“รถเก่า” ที่ขับแล้วยัง “หล่อ” ตลอดกาล
ในยุคที่รถใหม่ป้ายแดงวิ่งกันเกลื่อนเมือง เป็นยุคเดียวกับที่ตลาดรถยนต์มือสองบ้านเราค่อนข้างที่จะซบเซา อย่างไรก็ดียังมีรถอีกกลุ่มหนึ่งซึ่ง Tonkit360 รวบรวมมาในวันนี้ ที่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า แม้จะเป็นรถเก่ายิ่งกว่ารถมือสอง แต่ราคาซื้อ-ขายไม่ได้ตกตามไปด้วย ที่สำคัญยังเป็นรถที่ขับแล้ว “ดูหล่อ” จนหลายคนต้องมองตามกันเลยทีเดียว
Mini
แม้ว่า มินิ ประเทศไทย เพิ่งเปิดตัว มินิ แฮทช์ และ มินิ คอนเวิร์ตทิเบิล รุ่นปรับโฉมใหม่ ไปสดๆร้อนๆ ซึ่งราคาคาดกันว่าจะอยู่ที่ 2 ล้านต้นๆไปจนถึง 3 ล้านบาท แต่สิ่งที่เหลือเชื่อคือรถในตระกูลมินิที่อายุย้อนกลับไป 35-50 ปี ยังคงเป็นรถยนต์สุดคลาสสิคที่หลายคนถวิลหา
ด้วยรูปโฉมอันเป็นเอกลักษณ์สไตล์อังกฤษตั้งแต่ในยุค Austin Mini มาจนถึง Rover Mini รถมินิโมเดลคลาสสิคในบ้านเรายังถือเป็นสมบัติอันล้ำค่าหากใครได้ครอบครอง รวมถึงเป็นที่จับจ้องยามขับออกมาบนท้องถนน โดยราคาขาย ณ ปัจจุบัน หากจับแต่งองค์ทรงเครื่องแบบจัดเต็มคุณจะต้องใช้เงินสูงถึงกว่า 7 แสนบาท หากจะแลกกับรถมินิเวอร์ชั้นปี 1969-1970 สภาพสวยๆสัก 1 คัน
Volkswagen Beetle
Volkswagen Beetle หรือที่บ้านเรารู้จักกันดีว่า “รถเต่า” ถือเป็นรถยนต์ขนาดเล็กที่ครั้งหนึ่งเคยมียอดขายสูงสุดอันดับหนึ่งของโลกมาแล้ว โดยตามรายงานระบุว่า Volkswagen Beetle รถยนต์สายพันธุ์เยอรมันทำยอดขายสูงถึง 22.3 ล้านคัน และปัจจุบันรถโฟล์คเต่าก็ยังเป็นที่นิยมของเหล่าบรรดาคนรักรถคลาสสิก ที่เมื่อขับออกถนนก็ยังดูน่ามองอยู่เสมอ
โดยในปัจจุบัน แม้ค่ายรถยนต์โฟล์คสวาเกนจะมีการออกโมเดล New Beetle จำหน่ายตามโชว์รูมทั่วโลก แต่ความคลาสสิคของรถเต่าก็ยังเป็นเสน่ห์ที่ทำให้คนหลงใหล โดยเฉพาะในเมืองไทย ที่ราคาในตลาดรถยนต์ซื้อขายรถเต่าเวอร์ชั่นปี 1969 ในราคาตั้งแต่ 1.5 -4 แสนบาทเลยทีเดียว หรือถูกกว่า New Beetle มือสองบางรุ่นไม่กี่แสนบาทเท่านั้นเอง
Volkswagen Classic Van
อีกหนึ่งความคลาสสิกจากค่ายโฟล์คสวาเกน นอกจากรถเต่าแล้ว รถโฟล์คตู้คลาสสิคก็เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นในบ้านเรา โดยเรามักจะเห็นรถตู้เหล่านี้วิ่งบนท้องถนนมากขึ้น หรือบางคนก็ดัดแปลงไปทำเป็นร้านอาหารแบบสตรีทฟู๊ดตามตลาดเปิดท้ายต่างๆ
รู้หรือไม่ว่า รถเวอร์ชั่นปี 1696 หรือเกือบ 50 ปีที่แล้ว หากจับมาแต่งตัวในสภาพดี พร้อมยกเครื่องใหม่ ราคาขายของเขาจะอยู่ในระดับ 1.5 – 5 แสนบาทเลยทีเดียว ซึ่งเป็นราคาเดียวกับที่เราซื้อรถยนต์มือสองระดับ โตโยต้า คัมรี หรือ ฮอนด้า แอคคอร์ด เวอร์ชั่นปี 2008 ได้เลยทีเดียว
Toyota AE86
นี่คือรถคูเป้ในตำนานของญี่ปุ่น ที่ต้องบอกว่าปัจจุบันหายากมากในเมืองไทย ชื่อจริงๆของมันคือ Toyota Trueno แต่มีรหัสตัวถัง AE86 ทำให้คนไทยพากันเรียกจนติดปากว่า AE86 หรือบางคนเรียกรถรุ่นนี้ว่า “กระเทย” จุดเด่นของมันคือความสมดุลของรถยามทำความเร็วสูง
AE86 กลับมาแจ้งเกิดอีกครั้งในภาพยนต์ชิ่งแนวดริฟท์เรื่อง “initial D” ดริฟท์ติ้ง ซิ่งสายฟ้า ที่มีเจย์ โจว์แสดงเป็นพระเอกในปี 2005 กับบทบาทที่ต้องขับรถคันนี้ส่งเต้าหู้ในทุกๆเช้า ส่วนราคาขายในปัจจุบันไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ความที่เป็นแรร์ไอเทม
หากแต่งตัวแบบจัดเต็ม บางคันราคาขายขึ้นไปเตะหลักเกือบ 1 ล้านบาทเลยทีเดียว
BMW E30
ส่วนรถค่ายยุโรปอีกหนึ่งรุ่นที่ว่ากันว่า “ขับหล่อ” ตลอดกาล คงหนีไม่พ้น BMW E30 โมเดลที่เริ่มเปิดตัวในปี 1982 จนถึง 1992 ว่ากันว่านี่คือยุคทองของรถซีดานฝั่งยุโรป กับรูปโฉมที่ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ยังดูทันสมัยอยู่ตลาดเวลา รวมถึงคอนโซลภายในที่เป็นต้นแบบให้กับรถ BMW ทุกรุ่นมาจนถึงปัจจุบัน
โดยรถรุ่นดังกล่าวถือเป็นรถยุโรปที่ราคาจับต้องได้และเป็นที่นิยมมากในบ้านเราในสมัยที่ออกมาใหม่ๆ ส่วนราคาขายในบ้านเราขึ้นอยู่กับสภาพรถและการตกแต่ง สนนราคาตั้งแต่ระดับหลักหมื่น ไปจนถึง หลักแสนบาท และในรุ่นคูเป้ 2 ประตู บางคันที่แต่งแบบจัดเต็มสามารถขายได้ถึง 5-6 แสนบาทเลยทีเดียว
Nissan Skyline (R34)
ปิดท้ายที่รถสปอร์ตรุ่นเดียวจากญี่ปุ่นที่ได้รับการยกย่องให้เทียบชั้นซูเปอร์คาร์ฝั่งยุโรปได้แบบสบายๆ อย่าง Nissan Skyline (R34) หรือที่บางคนเรียกมันว่า “ก็อตซิล่า” เนื่องจากได้รับการเปรียบเทียบจากนักข่าวออสเตรเลีย สมัยที่ค่ายรถนิสสันนำรถรุ่น Skyline ไปแข่งขันในรายการทัวร์ริงคาร์ของออสเตรเลีย และเอาชนะรถค่ายรถที่ผูกขาดชัยชนะมายาวนานอย่างฟอร์ดและโฮเดนลงได้สำเร็จ
โดยปัจจุบัน R34 ถือเป็นไอเทมที่สายแต่งซิ่งถวิลหามากที่สุด ด้วยรูปโฉมที่โฉบเฉี่ยว มาพร้อมกับเครื่องยนต์ V6 อันทรงพลัง รีดแรงม้าได้ถึงกว่า 300 แรงม้า ถือเป็นรถสปอร์ตที่ชายทุกคนใฝ่ฝันในยุคเกือบ 20 ปีที่แล้ว จนมาถึงปัจจุบัน ราคาของ R34 ยังทำเอาหลายคนต้องคิดหนัก เพราะระดับราคาอยู่ตั้งแต่ 1 ล้านไปจนถึงเกือบ 2 ล้านบาทเลยทีเดียว