Mitsubishi Mirage เพื่อนเดินทางของเรา

     ในช่วงเวลา 2-3 เดือนที่ร้อนที่สุดแห่งปีคือ วันที่บนปฏิทินขึ้นเป็นตัวสีแดงติดๆ กัน รถยนต์ส่วนตัวยังได้รับความนิยมใช้การเดินทางท่องเที่ยว เพราะมีความสะดวกสบายและเป็นส่วนตัว นึกอยากจะออกเดินทางเมื่อไร อยากจะแวะพักที่ไหนก็สามารถทำได้ตามใจชอบ  ส่วนปัจจัยที่สำคัญในการเดินทางสำหรับช่วงเศรษฐกิจแบบนี้คือเรื่องของราคาอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเพราะราคาของน้ำมันในบ้านเราไม่ถูก ดังนั้นรถยนต์มิราจคันเก่งจึงเหมาะสมเป็นเพื่อนคู่ใจในการเดินทางในช่วงแบบนี้

     การประหยัดน้ำมัน Eco Car ของมิตซูบิชิไม่ทำให้ผู้ขับขี่ต้องผิดหวัง เมื่อเลือกใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร แบบ 3สูบ DOHC MIVEC 12 VALVE  ที่ให้กำลังสูงสุด 78 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 100 นิวตัน-เมตรที่ 4,000 รอบ/นาที มีระบบส่งกำลังมาให้เลือกทั้งแบบเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และระบบเกียร์อัตโนมันิต CVT 6 จังหวะ ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์อัจฉริยะ INVECS-III ที่เพิ่มประสิทธิภาพการขับเคลื่อนและให้การประหยัดน้ำมัน

     ทั้งนี้มิตซูบิชิได้แสดงให้เห็นถึงความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีเครื่องยนต์ของมิราจ ด้วยการใช้เสื้อสูบอลูมิเนียมอัลลอยที่มีน้ำหนักเบา แต่ให้ความแข็งแรงและระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี ที่มาพร้อม MIVEC ที่เป็นระบบวาล์วแปรผัน ทำหน้าที่ควบคุมการเปิด-ปิด วาล์วไอดีให้แปรผันสัมพันธ์กับอัตราเร่งในทุกๆ รอบเครื่องยนต์ ทำให้ตัวเลขอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงออกมาเป็นตัวเลขที่ 22 กม./ลิตร * ทำให้ค่าใช้จ่ายเรื่องน้ำมันเชื้อเพลิงในการเดินทางถูกลงอย่างเห็นได้ชัด

 

     หากพูดถึงเรื่องของรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว Mirage ดูโดดเด่นล้ำสมัยไม่ว่าจะเป็นในส่วนของด้านหน้า ด้านข้าง หรือ ด้านหลัง การใช้เทคโนโลยีการออกแบบเพื่อลดน้ำหนักโดยรวมของตัวรถ ทำให้มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานที่ต่ำเพียง 0.29 ซึ่งถือได้ว่า ดีที่สุดในรถระดับเดียวกัน และให้ความมั่นใจด้วยส่วนรับแรงกระแทกจากการใช้เหล็กที่แข็งแรงเป็นพิเศษ High Tensile Steel จึงให้ความรู้สึกถึงความปลอดภัยในการเดินทางท่องเที่ยวระยะทางไกลๆ ส่วนขนาดของตัวถังช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างคล่องตัว โดยรัศมีวงเลี้ยวแคบสุดที่ 4.4 เมตรมีความคล่องตัวในการเลี้ยวและถอยจอดในพื้นที่จำกัด

 

      เมื่อเข้าไปภายในห้องโดยสารจะพบกับความแปลกใจกับพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางมากเพียงพอสำหรับคนรูปร่างสูงใหญ่ รวมถึงเบาะนั่งโดยสารตอนหลังที่ยังสามารถนั่งได้ 3 ที่นั่ง พร้อมพื้นที่วางขาที่มากพอ จึงทำให้การเดินทางระยะทางไกลๆไม่เมื่อยล้าและยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่มีในรถระดับใหญ่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ระบบกุญแจอัจฉริยะ KOS ที่สามารถล็อกหรือปลดล็อกประตู และฝากระโปรงท้าย รวมไปถึงการสตาร์ทหรือดับเครื่องยนต์ได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องใช้กุญแจ รวมถึงการติดตั้งปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ ที่เพียงใช้ปลายนิ้วสัมผัส รวมถึงการติดตั้งระบบพับเก็บและกางกระจกมองข้างอัตโนมัติเมื่อกดล็อกและปลดล็อกรถ กระจกไฟฟ้าแบบขึ้น-ลง อัตโนมัติพร้อมระบบเซฟตี้ หากจะถามหาความเพลิดเพลินยามขับขี่ในการเดินทางไกลๆ ด้วยแล้ว วิทยุ ซีดี MP3 และจอภาพแบบระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ที่มาพร้อมระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย ระบบนำทางในรถ และช่องต่อ USB เพียงเท่านี้ก็ทำให้รถคันนี้มีคุณค่าคุ้มราคาแล้ว

      ส่วนเรื่องของสภาพพื้นผิวถนนที่มีทั้งขรุขระ เป็นลอน คลื่น ลูกระนาด ที่มักจะพบเห็นได้ทั่วไปในถนนในเมืองไทยที่ มิตซูบิชิ เลือกใช้ระบบกันสะเทือนช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท ที่ช่วยเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่และเกาะถนน พร้อมช่วงล่างด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม ที่ให้ความแข็งแรง ทนทานดูแลรักษาง่าย รวมไปถึงการนำเอาระบบเบรก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรกอิเล็กทรอนิกส์ EBD และการเลือกใช้จานเบรกหน้าขนาด 13 นิ้วแบบมีช่องระบายความร้อนช่วยให้การเบรกเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และดรัมเบรกหลังขนาด 7 นิ้ว แข็งแรงทนทาน

     ความคุ้มค่าทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมาแล้วนั้น ทำให้เรามั่นใจในมิราจ ให้เป็นเพื่อนคู่ใจสำหรับการท่องเที่ยวในช่วงเดือนที่มีวันหยุดแบบยาวๆของเราในครั้งนี้

 

     _{*ผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการตามมาตรฐานยุโรป UNECE Reg.01 Combine Mode}