จำให้แม่น! วิธีเอาตัวรอดเมื่อรถจมน้ำ เพิ่มโอกาสรอดได้จริง

จำให้แม่น! วิธีเอาตัวรอดเมื่อรถจมน้ำ เพิ่มโอกาสรอดได้จริง

จำให้แม่น! วิธีเอาตัวรอดเมื่อรถจมน้ำ เพิ่มโอกาสรอดได้จริง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

      อุบัติเหตุรถยนต์ตกน้ำมีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ ซึ่งแม้ว่าผู้โดยสารจะไม่ได้รับบาดเจ็บจากการกระแทกเหมือนอุบัติเหตุรูปแบบอื่นๆ แต่ผู้โดยสารภายในรถก็มีความเสี่ยงต่อการจมน้ำจนกระทั่งขาดอากาศหายใจ และเสียชีวิตได้ 

      Sanook! Auto จึงได้รวบรวมแนวทางการเอาตัวรอดในกรณีรถตกน้ำ เราจะมีวิธีไหนบ้างเพื่อหนีออกจากตัวรถอย่างปลอดภัย

1.เปิดประตู-ลดกระจกโดยเร็วที่สุด

      สิ่งแรกที่ต้องทำหลังจากประสบอุบัติเหตุรถตกน้ำ คือ ต้องตั้งสติให้มั่น อย่าตื่นตระหนก เวลาเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในขณะนั้น ยิ่งปล่อยให้เวลาเนิ่นนานเท่าไหร่ โอกาสรอดยิ่งน้อยลง จากนั้นให้รีบปลดเข็มขัดนิรภัยทันที เพื่อความสะดวกคล่องตัว

      สิ่งต่อมาที่ต้องทำหลังจากได้สติ คือ "การเปิดโอกาสรอด" ซึ่งในที่นี้หมายถึง การเปิดประตูและหน้าต่างทันทีที่มีโอกาส หากตัวรถตกน้ำในลักษณะล้อชี้ลง ไม่พลิกหงายเก๋งจนล้อชี้ฟ้า ให้รีบกดกระจกหน้าต่างทั้ง 4 บานลงทันที เนื่องจากระบบไฟของตัวรถจะยังคงมีไฟจากแบตเตอรี่เลี้ยงเอาไว้แม้ว่ารถจะดับก็ตาม จากนั้นจึงพาตัวเองออกมาจากรถอย่างปลอดภัย ซึ่งระหว่างนั้นอาจมีน้ำจำนวนมากทะลักเข้ามาในตัวรถอย่างรวดเร็ว แต่ก็มีโอกาสรอดสูงเช่นกัน

200

2.ใช้ของแข็งทุบ-งัดกระจก

      ในกรณีที่รถจมลงใต้น้ำอย่างรวดเร็ว จนไม่สามารถเปิดกระจกหน้าต่างได้ทัน วิธีหนึ่งที่มีการแชร์ในโลกโซเชียล คือ การถอดพนักพิงศีรษะออก แล้วนำด้านที่เป็นก้านเหล็กเสียบเข้าไปบริเวณซอกระหว่างประตูและกระจกหน้าต่าง จากนั้นให้ออกแรงงัดจนกระทั่งกระจกแตกออก จึงค่อยผลักกระจกให้หลุด ซึ่งวิธีนี้ต้องเน้นว่า รถแทบทุกคันในบ้านเราล้วนแต่ติดฟิล์มกรองแสง ซึ่งเป็นตัวยึดรั้งให้กระจกหลุดได้ยากขึ้น จึงจำเป็นต้องใช้แรงผลักพอสมควรครับ

002

ความเชื่อที่สืบต่อกันมาอาจไม่จริงเสมอไป

      หลายคนอาจเคยได้ยินมาว่า หากรถตกน้ำ ให้ตั้งสติอยู่ภายในรถนิ่งๆ รอให้น้ำเข้ารถจนเต็ม แล้วจึงเปิดประตูออก เนื่องจากแรงดันน้ำมหาศาลภายนอก จะทำให้ไม่สามารถเปิดประตูได้ถ้าน้ำภายในรถยังไม่เต็ม ซึ่งข้อความดังกล่าวแม้ว่าจะดูเป็นไปได้ในทางทฤษฎี แต่ในทางปฏิบัติก็ไม่มีการยืนยันว่าประตูจะเปิดออกได้โดยง่ายเมื่อมีน้ำเต็มห้องโดยสาร และกว่าที่จะรอให้น้ำเต็มห้องโดยสารได้นั้น ผู้โดยสารภายในรถก็มีความเสี่ยงเป็นอย่างมากที่จะขาดอากาศหายใจ ฉะนั้นทางออกที่ดีที่สุดคือต้องรีบลงมือเอาตัวรอดทันทีที่มีโอกาสครับ

      อย่าลืมนะครับว่า การตัดสินใจอย่างรวดเร็วจะช่วยลดความเสี่ยงการเสียชีวิตได้ แต่ถึงอย่างไร การขับรถด้วยความไม่ประมาทและมีสติ ถือเป็นการป้องกันอุบัติเหตุที่ดีที่สุดครับ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook