เกียร์พัง ค่าซ่อมเป็นแสน ต้องทำยังไง
ระยะหลังอาจมีหลายคนเคยได้ยินปัญหาเกียร์พังในผู้บริโภคบางกลุ่ม เนื่องจากไม่ได้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์เพราะเข้าใจว่าไม่ต้องเปลี่ยนตลอดอายุการใช้งานตามที่แบรนด์รถระบุไว้ แล้วเกียร์มีปัญหา เสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร เสียเงินซ่อมหลักแสนบาทภายในระยะเวลาไม่กี่ปี หรือใช้รถไปไม่นานต้องยกเกียร์ใหม่ทั้งลูก ทั้งที่ ตามปกติแล้วเกียร์ออโต้ หากใช้งานทั่วไปตามปกติ จะมีอายุการใช้งานได้ถึง 10-20 ปี หรือมากกว่า 300,000 กิโลเมตร
นอกจากนี้ มีคนอีกจำนวนมากที่ยังไม่รู้ว่า ที่จริงแล้วเกียร์อัตโนมัติหรือเกียร์ออโต้ในรถยนต์นั้น มีอายุการใช้งานจำกัด ดังนั้นจึงต้องการการดูแลรักษาและใช้งานอย่างถูกวิธี เพื่อยืดอายุการใช้งานในระยะยาว โดยผลการสำรวจพฤติกรรมการขับขี่รถยนต์เกียร์อัตโนมัติจากกลุ่มตัวอย่าง* พบว่า กว่า 70% ของผู้ใช้รถยนต์เกียร์อัตโนมัติ ไม่ทราบว่าพฤติกรรมการขับขี่รถยนต์ของตัวเองนั้น เป็นพฤติกรรมที่ผิด!!! และส่งผลให้เกียร์พังก่อนอายุการใช้งานที่ควรจะเป็น อีกทั้งยังไม่ทราบว่าอาการรถที่คิดว่าปกตินั้น จริง ๆ แล้ว รถมีอาการผิดปกติ เริ่มมีปัญหา แต่ไม่สังเกต!!!
อาการอย่างไรที่ส่อเค้าเกียร์รถมีปัญหา
วิธีการสังเกตรถผิดปกติเบื้องต้นง่ายๆ คือ การสังเกตจากเสียง, สัมผัสการสั่นสะเทือนของรถ หรือแม้แต่สมรรถนะการขับขี่ของรถยนต์ที่ผิดแปลกออกไปจากเดิม เกียร์รถที่มีปัญหาก็เช่นเดียวกัน ตัวอย่างเช่น ในช่วงเวลาเช้าๆ เมื่อสตาร์ทรถ นับ 1-10 แล้วรถยังไม่วิ่ง หรือรอบเครื่องของรถเร่งขึ้นสูง แต่รถไม่สามารถออกตัวได้ นั่นแปลว่าคุณกำลังเจอกับปัญหา "เกียร์ลื่น", “เกียร์กระตุก” หรือถึงขั้น “เกียร์กระชาก” ซึ่งอาจส่งผลต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ตัวอย่างเช่น เวลาพยายามเร่งแซง แต่รถไม่มีกำลังส่ง ทำให้เหยียบแซงไม่พ้น เกิดอุบัติเหตุประสานงาได้ หรือบางกรณีถอยรถเข้าบ้านหรือออกตัว เมื่อรถไม่ไป จึงออกแรงกดคันเร่งเต็มที่ เมื่อมีแรงส่งจากเกียร์ที่เริ่มทำงานช้า ทำให้รถพุ่งชน
ตัวอย่างอาการเหล่านี้ หากเจ้าของรถยนต์ยังละเลย ขาดการดูแล เมื่อทิ้งระยะเวลานานเข้า สะสมปัญหาจนสุดท้าย ต้องผ่าเกียร์โอเวอร์ฮอล ไล่เช็คทั้งระบบ หนักที่สุดคือการเสียเงินแสนยกเกียร์ลูกใหม่ หากเจออู่ซ่อมไม่ถูกจุด ก็ซ่อมไม่จบ งบบานปลาย บางคนถอดใจ ถึงขั้นขายรถทิ้ง ถอยคันใหม่สบายใจกว่า
แล้วต้องดูแลอย่างไรให้รถใช้ได้เป็น 10 ปี แต่เกียร์ยังฟิตเปรี๊ยะ!!!
