โดนจับแน่! รถซิ่งดังเกิน 95 เดซิเบลเอผิดกฎหมายเต็มๆ ดีเดย์ 13 สิงหาคมนี้
ขนส่งประกาศวิธีวัดระดับเสียงรถยนต์แบบใหม่ รถยนต์ขนาดเล็กน้ำหนักไม่เกิน 2,200 กิโลกรัม ต้องมีระดับเสียงไม่เกิน 95 เดซิเบลเอ ตามมาตรฐานยุโรป ดีเดย์วันที่ 13 สิงหาคม 2561 เป็นต้นไป
กรมการขนส่งทางบกประกาศกำหนดมาตรฐานระดับเสียงและวิธีการวัดระดับเสียงของรถยนต์ พ.ศ. 2561 เพื่อกำหนดวิธีการตรวจวัดระดับเสียงที่ความเร็วรอบเครื่องยนต์ เพื่อให้อยู่ในระดับเสียงตามที่กฎหมายกำหนด โดยจะบังคับใช้กับรถยนต์ที่จดทะเบียนตาม พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ. 2522 ประกอบด้วย
- รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง
- รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 ที่นั่ง
- รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล
- รถยนต์รับจ้างระหว่างจังหวัด
- รถยนต์รับจ้างบรรทุกผู้โดยสารไม่เกิน 7 คน
- รถยนต์สี่ล้อเล็กรับจ้าง
- รถยนต์บริการ
- รถยนต์สามล้อ
- ยกเว้น รถยนต์ขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า (BEV)
- รถยนต์ทุกประเภทข้างต้นที่จดทะเบียนก่อนวันที่ 1 มกราคม 2557 จะต้องมีระดับเสียงไม่เกิน 100 เดซิเบลเอ
- รถยนต์ทุกประเภทข้างต้นที่จดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2557 เป็นต้นไป หากมีน้ำหนักรถเปล่าเกิน 2,200 กิโลกรัม ต้องมีระดับเสียงไม่เกิน 99 เดซิเบลเอ รถขนาดเล็กมีน้ำหนักรถเปล่าไม่เกิน 2,200 กิโลกรัม ต้องมีระดับเสียงไม่เกิน 95 เดซิเบลเอ ยกเว้นรถสามล้อจะต้องมีระดับเสียงไม่เกิน 95 เดซิเบลเอ
ขั้นตอนการตรวจวัดระดับเสียงของรถยนต์ดังกล่าว กำหนดให้ตรวจวัดได้เฉพาะเมื่อรอบเครื่องยนต์ได้ความเร็วรอบคงที่ตามที่กำหนดเท่านั้น ได้แก่
- รถยนต์ที่มีความเร็วรอบที่ให้กำลังสูงสุดระหว่าง 5,500 - 7,499 รอบต่อนาที ให้ตรวจวัดที่ 3,750 รอบต่อนาที
- รถยนต์ที่มีความเร็วรอบที่ให้กำลังสูงสุดตั้งแต่ 7,500 รอบต่อนาทีขึ้นไป ให้ตรวจวัดที่ 1 ใน 2 ของความเร็วรอบที่ให้กำลังสูงสุด
ทั้งนี้ กรมการขนส่งแนะนำว่าเจ้าของรถควรใช้ท่อไอเสียที่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) และไม่ดัดแปลงสภาพรถ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหารถที่มีระดับเสียงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด