สวิตช์แอร์แต่ละปุ่มใช้งานอย่างไรบ้าง?

สวิตช์แอร์แต่ละปุ่มใช้งานอย่างไรบ้าง?

สวิตช์แอร์แต่ละปุ่มใช้งานอย่างไรบ้าง?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     ระบบปรับอากาศในรถยนต์เป็นอุปกรณ์สำคัญที่สุดอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเทศไทยที่สภาพอากาศร้อนระอุตลอดทั้งปี

     แต่หลายคนยังมีความรู้ความเข้าใจในการใช้งานระบบปรับอากาศในรถยนต์ไม่ดีพอ อาจทำให้ใช้ประโยชน์จากระบบแอร์ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ หรือบางครั้งอาจทำให้เกิดปัญหากับระบบแอร์รถยนต์ตามมาในระยะยาวได้ Sanook! Auto จึงขอแนะนำสวิตช์แอร์แต่ละปุ่มว่ามีวิธีใช้งานอย่างไรบ้าง

205

ปุ่มปรับความแรงลม

     อันนี้หลายคนคงคุ้นเคยดี และใช้งานบ่อยที่สุด เพราะเป็นตัวปรับความแรงลมที่เป่าออกมาจากช่องแอร์ ทางที่ดีหากรู้สึกว่าแอร์เย็นเกินไป ควรลดความแรงลมลงด้วยการใช้ปุ่มนี้ แทนที่การปิดหน้ากากแอร์บนแผงคอนโซล จะช่วยให้ความเย็นไหลเวียนได้เต็มประสิทธิภาพ ลดโอกาสเกิดความชื้นสะสมในตู้แอร์ได้

 

201

ปุ่มปรับอุณหภูมิ (แบบมีฮีตเตอร์)

     หากรถของคุณใช้ระบบแอร์แบบมีฮีตเตอร์ ก็จะมีสัญลักษณ์แถบสีแดงปรากฏบนสวิตช์ควบคุมด้วย ซึ่งระบบแอร์ชนิดนี้จะเอาอากาศเย็นและอากาศร้อนผสมกัน เพื่อให้ได้อุณหภูมิตามที่ตั้งค่าไว้มากที่สุด รถยนต์ที่ใช้ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติมักจะใช้ระบบแอร์ลักษณะดังกล่าวนี้แทบทั้งหมด

 

203

ปุ่มปรับน้ำยาแอร์ (แบบไม่มีฮีตเตอร์)

     ส่วนระบบแอร์ที่ไม่มีระบบฮีตเตอร์ ก็มักจะมีเฉพาะแถบสีฟ้าเท่านั้น และไม่มีตัวเลขอุณหภูมิกำหนดไว้ เนื่องจากเป็นการปรับปริมาณน้ำยาแอร์มากน้อยตามความต้องการของคนในรถ หากหมุนไปยังตำแหน่งเย็นน้อยที่สุด ก็จะเป็นการปิดการทำงานของคอมเพรซเซอร์แอร์ ทำให้ไม่มีความเย็นออกมา แต่ก็จะไม่อุ่นเหมือนกับระบบแอร์แบบมีฮีตเตอร์

 

204

ปุ่มควบคุมทิศทางลม

     ระบบแอร์ส่วนมากสามารถเลือกได้ว่าจะให้ลมเป่าตรงไปยังร่างกายเพียงอย่างเดียว หรือเป่าลงเท้าด้วยก็ได้ ก็จะช่วยให้โดยสารในวันอากาศร้อนๆ ได้สบายยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถปรับให้ลมเป่าขึ้นไปยังกระจกบังลมหน้าเพื่อช่วยในการไล่ฝ้า หรือช่วยลดความร้อนบริเวณเพดานได้

 

207

ปุ่มไล่ฝ้ากระจกบังลมหน้า

     ปุ่มไล่ฝ้ากระจกบังลมหน้าจะมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมู พร้อมกับสัญลักษณ์ไอระเหย เมื่อกดใช้งาน ระบบจะดึงอากาศภายนอกเข้ามาในรถ และเป่าตรงไปยังกระจกบังลมหน้า เพื่อช่วยให้อุณหภูมิบนผิวกระจกเท่ากันทั้งสองฝั่ง จะช่วยให้ฝ้าจางลงได้

 

206

ปุ่มไล่ฝ้ากระจกหลัง

     ปุ่มไล่ฝ้ากระจกหลังจะต่างจากกระจกหน้าตรงที่เป็นสัญลักษณ์รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ซึ่งการทำงานของระบบไล่ฝ้าหลังจะแตกต่างกับไล่ฝ้าด้านหน้าด้วย เนื่องจากกระจกหลังจะใช้ความร้อนจากลวดที่ฝังอยู่ในกระจกเป็นตัวกำจัดฝ้าแทน ทำให้ฝ้าสลายไปอย่างรวดเร็ว และไม่ก่อให้เกิดเสียงดัง เมื่อฝ้าจางลงหมดแล้วควรรีบปิดระบบไล่ฝ้าทันที เพื่อป้องกันกระจกแตก

 

200

ปุ่มเร่งความเย็นสูงสุด

     ปุ่มเร่งความเย็นสูงสุด (MAX A/C) จะปรับระบบแอร์ให้ใช้ความแรงลมสูงสุดและอุณหภูมิต่ำสุดโดยอัตโนมัติ เพื่อสร้างความเย็นภายในห้องโดยสารอย่างรวดเร็ว เมื่อถึงเวลาตามที่ระบบตั้งไว้ ระบบจะตัดการทำงานโดยอัตโนมัติ และกลับไปใช้อุณหภูมิที่ตั้งไว้แต่แรก

     ทางที่ดีหากรถรุ่นไหนมีปุ่มแปลกๆ แตกต่างไปจากนี้ ก็ควรศึกษาวิธีใช้งานจากคู่มือเสียก่อน จะได้เกิดประโยชน์สูงสุดครับ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook