เงินเดือน 25,000 ผ่อนรถอย่างไรให้รอด ไม่ถูกไฟแนนซ์ยึด

     มนุษย์เงินเดือนที่มีรายรับประมาณ 25,000 บาทต่อเดือน จะผ่อนรถอย่างไรไม่ให้ค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนตึงเกินไป เรามีคำแนะนำเล็กๆ น้อยๆ มาฝากกันครับ

     สำหรับผู้ที่มีเงินเดือนราว 25,000 บาท ถามว่าสามารถซื้อรถได้ไหม คำตอบคือ "ได้แน่นอน" เพราะด้วยยอดผ่อนต่อเดือนระดับ 1 หมื่นบาทบวกลบนั้น ไฟแนนซ์สามารถปล่อยสินเชื่อให้คุณได้อย่างไม่ยากเย็น แต่! ก่อนตัดสินใจซื้อรถหนึ่งคัน ต้องคำนึงถึงรายจ่ายในปัจจุบันและรายจ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการที่คุณมีรถด้วย

     หากคุณยังคงอาศัยอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ ไม่ต้องจ่ายค่าที่พักอาศัย แถมยังให้ความช่วยเหลือคุณได้ในยามจำเป็น อันนี้ก็คงไม่เป็นปัญหาอะไร... แต่หากคุณต้องปลีกตัวเข้ามาทำงานในเมือง รับผิดชอบค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันด้วยตัวคุณเองทั้งหมด การซื้อรถหนึ่งคันจำเป็นต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนด้วย เพราะหากคุณเกิดผ่อนไม่ไหวขึ้นมา จะกลับตัวกลางคันก็ไม่ได้ หยุดผ่อนส่งเอาดื้อๆ ก็จะมีแต่เสียกับเสีย ทั้งรถถูกยึด เสียเครดิต ไม่สามารถทำธุรกรรมอื่นๆได้ แถมยังเสี่ยงถูกฟ้องร้องเป็นคดีความในภายหลังอีกต่างหาก

     ค่าใช้จ่ายส่วนตัวในชีวิตประจำวันไม่ขอพูดถึง เพราะแต่ละคนก็มีภาระหน้าที่ต่างกันออกไป แต่เมื่อคุณซื้อรถหนึ่งคัน ก็จะมีค่าใช้จ่ายตามมาอีกในอนาคต ได้แก่

- ค่าน้ำมันเฉลี่ยเดือนละ 2,500 - 3,000 บาท
- ค่าประกันภัยชั้น 1 ปีละ 15,000 - 20,000 บาท เฉลี่ยเดือนละ 1,250 - 1,600 บาท
- ค่าบำรุงรักษาตามระยะปีละ 2 ครั้ง ครั้งละประมาณ 1,800 - 3,000 บาท
- ค่าภาษี, พ.ร.บ. ปีละประมาณ 2,500 - 2,800 บาท

     เหล่านี้ทำให้ค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนเพิ่มขึ้นถึงกว่า 4-5 พันบาทเลยทีเดียว หากใครทำงานบนตึกสูงในเมือง ก็อาจยังต้องรับภาระค่าที่จอดรถรายเดือนอีกด้วย

     ดังนั้น หากคุณมีรายรับต่อเดือนอยู่ที่ประมาณ 25,000 บาท จะเห็นได้ว่าค่อนข้างตึงเลยทีเดียว ดังนั้น หากเราต้องการมีรถจริงๆ เราจะต้องทำให้ Fixed cost ในแต่ละเดือนให้ต่ำที่สุด ด้วยการเลือกรถยนต์ขนาดเล็กราคาประหยัด โดยเฉพาะรถกลุ่มอีโคคาร์ เช่น Toyota Yaris, Mazda2, Mitsubishi Mirage หรือ Suzuki Swift เป็นต้น ซึ่งจะมียอดผ่อนต่อเดือนราว 7-9 พันบาทต่อเดือนในกรณีดาวน์ปกติ

     แต่หากสามารถเก็บเงินดาวน์ได้มากขึ้นอยู่ที่ประมาณ 30-40 เปอร์เซ็นต์ของราคารถ ก็จะทำให้ค่างวดต่อเดือนลดลงได้อีกพอสมควร แถมยังจ่ายดอกเบี้ยถูกลงอีกด้วย

     ทางที่ดี คุณควรเก็บเงินในแต่ละเดือนเท่ากับยอดผ่อนรถยนต์ที่คุณกำลังเล็งไว้ หากคุณสามารถเก็บได้สัก 3-4 เดือนโดยไม่นำออกมาใช้แม้แต่น้อย ก็บ่งบอกว่าคุณสามารถจัดการภาระค่าใช้จ่ายของคุณได้ แต่หากเดือนใดยังเผลอนำเงินเก็บบางส่วนมาใช้ ก็อย่าเพิ่งตัดสินใจเพิ่มภาระด้วยการซื้อรถเลยครับ