อยากช่วยลดมลพิษ ต้องใช้รถรุ่นไหน

อยากช่วยลดมลพิษ ต้องใช้รถรุ่นไหน

อยากช่วยลดมลพิษ ต้องใช้รถรุ่นไหน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     ประเทศอังกฤษวางนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมให้ผู้ใช้รถยนต์ในประเทศใช้รถพลังงานไฟฟ้าทั้งระบบภายในปี 2040 หรือภายในอีก 21 ปีข้างหน้า ขณะที่ชาติในเอเชีย อาทิ จีนและญี่ปุ่น ก็วางเป้าให้รถทั้งประเทศเป็นระบบไฟฟ้าภายในปี 2030

     ในบทความตอนนี้ Tonkit360 จะนำท่านผู้อ่านไปรู้จักกับรถยนต์รุ่นเปลี่ยนผ่านจากพลังงานเครื่องยนต์ไปสู่พลังงานไฟฟ้าที่ได้รับการจัดอันดับจาก World Car Awards ติดโผรถยนต์ที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมที่สามารถใช้งานได้จริงในปัจจุบัน

 

นิสสัน LEAF

302

     รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100 เปอร์เซนต์จากค่ายนิสสัน เปิดตัวในบ้านเราท่ามกลางกระแสในโลกออนไลน์รวมถึงกลุ่มผู้ใช้รถว่า “แพง” หลังจากเคาะราคา 1.99 ล้านบาท อย่างไรก็ดี รถรุ่นนี้คือรถที่ได้รับการโหวตจาก World Car Awards ให้เป็นสุดยอดรถยนต์รักษาสิ่งแวดล้อมแห่งปี 2018

     โดยนิสสัน LEAF ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานจากแบตเตอรี่ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุดถึง 150 แรงม้า ซึ่งเทียบเท่ารถยนต์เครื่องยนต์เบนซินระดับ 1,600-2,000 ซีซี เลยทีเดียว ที่สำคัญยังมีตัวเลขการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ ปัจจุบันเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในโลก สามารถทำยอดขายรวมกว่า 225,000 คัน ทั่วโลก

 

บีเอ็มดับเบิลยู 530e iPerformance

304

     แม้ไม่ใช่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบ 100 เปอร์เซนต์ แต่บีเอ็มดับเบิลยู 530e iPerformance รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด เครื่องยนต์เบนซิน 2,000 ซีซี กลับได้รับเสียงโหวตเป็นอันดับที่ 2 จาก World Car Awards ให้เป็นรถยนต์รักษาสิ่งแวดล้อมยอดเยี่ยมอันดับสองของโลกประจำปี 2018

     โดยสมรรถนะของเจ้าบีเอ็มดับเบิลยู ที่เคาะราคาในเมืองไทยอยู่ที่ 3.9 ล้านบาท เรื่องความแรงไม่ต้องพูดถึง รีดแรงม้าได้ถึง 184 แรงม้า ทว่าจุดเด่นของมันอยู่ที่ ระบบแบตเตอรี่ไฟฟ้าที่สามารถวิ่งได้ไกล 50 กิโลเมตรจากการชาร์จไฟ 1 ครั้ง โดยไม่ต้องพึ่งกำลังเครื่องยนต์ในความเร็วระดับ 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมงพร้อมการันตีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียงแค่ 44 กรัม ต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร เท่านั้น

 

โตโยต้า Prius

301

     น่าเสียดายที่รถยนต์รุ่นนี้ไม่ได้ทำตลาดในเมืองไทย ณ ปัจจุบัน เพราะนี่คือรถยนต์ที่เป็นรถยนต์พลังงานทางเลือกยุคบุกเบิก ซึ่งโตโยต้าเคยนำมาทำตลาดในเมืองไทยและได้รับความนิยมอยู่ในช่วงเวลาหนึ่ง อย่างไรก็ดี โตโยต้า Prius ในฝั่งของญี่ปุ่นและยุโรป ยังถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องเป็นเจเนอเรชั่นที่ 4

     Prius เวอร์ชั่นล่าสุด ได้รับการคาดหมายจากสื่อในยุโรปว่าเป็น 1 ในรุ่นที่มีโอกาสลุ้นรถยนต์ยอดเยี่ยมด้านสิ่งแวดล้อมในปี 2019 นี้ เพราะนอกจากประโยชน์ใช้สอยและการขับขี่ที่เหมาะกับคนเมืองแล้ว โตโยต้ายังการันตีว่า ไฮบริดรุ่นท็อปฮิตรุ่นนี้มีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ 70 กรัม ต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร

 

ฮอนด้า Insight

303

     ปิดท้ายกันที่ค่ายฮอนด้า แม้ในปัจจุบัน ฮอนด้า ในประเทศไทย จะมีรถยนต์ไฮบริดทำตลาดตั้งแต่ แจ๊ซ ,ซีวิค รวมไปถึงแอคคอร์ดใหม่ที่กำลังเข้ามาวาดลวดลายในเมืองไทย ทว่าบริษัทแม่ฝั่งญี่ปุ่นได้มีการพัฒนารถพลังงานไฮบริดโดยเฉพาะอีกหนึ่งรุ่นมาตั้งแต่ปี 2000 ภายใต้ชื่อ Insight

     ปัจจุบันฮอนด้า Insight ซึ่งจริงๆแล้วมีรูปโฉมที่พัฒนาต่อยอดมาจากฮอนด้า ซีวิค เข้าสู่เจเนอเรชั่นที่ 3 และมีฐานการผลิตอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร พร้อมแบตเตอรี่ไฟฟ้า สามารถให้กำลังสูงสุด 151 แรงม้า และมีตัวเลขการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขณะขับขี่อยู่ที่ 96 กรัม ต่อ 1 กิโลเมตร เป็นรถอีกหนึ่งรุ่นที่เข้าชิงรถยนต์ยอดเยี่ยมด้านสิ่งแวดล้อมประจำปีนี้

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook