ข้อสอบใบขับขี่แบบใหม่หมวด 'กฏหมายว่าด้วยจราจรทางบก'
แบบข้อสอบสำหรับการทดสอบเพื่อขอรับใบขับขี่หมวด กฏหมายว่าด้วยจราจรทางบก มีดังนี้:
การขับรถผ่านทางร่วมทางแยกต้องปฏิบัติอย่างไร
ก ปฏิบัติตามสัญญาณไฟจราจรหรือกฎจราจรอย่างเคร่งครัด
ข เมื่อพบป้ายเตือนทางร่วมทางแยกให้ขับรถด้วยความเร็วปกติ
ค หากไม่มีสัญญาณไฟจราจร ให้รถคันที่ใหญ่กว่าผ่านทางร่วมทางแยกไปก่อน
ง เมื่อพบป้ายเตือนสัญญาณไฟบริเวณทางร่วมทางแยกให้ขับรถไปตามปกติ
ผู้ขับขี่ต้องการเลี้ยวรถต้องปฏิบัติอย่างไร
ก ชะลอรถและเปิดไฟเลี้ยวก่อนถึงทางเลี้ยวไม่น้อยกว่า 30 เมตร
ข เปิดไฟเลี้ยวก่อนถึงทางเลี้ยว 20 เมตร
ค หยุดรถเพื่อเตรียมตัวเลี้ยว
ง เร่งความเร็วก่อนเลี้ยว
การหยุดรถบริเวณทางแยกผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร
ก หยุดทับเส้นแนวหยุด
ข หยุดหลังเส้นแนวหยุด
ค หยุดเลยเส้นแนวหยุด
ง หยุดเลยป้ายหยุด
บริเวณใดห้ามแซง
ก ทางตรง
ข ทางที่ปลอดภัย
ค ทางโล่ง
ง ทางโค้งรัศมีแคบ
การจอดรถต้องจอดให้ห่างจากขอบทางไม่เกินกี่เซนติเมตร
ก ห่างไม่เกิน 35 เซนติเมตร
ข ห่างไม่เกิน 30 เซนติเมตร
ค ห่างไม่เกิน 25 เซนติเมตร
ง ห่างไม่เกิน 40 เซนติเมตร
การขับรถแซงรถคันหน้าต้องแซงด้านขวามือ ยกเว้นกรณีใดที่สามารถแซงด้านซ้ายมือได้
ก เมื่อรถที่จะถูกแซงกำลังเลี้ยวขวา หรือให้สัญญาณว่าจะเลี้ยวขวา
ข แซงรถคันอื่นทางด้านซ้ายในทางเดินรถช่องทางเดียว
ค แซงรถคันอื่นในช่องทางขวาของรถที่ถูกแซง
ง แซงรถคันอื่นทางด้านซ้ายขณะรถวิ่งบนสะพาน
รถในข้อใดที่สามารถนำมาใช้ในทางได้
ก รถที่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนของทางราชการกำหนด
ข รถที่จดทะเบียนและเสียภาษีแล้ว
ค รถที่ขาดต่อภาษี
ง รถที่แจ้งเลิกใช้ตลอดไป
รถในข้อใด ห้ามนำมาใช้ในทาง
ก รถที่มีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรง
ข รถที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนของทางราชการกำหนด
ค รถที่จดทะเบียนและเสียภาษีแล้ว
ง รถที่อุปกรณ์ส่วนควบครบถ้วน
เขตปลอดภัย หมายความว่าอย่างไร
ก พื้นที่มีเครื่องหมายแสดงไว้ให้ผู้ขับขี่เห็นว่าปลอดภัยขับต่อไปได้
ข เขตที่ผู้ขับขี่สามารถนำรถผ่านเข้าไปได้
ค พื้นที่ในทางเดินรถที่มีเครื่องหมายแสดงไว้ให้เห็นได้ชัดเจนทุกเวลาสำหรับให้คนเดินเท้าที่ข้ามทางหยุดรอ หรือให้คนที่ขึ้นหรือลงจากรถหยุดรอก่อนจะข้ามทางต่อไป
ง เขตที่คนเดินเท้าสามารถข้ามทางได้โดยไม่ต้องหยุดรอ
รถในข้อใดที่สามารถนำมาใช้ในทางเดินรถได้