“ถนอมรถ ถนอมเกียร์ ขับขี่ถูกวิธี ดูแลสม่ำเสมอ” ช่างที่ไหนก็พูดเหมือนกันหมด ไม่ว่าจะเป็นการไม่ คิกดาวน์ (Kick Down) หรือเชนเกียร์บ่อยเกินความจำเป็น เจอทางลาดต้องใช้เบรกมือช่วย เพื่อเบาแรงสลักเกียร์ หมั่นเข้าเกียร์ N เมื่อรถติดนาน ๆ อีกทั้งไม่ขับลากเกียร์และเปลี่ยนเกียร์ให้สัมพันธ์กับความเร็ว รวมถึงไม่เปลี่ยนเกียร์จาก D ไป R เร็วเกินไป โดยก่อนจะเข้าเกียร์ต้องเหยียบเบรกก่อนเสมอ และไม่ถอยหลังแล้วเดินหน้าทันที เพราะจะทำให้เกิดแรงที่หมุนสวนทางกันอย่างรุนแรง ซึ่งการขับขี่รถอย่างถูกวิธีนั้นมีส่วนช่วยลดความเสียหายต่อชุดเกียร์ได้
นอกจากนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการ “ดูแลอย่างสม่ำเสมอ” โดย คุณรัตนะลักษณ์ สกุลเขียว ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคเครื่องยนต์และระบบเกียร์อัตโนมัติ จาก ALPHA’S แบรนด์น้ำมันเกียร์อัตโนมัติเกรดพรีเมียมจากประเทศญี่ปุ่น ได้แนะนำอีกว่าการถนอมเกียร์วิธีที่ง่ายที่สุด คือ การเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ ที่ได้ “เกรด” และ "มาตรฐาน" รองรับการใช้งานของระบบเกียร์รถ และต้องดู “เบอร์น้ำมันเกียร์ให้ตรงกับคู่มือรถ หรือเลือกน้ำมันเกียร์ที่ทดแทนน้ำมันเกียร์เดิมของรถได้" (บางกรณีสามารถเช็คเบอร์น้ำมันเกียร์ได้จากก้านวัดน้ำมันเกียร์ที่มีสลักไว้) โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนน้ำมันเกียร์เฉพาะให้ตรงกับยี่ห้อรถยนต์ก็ได้ และแนะนำให้เปลี่ยนทุก ๆ 20,000 กิโลเมตร หรือ 1 ปี เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด
น้ำมันเกียร์ต้องเปลี่ยนเมื่อไหร่???
คุณเอกชัย เทวกุล ณ อยุธยา ผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์กลุ่มน้ำมันและของเหลวสำหรับรถยนต์ จาก ALPHA’S ได้อธิบายอีกว่าปกติอายุของน้ำมันเกียร์ทุกยี่ห้อ มีกำหนดไว้ที่ระยะครบ 40,000 กิโลเมตร ดังนั้น ศูนย์รถแต่ละยี่ห้อ จึงแนะนำให้เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ทุก 40,000 กิโลเมตร แต่ด้วยสภาพการจราจรที่ติดขัด การขับขี่จะต้องมีการเปลี่ยนเกียร์ที่มากกว่าปกติ เกียร์ทำงานเยอะขึ้น การสึกหรอมากขึ้น ก่อให้เกิดผงคลัช, เศษเหล็กหรือสิ่งสกปรกอื่นๆ ไปปะปนกับน้ำมันเกียร์ ทำให้น้ำมันเกียร์มีประสิทธิภาพและคุณสมบัติลดลง การสังเกตคุณภาพของน้ำมันเกียร์ ดูได้จากสี ความใส ฟองน้ำมันและตะกอนที่ปะปนมากับน้ำมัน ซึ่งสามารถตรวจดูได้พร้อมกันกับตอนที่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง โดยที่การเปลี่ยนน้ำมันเกียร์มี 2 แบบ ได้แก่
1. การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์แบบปกติ ใช้วิธีขันน็อตถ่าย
วิธีนี้น้ำมันเกียร์จะถูกถ่ายออกมาแค่ 40%-50% ของน้ำมันเกียร์ทั้งระบบ ดังนั้นในระบบจึงมีน้ำมันเกียร์เก่าที่ปนเปื้อนกับผงคลัทช์หรือผงเศษเหล็กซึ่งเกิดจากการทำงานของเกียร์ค้างอยู่ในระบบ ทำให้คุณสมบัติของน้ำมันเกียร์ลดลง ดังนั้นการเปลี่ยนถ่ายแบบนี้ แนะนำให้เปลี่ยนถ่ายทุก 20,000 กิโลเมตร
2. แบบเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ทั้งระบบ หรือเรียกว่า “การฟอกเกียร์” หรือ “เปลี่ยนถ่ายทั้งระบบ” หรือ “ฟลัชชิ่งเกียร์”
วิธีนี้น้ำมันเกียร์เก่าในระบบจะถูกถ่ายออกมาทั้งหมด และดันน้ำมันเกียร์ใหม่เข้าไปทดแทน น้ำมันเกียร์ใหม่จึงยังคงคุณสมบัติได้เป็นอย่างดีเพราะไม่ถูกเจือปนโดยน้ำมันเกียร์เก่า การเปลี่ยนถ่ายแบบนี้ต้องใช้เครื่องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ แนะนำให้เปลี่ยนถ่ายทุก 40,000 กิโลเมตร โดยส่วนใหญ่เครื่องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ หรือที่เรียกกันติดปากในหมู่ช่างว่า เครื่องฟอกเกียร์ จะรองรับเฉพาะระบบเกียร์ ATF เท่านั้น ถ้าต้องการฟอกเกียร์ระบบ CVT จำเป็นต้องมีอุปกรณ์เชื่อมต่อเรียกว่า CVT Adaptor ใช้ควบคู่กันกับเครื่องฟอกเกียร์ด้วย*
(สำหรับค่าบริการของการฟอกเกียร์จะมีอัตราที่สูงกว่า เพราะใช้น้ำมันเกียร์มากกว่าการเปลี่ยนถ่ายแบบปกติถึงเท่าตัว และหากต้องการเข้ารับบริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ทั้งระบบ สำหรับเกียร์ทั้งระบบ ATF และ CVT สามารถเช็ครายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.alphas-thailand.com/alphas-directory)
เพียงเท่านี้ก็สามารถขับขี่ได้อย่างปลอดภัย ไร้กังวล ไม่เสี่ยงต่อการเสียเงินหลักแสน เพื่อยกเกียร์ลูกใหม่ ยืดอายุการใช้งานรถยนต์ได้อีกนาน และอย่าลืมว่าไม่ว่าจะขับรถราคาแสนแพงแค่ไหน ทุกชิ้นส่วนของรถมีอายุการใช้งานที่สามารถเสื่อมสภาพได้ แต่สามารถยืดอายุการใช้งานได้มากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษา พฤติกรรมการขับขี่และการใช้งาน รวมถึงความใส่ใจต่อการดูแลรถและการช่างสังเกตของเจ้าของรถและผู้ขับขี่เองด้วย
สำหรับใครที่สนใจอยากรู้วิธีดูแลรักษารถรักษาเกียร์เพิ่มเติม และแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องรถกับผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิครถยนต์และเกียร์โดยเฉพาะ พร้อมลุ้นรับสิทธิ์เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ ฟรี! กับแคมเปญเวิร์คชอป “‘อัลฟ่าส์ซัง’ ชวนก๊วนคนรักรถ ดูแลรถ ดูแลเกียร์ ใจไม่เพลีย เกียร์ไม่พัง” ปลุกกระแสรณรงค์ผู้บริโภคให้ตื่นตัวดูแลรถดูแลเกียร์อย่างถูกวิธี ป้องกันปัญหาเกียร์พังก่อนอายุการใช้งาน ให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลเกียร์รถยนต์อัตโนมัติ พร้อมสังเกตอาการผิดปกติของรถยนต์และความสำคัญของพฤติกรรมการขับขี่รถยนต์เกียร์อัตโนมัติที่ถูกต้อง เพื่อยืดอายุเกียร์รถยนต์อัตโนมัติ ป้องกันปัญหาเกียร์พัง ยกเกียร์ลูกใหม่ราคาหลักแสน สามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ที่ http://bit.ly/2Qd9UxL รับสิทธิ์จำนวนจำกัดเพียง 30 ท่านเท่านั้น!!!
“รักรถต้องดูแล ไม่อยากเสียเงินแสน แนะนำเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ ทุก 20,000 กม.หรือ 1 ปี”
[Advertorial]