การเป็นเจ้าของรถยนต์ป้ายแดงไม่ใช่เรื่องยาก
เริ่มเห็นรถยนต์หลายยี่ห้อ เปิดตัว ปรับโฉมมาเรื่อยๆ ก็อาจะมีหลายๆ คนที่คิดอยากออกรถป้ายแดงสักคัน จริงๆ การออกรถป้ายแดงไม่ใช่เรื่องยาก แต่ด้วยมูลค่าของรถยนต์ที่สูงกว่าสิ่งของอื่นๆ ในชีวิต การตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์จึงควรพิจารณาอย่างรอบคอบ นอกจากความสวยงาม ยังต้องคำนึงถึงความต้องการใช้สอยที่แท้จริง และค่าผ่อนรายเดือนที่ไม่กระทบการเงินจนทำให้ชีวิตขาดสภาพคล่องเกินไป
แล้วอะไรบ้างล่ะ ที่เราต้องคำนึง เมื่ออยากออกรถป้ายแดงสักคัน
1. เลือกรถที่ฟังก์ชั่น ไม่ใช่แฟชั่น สำรวจรถตามความต้องการของตัวเราเองที่แท้จริง
รถ มีแต่ ลด นั่นหมายถึงว่า คุณควรเลือกซื้อรถยนต์ตามฟังก์ชั่นการใช้งาน เช่น ครอบครัวมีกี่คน หรือ ใช้เดินทางในกรุงเทพ หรือต่างจังหวัดเป็นส่วนใหญ่ ใช้บรรทุกคน หรือ ของมากกว่ากัน
2. อัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มีการคิดดอกเบี้ยแบบเงินต้นคงที่ (Flat Rate)
คือ คำนวณดอกเบี้ยที่ต้องชำระจากเงินต้นทั้งก้อนตลอดอายุของสัญญา ไม่ใช่เป็นแบบลดต้นลดดอกเหมือนดอกเบี้ยบ้าน เพราะฉะนั้นเราควรคิดถึงยอดผ่อน และจำนวนปีที่เราสามารถผ่อนชำระได้ ยิ่งน้อยยิ่งดีนะจ๊ะ
3. คำนวณเงินดาวน์ที่เราสามารถจ่ายได้
เงินดาวน์สูงอัตราดอกเบี้ยมักจะถูกกว่า การผ่อนระยะยาวอัตราดอกเบี้ยจะสูงกว่าการผ่อนระยะสั้นในกรณีที่เงินต้นเท่ากันและจำนวนปีที่ผ่อนเท่ากัน ดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าก็จะมีค่างวดที่ต่ำกว่า รวมทั้งการเลือกผ่อนต้นงวด (Beginning) หรือปลายงวด (Ending) นับจากวันที่ซื้อรถ ก็มีผลต่ออัตราดอกเบี้ยเช่นกัน การผ่อนต้นงวด จะได้ดอกเบี้ยที่ดีกว่าการผ่อนปลายงวด
4. ทำประกันสินเชื่อรถยนต์
นอกจากเงินดาวน์กับกับค่าผ่อนรายเดือนแล้ว เราควรเตรียมเงินสำหรับทำประกันสินเชื่อรถยนต์ เพื่อคนในครอบครัวหากเกิดเหตุไม่คาดฝันไม่ต้องผ่อนรถยนต์ต่อหากเจ้าของรถเกิดอุบัติเหตุถึงชีวิต ซึ่งประกันเงินสินเชื่อรถยนต์ จะบวกเพิ่มจากเงินค่างวดรายได้เป็นจำนวนไม่มากนัก แต่ได้รับความคุ้มครองที่คุ้มค่าต่อชีวิตเรา แต่ประกันชนิดนี้เป็นประกันที่จะทำหรือไม่ก็ได้
5. ถามหาทางเลือก
โดยปกติแล้วผู้ที่จะกู้เพื่อซื้อรถไม่ต้องติดต่อกับธนาคารหรือไฟแนนซ์โดยตรงดีลเลอร์ที่ติดต่อซื้อรถจะเป็นคนแนะนำ ควรถามหาทางเลือกอื่นมาเปรียบเทียบ เพื่อให้ได้เงื่อนไขที่ตรงกับความต้องการมากที่สุดจากแต่ละธนาคาร เพราะดีลเลอร์อาจมีความสัมพันธ์กับหลายธนาคารอาจมีโปรโมชั่นดอกเบี้ยที่ดีกว่าในช่วงเวลานั้นๆ
6. ท้ายสุดเตรียมเงินก้อนรับค่าใช้จ่ายอื่นหากจะมีรถยนต์สักคัน
ควรเตรียมเงินอีกก้อนหนึ่งไว้เพื่อใช้จ่ายในด้านอื่นๆ ที่จะตามมาหลังซื้อรถยนต์ด้วย เช่น ค่าต่อทะเบียนรถ ค่าทำประกันภัยรถ ซึ่งตกราว 15,000-20,000 บาทต่อปีสำหรับรถมือหนึ่ง รวมทั้งค่าบำรุงรักษา ค่าน้ำมันรายเดือน เพราะฉะนั้นตัดสินใจให้ดี คิดคำนวณค่าใช้จ่ายให้ครบ จะได้ไม่ปวดหัวหลังการซื้อรถ
ก่อนการตัดสินใจซื้อรถยนต์คิดให้รอบด้าน และคุ้มค่า เพราะมีค่าใช้จ่ายหลายด้านที่ตามมาไม่น้อยเลยทีเดียว