต่ละเครื่องหรือรถยนต์แต่ละแบบนั้นมีลิมิตตายตัวเป็นคุณลักษณะ ประจำตัวว่าประหยัดได้เท่าไร  การขับตามกฎหมายที่คิดค้นขึ้นมาและเป็นที่ยอมรับกันแล้วว่าให้ทั้งความประหยัดและปลอดภัย การรู้จักป้ายเตือนตามริมทาง การปฏิบัติหรือขับตามข้อบังคับนั้นพิสูจน์กันมาแล้วประหยัดและปลอดภัย
การขับช้าหรือขับเร็ว ไม่ได้เป็นตัววัดว่า ใครขับดีหรือขับเก่งกว่าใคร  ถ้าคุณขับช้าโดยพฤติกรรมที่เคยชินแต่คุณไปขับอยู่บนช่องทางที่มีไว้สำหรับ ขับเร็ว (เพื่อเร่งแซง) คุณอาจจะไม่ได้เป็นผู้รับอุบัติเหตุแต่คุณจะกลายเป็น ต้นเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ

 คุณต้องรู้ว่า เมื่อไรต้องขับเร็วและเมื่อไรต้องขับช้า นั่นคือคุณลักษณะหรือคุณสมบัติของผู้ที่ขับรถเป็น คุณอาจจะเห็นว่ารถยนต์ทุกวันนี้ถูกออกแบบมาให้ขับได้ง่ายๆ ขับได้อย่างเพลิดเพลินขับได้อย่างสนุก แต่คุณก็ต้องรู้ว่าทุกครั้งที่นั่งประจำที่นั่งขับ คุณจะต้องมี สมาธิในการขับ การขับรถให้เพลิดเพลิน การขับรถให้สนุกโดยขาดสมาธิ คือต้นเหตุของอุบัติเหตุและความสูญเสีย

 ครับอุบัติเหตุและความสูญเสียลดลงได้ ถ้าคุณรู้จักตัวคุณ (พฤติกรรมในการขับ) และรู้จักรถ(ประเภท) ที่คุณขับ รวมทั้งการเรียนรู้การขับที่ถูกต้อง (ตามหลักวิชาการ) ถ้าไม่รู้คุณต้องหาทางรู้ให้ได้ และถ้าคุณเพิกเฉยคุณจะเป็นผู้สูญเสียรายต่อไป