ก รถที่มีเสียงดังกว่าเกณฑ์ที่ทางราชการกำหนด
ข รถที่มีสิ่งลากถูไปบนทางเดินรถ
ค รถที่มีล้อไม่ใช่ยาง
ง รถที่มีเสียงเครื่องยนต์ดังในระดับ 80 เดซิเบล
สัญญาณจราจรไฟสีแดงที่ทำเป็นรูปกากบาทเฉียงอยู่เหนือช่องเดินรถ ห้ามมิให้ผู้ขับขี่ขับรถอย่างไร
ก จอดรถในช่องเดินรถนั้น
ข หยุดและจอดรถในช่องเดินรถนั้น
ค ขับรถในช่องเดินรถนั้น
ง หยุดรถในช่องเดินรถนั้น
เมื่อพนักงานจราจรยืนและเหยียดแขนซ้ายออกไปเสมอระดับไหล่ ผู้ขับขี่ซึ่งขับรถมาจากทางด้านไหนของพนักงานจราจรจะต้องหยุดรถ
ก ด้านข้าง
ข ด้านหน้าและด้านหลัง
ค ด้านหลัง
ง ด้านหน้า
เมื่อพนักงานจราจรยืนและเหยียดแขนขวาท่อนล่างตั้งฉากกับแขนท่อนบนและตั้งฝ่ามือขึ้น ผู้ขับขี่ซึ่งขับรถมาจากทางด้านไหนของพนักงานจราจรจะต้องหยุดรถ
ก ด้านหลัง
ข ด้านหน้าและด้านหลัง
ค ด้านหน้า
ง ด้านข้างและด้านหลัง
การขับรถผ่านทางร่วมทางแยกที่มีสัญญาณจราจรไฟกระพริบสีแดง ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร
ก หยุดรถหลังเส้นให้รถหยุด เมื่อเห็นว่าปลอดภัยและไม่เป็นการกีดขวางการจราจรจึงให้ขับรถต่อไปด้วยความระมัดระวัง
ข ลดความเร็วของรถลงและผ่านทางเดินรถนั้นไปด้วยความระมัดระวัง
ค จอดรถด้วยความระมัดระวัง
ง เพิ่มความเร็วของรถและผ่านทางเดินรถนั้นไปโดยเร็ว
การขับรถผ่านทางร่วมทางแยกที่มีสัญญาณจราจรไฟกระพริบสีเหลือง ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร
ก ลดความเร็วของรถลงและผ่านทางเดินรถนั้นไปด้วยความระมัดระวัง
ข หยุดรถหลังเส้นให้รถหยุด เมื่อเห็นว่าปลอดภัยและไม่เป็นการกีดขวางการจราจรจึงขับรถต่อไปด้วยความระมัดระวัง
ค จอดรถ
ง เพิ่มความเร็วของรถและผ่านทางเดินรถนั้นไปโดยเร็ว
ผู้ขับขี่ต้องขับรถในทางเดินรถด้านซ้าย ยกเว้นกรณีใดสามารถเดินรถทางขวาหรือ ล้ำกึ่งกลางของทางเดินรถได้
ก ไม่มีรถสวนทางมา
ข ทางเดินรถกว้างมาก
ค ด้านซ้ายของทางเดินรถมีสิ่งกีดขวาง
ง ทางเดินรถมีน้ำท่วมขัง
การให้สัญญาณด้วยแขน โดยผู้ขับขี่ยื่นแขนขวาตรงออกไปนอกตัวรถเสมอระดับไหล่และโบกมือขึ้นลงหลายครั้ง หมายถึงผู้ขับขี่นั้นต้องการอะไร
ก หยุดรถ
ข เลี้ยวขวา
ค จะลดความเร็วของรถ
ง จอดรถ
ผู้ขับขี่ต้องขับรถให้ห่างจากรถคันหน้าเท่าไร
ก ในระยะที่จะสามารถหยุดรถได้โดยปลอดภัยเมื่อมีความจำเป็น
ข ไม่น้อยกว่า 2 เมตร
ค ไม่น้อยกว่า 1 เมตร
ง ไม่น้อยกว่า 3 เมตร
ผู้ขับขี่ต้องการจะเลี้ยวซ้ายต้องขับรถในช่องเดินรถด้านซ้ายก่อนถึงทางเลี้ยวกี่เมตร
ก ไม่น้อยกว่า 15 เมตร
ข ไม่น้อยกว่า 20 เมตร
ค ไม่น้อยกว่า 25 เมตร
ง ไม่น้อยกว่า 30 เมตร
ผู้ขับขี่ต้องเปิดไฟหน้าหรือไฟท้ายรถ ให้รถคันอื่นเห็นได้ในระยะไม่น้อยกว่าเท่าใด
ก 150 เมตร
ข 100 เมตร
ค 60 เมตร
ง 120 เมตร
ในการขับรถสวนทางกัน ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร
ก แซงเข้าไปในช่องเดินรถประจำทางได้
ข ให้ขับรถชิดด้านซ้าย
ค ในทางที่มีสิ่งกีดขวางอยู่ข้างหน้าไม่ต้องหยุดรอให้รถที่สวนมาผ่านไปได้
ง ในทางแคบที่ไม่อาจสวนกันได้ ผู้ขับรถคันที่เล็กกว่า ต้องหยุดชิดด้านซ้ายให้รถคันที่ใหญ่กว่าไปก่อน
ห้ามมิให้ผู้ขับขี่รถแซงเพื่อขึ้นหน้ารถคันอื่นขณะที่มีหมอก ฝุ่น ฝน หรือควัน จนไม่อาจเห็นทางข้างหน้าได้ในระยะ เท่าใด
ก 60 เมตร
ข 90 เมตร
ค 70 เมตร
ง 80 เมตร
บริเวณใดห้ามขับรถแซงรถคันอื่น
ก ทางโค้งรัศมีแคบ
ข ในกรณีที่ทางเดินรถด้านซ้ายมีสิ่งกีดขวาง
ค 150 เมตร จากทางร่วมทางแยก
ง แซงด้านซ้ายในขณะที่มีรถรอเลี้ยวขวา
บริเวณใดสามารถกลับรถได้
ก ทางเดินรถที่มีเครื่องหมายห้ามกลับรถ
ข บริเวณบนสะพาน
ค ระยะ 150 เมตร จากทางราบของเชิงสะพาน
ง เขตปลอดภัย
เมื่อผู้ขับขี่พบเครื่องหมาย "เลี้ยวซ้ายผ่านตลอด" ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร?
ก ลดความเร็วของรถลงและเลี้ยวซ้ายผ่านไปได้ทันที
ข หยุดรอจนกว่าจะได้รับสัญญาณไฟเขียวจึงเลี้ยวซ้ายไปได้
ค หยุดรอให้คนข้ามถนนและรถที่มาจากทางด้านขวามือขับผ่านไปก่อนแล้วจึงเลี้ยวซ้ายผ่านไป
ง เลี้ยวซ้ายผ่านไปได้ทันที
ผู้ใดไม่มีหน้าที่ให้สัญญาณจราจรตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522
ก ผู้ขับขี่รถยนต์
ข พนักงานจราจร
ค ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์
ง คนเดินเท้า
ผู้ขับขี่ปฏิบัติตามข้อใดไม่ถูกต้อง
ก ลดความเร็วเมื่อถึงวงเวียน
ข ลดความเร็วเมื่อถึงที่คับขัน
ค จอดรถบริเวณทางร่วมทางแยก
ง ลดความเร็วเมื่อเห็นคนกำลังข้ามทาง
บริเวณใดแซงได้
ก ทางร่วมทางแยก
ข สะพานเดินรถทางเดียว
ค ทางโค้งรัศมีแคบ
ง บนพื้นทางที่มีเครื่องหมายจราจรให้แซงได้
เมื่อจะเปลี่ยนช่องทางหรือแซงรถทุกครั้งต้องปฏิบัติอย่างไร
ก รีบเปลี่ยนช่องทางโดยเร็ว
ข ต้องให้สัญญาณไฟหรือสัญญาณแตร
ค แซงขึ้นหน้าแล้วเหยียบเบรกทันที
ง รีบเร่งเครื่องแซงโดยเร็ว
บริเวณใดจอดรถได้
ก ที่มีป้ายห้ามหยุดรถ
ข ในอุโมงค์
ค ทางร่วมทางแยก
ง ลานจอดรถในห้างสรรพสินค้า
การขับรถตามข้อใดปฏิบัติได้ถูกต้อง
ก ขับรถลักษณะผิดปกติวิสัย
ข แซงรถในอุโมงค์
ค ขับรถในลักษณะกีดขวางการจราจร
