แพงแค่ไหน หากต้องซ่อม “ซูเปอร์คาร์”

     จากกรณีรถซูเปอร์คาร์สุดหรู “แม็คลาเรน 720S” ถูกรถกระบะเฉี่ยวชนบนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 (มอเตอร์เวย์) จนกลายเป็นประเด็นฮือฮาบนโลกอินเตอร์เนตถึงราคาค่าซ่อมระดับมหาศาล รู้หรือไม่ หากต้องซ่อมซูเปอร์คาร์ ราคาอะไหล่จะแพงแค่ไหน Tonkit360 อาสาพาไปหาคำตอบ

รู้จัก “720S” ซูเปอร์คาร์พันธุ์แรงจากอังกฤษ

     ก่อนอื่นคงต้องทำความรู้จักกับ “แม็คลาเรน 720S” กันสักหน่อย โดยรถรุ่นดังกล่าวเพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเมืองไทย โดย นิชคาร์ กรุ๊ป เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ถือเป็นซูเปอร์คาร์สมรรถนะสูง ขุมพลัง 4.0 ลิตร V8 ความแรงสูงถึง 720 แรงม้าตามชื่อรุ่น ทำความเร็ว 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 2.9 วินาที

     ราคาขายในประเทศอังกฤษ อยู่ที่ 218,020 ปอนด์ หรือราว 9.5 ล้านบาทไทย แต่หากนำเข้ามาอย่างเป็นทางการในเมืองไทยราคารวมภาษีแล้ว 720S คันนี้ อยู่ที่ 26.5 ล้านบาท ซึ่งลูกค้าสามารถเพิ่มเติมออพชั่นได้ทุกชิ้นส่วน และหากจัดเต็มออฟชั่นราคาจะขยับสูงขึ้นถึง 33 ล้านบาท เลยทีเดียว

เผยราคา “อะไหล่” ซูเปอร์คาร์

     Tonkit360 ได้รับการเปิดเผยจาก euroschone.com ซึ่งเป็นผู้นำเข้าอะไหล่รถซูเปอร์คาร์ของแท้มือสอง เผยว่า รถในระดับซูเปอร์คาร์จะไม่มีการใช้อะไหล่ซึ่งเป็นของเทียมเหมือนรถญี่ปุ่นหรือรถยุโรปบางค่าย เว้นแต่จะเป็นของแต่งซึ่งไม่ใช่ชิ้นส่วนที่ติดมาจากโรงงานตั้งแต่เริ่มต้น

     โดยอะไหล่ซูเปอร์คาร์ทุกชิ้นในเมืองไทยจะเป็นอะไหล่แท้ทั้งหมด ขึ้นอยู่กับว่าจะเป็นอะไหล่มือหนึ่ง หรือมือสองเท่านั้น ซึ่งราคาอะไหล่มือสองจะถูกว่าของมือหนึ่งกว่าเท่าตัวเลยทีเดียว ยกตัวอย่าง ชุดไฟท้ายรถเฟอร์รารี 458 หากเป็นมือสองของแท้จะอยู่ที่ประมาณ 180,000 บาท และถ้าเป็นของมือหนึ่งราคาจะทะลุไปถึงหลัก 300,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สามารถซื้อรถยนต์มือสองสภาพดีได้เลยทีเดียว

     หรือกระทั่งกันชนหน้า (เฉพาะตัวกันชนไม่รวมอุปกรณ์ส่วนควบและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์) ของ ลัมโบร์กินี่ LP650 ราคามือสองของแท้อยู่ที่ประมาณ 90,000 บาท และหากเป็นอะไหล่มือหนึ่งราคาจะสูงถึง 150,000 เลยทีเดียว เช่นเดียวกันล้อแม็ค พอร์เช่ 911 ราคามือสองอยู่ที่วงละ 60,000 บาท รวม 4 วง ก็แตะหลัก 200,000 เลยทีเดียว

เบี้ยประกันซูเปอร์คาร์เป็นอย่างไร

     อีกหนึ่งประเด็นที่หลายคนสนใจคือ “ซูเปอร์คาร์” รถยนต์ระดับราคา 10 ล้านขึ้นไป มีการทำประกันเหมือนรถยนต์ทั่วไปหรือไม่ คำตอบคือ รถยนต์ทุกประเภทหากนำมาขับบนท้องถนนเมืองไทยอย่างถูกต้อง ก็จะต้องจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก ซึ่งจะมาพร้อมกับประกันภัยภาคบังคับ หรือ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถนั่นเอง

     ส่วนประกันที่ทำกับบริษัทเอกชนที่ปกติแล้ว จะมีตั้งแต่ชั้น 3 ไปจนถึงชั้น 1 ก็มีในรถระดับซูเปอร์คาร์เช่นเดียวกัน เพียงแต่ว่า ราคาเบี้ยประกันก็จะสูงตามราคาของรถตามไปด้วย ซึ่งส่วนใหญ่ราคาเบี้ยประกันของรถประเภทนี้จะอยู่ในระดับหลักแสน และบวก-ลบ ตามราคาของรถนั่นเอง