ไฟหน้ารถมีกี่แบบ? แบบไหนถึงจะดีที่สุด?
ไฟหน้ารถยนต์ในปัจจุบันมีการพัฒนาไปจากสมัยก่อนค่อนข้างมาก เพื่อเพิ่มทัศนวิสัยยามค่ำคืนให้ดีที่สุดเท่าที่เทคโนโลยีในปัจจุบันจะเอื้ออำนวย แล้วรู้ไหมว่าปัจจุบันไฟหน้ารถยนต์มีกี่แบบ? แล้วแบบไหนจึงจะเรียกว่าดีที่สุด?
ก่อนอื่นเราคงต้องแบ่งการทำงานของไฟหน้าออกเป็น 2 ส่วนหลัก ได้แก่ ชุดโคมไฟ และหลอดไฟ ซึ่งรถแต่ละรุ่นมีการเลือกติดตั้งต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับต้นทุนการผลิตและสภาพการใช้งานของรถรุ่นนั้นๆ
ชุดโคมไฟหน้าในปัจจุบัน ประกอบด้วย
1. มัลติรีเฟล็กเตอร์ - ชุดโคมแบบมัลติรีเฟล็กเตอร์เป็นที่นิยมในรถราคาประหยัด โดยจะมีจานฉายซึ่งสามารถหักเหแสงสะท้อนไปมา เพื่อสร้างความสว่างสูงสุดลงบนพื้นถนน โคมประเภทนี้ส่วนมากมักใช้กับหลอดไฟแบบฮาโลเจนที่ให้แสงสีนวล แต่ก็มีรถบางรุ่นที่ใช้คู่กับหลอดซีนอน หรือแอลอีดี ซึ่งมีการออกแบบการหักเหของแสงมาโดยเฉพาะ
ดังนั้นจึงไม่ควรนำโคมไฟแบบมัลติรีเฟล็กเตอร์ที่มาคู่กับหลอดฮาโลเจนจากโรงงาน มาเปลี่ยนเป็นหลอดแบบซีนอน เพราะจะทำให้แสงที่ได้ฟุ้งกระจาย รบกวนสายตาผู้ร่วมทางจนเป็นอันตรายอย่างมาก
2. โปรเจคเตอร์ - ชุดโคมแบบโปรเจคเตอร์มักถูกติดตั้งในรถที่มีราคาสูงขึ้นมาหน่อย โดยอาจมาพร้อมหลอดไฟแบบฮาโลเจน, ซีนอน หรือ LED ก็ได้ ข้อดีของโคมโปรเจคเตอร์ คือ การกระจายแสงที่เป็นระเบียบกว่าโคมมัลติรีเฟล็กเตอร์ ช่วยลดการฟุ้งกระจายของแสงได้ อีกทั้งยังช่วยให้รถดูสวยงามขึ้นอีกด้วย
ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ในรถราคาย่อมเยาลงมาหน่อย มักแยกไฟสูงออกมาอีกชุดหนึ่ง ตัวโคมโปรเจคเตอร์จึงมีหน้าที่ส่องสว่างเฉพาะไฟต่ำเท่านั้น ขณะที่รถราคาสูงขึ้นมาอีก มักเป็นแบบไฟต่ำ-ไฟสูงในชุดเดียวกัน (ที่เรียกว่า Bi-Xenon, Bi-LED หรือ Bi-Halogen แล้วแต่ชนิดของหลอดไฟ) ซึ่งมีข้อดีอยู่ที่การสลับไปมาระหว่างไฟต่ำ-ไฟสูง ทำได้อย่างรวดเร็ว และมีการกระจายไฟสูงที่ดีกว่าด้วยเช่นกัน
หลอดไฟหน้าในปัจจุบัน ประกอบด้วย
1. หลอดฮาโลเจน - หลอดไฟแบบฮาโลเจนยังคงได้รับความนิยมบนท้องถนนมากที่สุด เนื่องจากมีต้นทุนต่ำ หาเปลี่ยนได้ง่าย อะไหล่ไม่แพง ขณะที่แสงสีเหลืองนวลยังสามารถส่องพื้นถนนยามฝนตกได้ดีกว่าไฟสีขาวหรือสีอมฟ้า ซึ่งหลอดฮาโลเจนในปัจจุบันก็มีด้วยกันหลายเกรด ตั้งแต่เกรดมาตรฐานติดโรงงาน ไปจนถึงเกรดสูงๆ ที่ให้แสงสีขาวกว่า และมีความสว่างมากกว่า
2. หลอด Xenon (HID) - หลอดไฟแบบซีนอนได้รับความนิยมเป็นช่วงเวลาไม่นานนัก ก่อนที่หลายค่ายจะเปลี่ยนมาใช้หลอดแบบ LED แทน ซึ่งก่อนหน้าที่เทคโนโลยี LED จะเข้ามามีบทบาทในอุตสาหกรรมไฟหน้ารถยนต์นั้น หลอดซีนอนเป็นหลอดที่ให้ความเข้มของแสงมากกว่าหลอดฮาโลเจน และยังให้ความขาวสว่างมากกว่าด้วย จึงทำให้เป็นที่นิยมของรถหรูในช่วงนั้น แต่กระนั้น ค่าอุณหภูมิสีของหลอดซีนอนที่เป็นมาตรฐาน จะอยู่ที่ 4300K ซึ่งเป็นอุณหภูมิสีที่ให้ความสว่างสูงสุด หากมีค่า K มากกว่านี้ (อมฟ้ามากขึ้น) จะทำให้ความสว่างค่อยๆ ลดลงไป
3. หลอด LED - หลอดไฟประเภทนี้กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากให้ความสว่างสูง ความร้อนต่ำ และกินไฟน้อย ช่วยเพิ่มความประหยัดเชื้อเพลิงทางอ้อมได้ ซึ่งหลอดแบบ LED สามารถใช้ได้กับโคมไฟทั้งแบบมัลติรีเฟล็กเตอร์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ หรือโคมโปรเจคเตอร์ก็ได้ ซึ่งผู้ผลิตสามารถออกแบบชิ้นเลนส์โปรเจคเตอร์ให้มีรูปลักษณ์เข้ากับดีไซน์โดยรวมของชุดไฟหน้าได้อีกด้วย
4. หลอดเลเซอร์ - ไฟหน้าแบบเลเซอร์ถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำที่สุดปัจจุบัน แต่ยังคงมีใช้อย่างจำกัดเฉพาะรถบางรุ่น เช่น Audi A8 และ BMW i8 แถมยังใช้สำหรับไฟสูงเท่านั้น เนื่องจากมีความสว่างสูงมากเกินกว่าจะใช้งานปกติได้
อย่างไรก็ดี การเปลี่ยนหลอดไฟหน้าใหม่ ควรเลือกหลอดประเภทเดิมจึงจะดีที่สุด เนื่องจากชุดโคมถูกออกแบบมาสำหรับหลอดแต่ละประเภทโดยเฉพาะครับ