ง ขับรถเร็วไม่เกินอัตราที่กฎหมายกำหนด
เมื่อถึงทางรถไฟและมีรถไฟกำลังแล่นผ่าน ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร
ก หยุดรถให้ห่างจากทางรถไฟไม่น้อยกว่า 5 เมตร
ข ขับรถผ่านไปโดยเร็ว
ค ให้เสียงสัญญาณแตรเตือนและขับผ่านไปได้
ง หยุดรอสัญญาณไฟและเปิดไฟฉุกเฉิน
บริเวณใดใช้สัญญาณเสียงแตรได้
ก โรงเรียน
ข สถานที่ราชการ
ค สวนสาธารณะ
ง โรงพยาบาล
เมื่อเกิดอุบัติเหตุผู้ขับขี่หลบหนีจะมีผลอย่างไร
ก ไม่มีผล เพราะไม่ใช่ฝ่ายผิด
ข ให้สันนิษฐานว่าผู้นั้นเป็นผู้กระทำผิด
ค มีผลให้เป็นฝ่ายถูก
ง จะได้รับการกันไว้เป็นพยาน
สัญญาณเสียงแตรใช้ได้เมื่อใด
ก ใช้ได้เมื่อรถคันหน้าขับช้า
ข ใช้ได้ตามสะดวก
ค ใช้ตลอดเวลา
ง ใช้ได้เมื่อจำเป็นเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
ขณะขับขี่รถต้องเว้นระยะห่างรถคันหน้าเท่าใด
ก ในระยะที่ปลอดภัย
ข 13 เมตร
ค 50 เมตร
ง 3 ช่วงตัวรถ
ก่อนเลี้ยวรถต้องเข้าช่องทางที่จะเลี้ยวและเปิดไฟเลี้ยวก่อนเลี้ยวรถไม่น้อยกว่ากี่เมตร
ก 3 เมตร
ข 30 เมตร
ค 10 เมตร
ง 15 เมตร
ผู้ขับรถที่ดื่มสุราเมื่อวัดระดับแอลกอฮอล์ในลมหายใจจะต้องไม่เกินเท่าใด
ก ไม่เกิน 60 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น
ข ไม่เกิน 70 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น
ค ไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น
ง ไม่เกิน 80 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น
ขณะขับรถตรวจพบแอลกอฮอล์ในร่างกายเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดมีโทษอย่างไร
ก จำคุกไม่เกิน 3 เดือนหรือปรับตั้งแต่ 1,000 ถึง 50,000 บาท
ข จำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับตั้งแต่ 5,000 ถึง 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค ปรับไม่เกิน 5,000 บาท
ง ปรับไม่เกิน 10,000 บาท
ในเขตกรุงเทพ เขตเมืองพัทยา หรือเขตเทศบาล ต้องขับรถด้วยความเร็วเท่าไร
ก ไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ข ไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ค ไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ง ไม่เกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
นอกเขตกรุงเทพ เขตเมืองพัทยา หรือเขตเทศบาล ต้องขับรถด้วยความเร็วเท่าไร
ก ไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ข ไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ค ไม่เกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ง ไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ในการให้สัญญาณไฟเลี้ยว จะต้องให้ผู้ขับรถคันอื่นเห็นได้ในระยะเท่าไร
