ต่อภาษีรถยนต์ที่มีอายุเกิน 7 ปี มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง?
การต่อภาษีรถยนต์ที่มีอายุเกิน 7 ปีขึ้นไป มีขั้นตอนแตกต่างไปจากการต่อภาษีรถยนต์ที่มีอายุต่ำกว่า 7 ปีเล็กน้อย ลองไปดูกันว่าต้องทำอย่างไรบ้าง?
ปัจจุบันการต่อภาษีรถยนต์สามารถทำได้ผ่านทางเว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบก แต่รถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่มีอายุเกิน 7 ปีขึ้นไป จะต้องยื่นชำระภาษีที่สำนักงานขนส่งจังหวัดหรือสาขาเท่านั้น
เอกสารที่จำเป็นสำหรับการต่อภาษีรถยนต์ ประกอบด้วย ใบคู่มือจดทะเบียน หรือสำเนา, หลักฐานการทำ พ.ร.บ. และเงินค่าต่อภาษี โดยรถยนต์ที่มีอายุเกิน 7 ปี จะต้องยื่นเอกสารรับรองการตรวจสภาพรถยนต์จาก ตรอ. มาด้วย แต่หากเป็นรถที่มีการดัดแปลงสภาพ เปลี่ยนสี เปลี่ยนเครื่องยนต์ หรือรถที่ขาดต่ออายุเกิน 1 ปี จะต้องนำรถไปตรวจสภาพที่หน่วยงานของกรมขนส่งทางบกเท่านั้น
การตรวจสภาพรถยนต์กับ ตรอ. ก็สามารถทำได้ง่ายๆ ก่อนอื่นให้ค้นหา ตรอ. ที่อยู่ใกล้บ้านเพื่อความสะดวกในการเดินทาง จากนั้นให้นำรถไปยัง ตรอ. ที่สะดวก พร้อมกับแจ้งความประสงค์ขอตรวจสภาพเพื่อต่อภาษี พร้อมกับยื่นใบคู่มือจดทะเบียนหรือสำเนา และชำระค่าตรวจสภาพ โดยอัตรามาตรฐานจะอยู่ที่ 150 บาท สำหรับรถที่มีน้ำหนักไม่เกิน 1,600 กิโลกรัม และ 250 บาท สำหรับรถที่มีน้ำหนักเกิน 1,600 กิโลกรัม
หากรถอยู่ในเกณฑ์ผ่านการตรวจสภาพ ทาง ตรอ.จะออกหนังสือรับรองการตรวจสภาพให้ แต่หากไม่ผ่านการตรวจ ทาง ตรอ.จะแจ้งข้อบกพร่องเพื่อให้เจ้าของรถทำการแก้ไข หากแก้ไขเรียบร้อยและนำมาตรวจสภาพซ้ำในเวลาไม่เกิน 15 วัน จะเสียค่าบริการครึ่งหนึ่ง แต่หากเกิน 15 วันจะเสียค่าบริการตรวจสภาพเต็มอัตรา
จากนั้น คุณสามารถนำเอกสารทั้งหมดไปยื่นต่อภาษีกับสำนักงานขนส่งหรือสาขา แต่หากไม่สะดวกในวันธรรมดา สามารถต่อภาษีในวันเสาร์-อาทิตย์ที่ห้างสรรพสินค้าได้ ดังนี้
- ห้างบิ๊กซี จำนวน 13 สาขา เวลาเปิด 09.00 - 17.00 น. ได้แก่ ลาดพร้าว, รามอินทรา, รัชดาภิเษก, บางปะกอก, เพชรเกษม, สุขาภิบาล3, อ่อนนุช, แจ้งวัฒนะ, สำโรง, บางบอน, สุวินทวงศ์, สมุทรปราการ, บางใหญ่ และบางนา
- ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล รามอินทรา เวลาเปิด 10.00 - 17.00 น.
- ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค ถนนศรีนครินทร์ เวลาเปิด 10.00 - 17.00 น.
- ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เวลาเปิด 11.00 - 18.00 น.
เพียงเท่านี้ก็สามารถต่อภาษีรถยนต์ที่มีอายุเกิน 7 ปีได้แล้วครับ