เฮ! ดอกเบี้ย "ลดต้นลดดอก" โปะค่างวดได้ลดดอกเบี้ย 50 เปอร์เซ็นต์
ดอกเบี้ยรถยนต์แบบลดต้นลดดอก ดีกว่าดอกเบี้ยแบบเดิมอย่างไรบ้าง แล้วทำอย่างไรผู้ซื้อจะได้ประโยชน์สูงสุดจากดอกเบี้ยแบบใหม่นี้
สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ออกประกาศว่าด้วยสัญญา เรื่องการให้ธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นธุรกิจควบคุมสัญญา พ.ศ. 2561 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2561 ที่ผ่านมา โดยสาระสำคัญอย่างหนึ่ง คือ การใช้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี (Effective Interest Rate) หมายถึงการใช้ดอกเบี้ยสินเชื้อเช่าซื้อแบบลดต้นลดดอกเช่นเดียวกับที่อยู่อาศัย โดยคิดดอกเบี้ยจากเงินต้นคงเหลือในแต่ละงวด
นั่นหมายความว่าจากเดิมที่มีการคิดอัตราดอกเบี้ยแบบ Flat Rate ซึ่งผู้เช่าซื้อจะต้องชำระเงินต้นและดอกเบี้ยแบบคงที่ตลอดอายุสัญญา แต่การคิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก ผู้เช่าซื้อสามารถจ่ายค่างวดเกินกว่าที่ระบุไว้ในสัญญาได้ โดยยอดชำระส่วนที่เกินจะถูกนำไปหักกับเงินต้น ทำให้หมดหนี้ได้ไวยิ่งขึ้น
นอกจากนั้น ประกาศว่าด้วยสัญญาธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ พ.ศ. 2561 ยังระบุด้วยว่า กรณีผู้เช่าซื้อต้องการโปะเงินเพื่อปิดบัญชี สถาบันการเงินจะต้องลดดอกเบี้ยของเงินต้นส่วนที่เหลือไม่น้อยกว่า 50 เปอร์เซ็นต์อีกด้วย จึงทำให้ยอดเงินก้อนสุดท้ายที่ต้องชำระลดลง (ในกรณีโปะเงินเพื่อปิดบัญชี)
โดยสรุปแล้ว สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และจักรยานยนต์แบบลดต้นลดดอก ผู้เช่าซื้อสามารถชำระเงินเกินค่างวดเพื่อไปหักเงินต้นให้หมดไวขึ้นได้ อีกทั้งยังได้ลดดอกเบี้ยไม่ต่ำกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ในกรณีโปะเงินเพื่อปิดบัญชีด้วยครับ