ก ไม่น้อยกว่า 10 เมตร
ข ไม่น้อยกว่า 15 เมตร
ค ไม่น้อยกว่า 60 เมตร
ง ไม่น้อยกว่า 30 เมตร
ผู้ขับขี่ซึ่งจะเลี้ยวรถจะต้องให้สัญญาณมืออย่างไร
ก ให้สัญญาณมือด้วยมือซ้ายเท่านั้น
ข ให้สัญญาณมือได้ทั้งมือซ้ายและมือขวา
ค ไม่ต้องให้สัญญาณมือใด ๆ ทั้งสิ้น
ง ให้สัญญาณมือด้วยมือขวาเท่านั้น
บริเวณทางร่วมทางแยกและมีเครื่องหมายห้ามกลับรถแต่เจ้าพนักงานจราจรอนุญาตให้กลับรถได้ผู้ขับขี่ ต้องปฏิบัติอย่างไร
ก กลับรถได้
ข กลับรถได้ถ้าไม่มีเครื่องหมายห้ามกลับรถ
ค กลับรถไม่ได้
ง กลับรถได้ถ้าไม่ใช่ทางร่วมทางแยก
ผู้ขับขี่ต้องการกลับรถต้องปฏิบัติอย่างไร
ก ขับรถช่องทางไหนก็ได้
ข ดูป้ายจราจรที่อนุญาตให้กลับรถและเข้าช่องทางให้ถูกต้อง
ค เข้าช่องทางที่มีลุกศรบนพื้นถนนให้ตรงไป
ง กลับรถที่บริเวณเส้นทะแยงเหลือง
ข้อใดปฏิบัติถูกต้อง
ก รถจักรยานยนต์ต้องขับในช่องเดินรถด้านซ้ายสุด
ข รถบรรทุกคนโดยสารต้องขับในช่องเดินรถด้านขวาสุด
ค รถบรรทุกสิ่งของต้องขับในช่องเดินรถด้านขวาสุด
ง การเปลี่ยนช่องเดินรถไปทางด้านขวาหรือซ้ายไม่ต้องดูกระจกด้านซ้ายหรือขวา
ในช่องทางเดินรถตั้งแต่สองช่องทางขึ้นไปในทิศทางเดียวกัน ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ต้องปฏิบัติอย่างไร
ก ต้องขับรถชิดด้านขวาสุด
ข ต้องขับรถชิดด้านซ้ายสุด
ค ต้องขับรถคล่อมเส้นแบ่งช่องทางเดินรถ
ง ต้องขับรถอยู่ในช่องทางที่ให้ขับตรงไป
ผู้ใดได้รับยกเว้นไม่ต้องสวมหมวกนิรภัยขณะโดยสารรถจักรยานยนต์
ก ภิกษุ สามเณร
ข คนโดยสาร
ค เด็ก
ง คนขับรถ
ข้อใดเปิดไฟฉุกเฉินได้ถูกต้อง
ก รถเสียหรือรถเกิดอุบัติเหตุ
ข เปิดได้ตลอดเวลา
ค มีหมอก
ง ผ่านทางแยก
ในการบรรทุกสิ่งของ ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร
ก บรรทุกได้กว้างกว่าความกว้างของตัวรถข้างละ 1 เมตร
ข บรรทุกยื่นพ้นตัวรถด้านหลังไม่เกิน 2.50 เมตร
ค บรรทุกสูงโดยวัดจากสิ่งของที่บรรทุกได้เกิน 5 เมตร
ง บรรทุกยื่นพ้นตัวรถด้านหน้าไม่เกิน 2.50 เมตร
การลากจูงรถที่ไม่สามารถใช้พวงมาลัยหรือเบรกได้ควรทำอย่างไร
ก ใช้คนดันไป
ข ใช้รถดันไป
ค ใช้สายพ่วงลากจูงไป
ง ใช้วิธีการยกหน้าหรือยกท้ายลากไป
รถที่มีความเร็วช้า ผู้ขับขี่จะต้องปฏิบัติอย่างไร
ก ขับรถได้ทั้งด้านซ้ายและด้านขวา
ข ขับรถชิดขอบด้านขวา
ค ขับรถที่บริเวณไหล่ทาง
ง ขับรถชิดขอบด้านซ้าย