วอลโว่เปิดตัวรถใหม่ 2 รุ่น C30 & S80 เพิ่มทางเลือกE85

 

วอลโว่ เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ 2 รุ่น คันแรกคือ C30 ไมเนอร์เชนจ์ เปลี่ยนหน้าใหม่หมดให้เข้ากับธีมยุคใหม่ของวอลโว่ พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่แสนเร้าใจ และระบบความปลอดภัยเฟิร์สคลาสแบบอินเทอร์แอคทีฟ เพิ่มทางเลือกด้วยเครื่อง 1.8 ที่สามารถใช้ E85 ได้ ราคาเริ่มต้นเพียง 1.99 ล้าน และอีกรุ่นคือ S80 ที่เพิ่มเครื่องยนต์ 2.5 เทอร์โบ ที่สามารถใช้เชื้อเพลิง E85 ได้ สนนราคาเริ่มต้นที่ 2.49 ล้านบาท

   บริษัท วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย) จำกัด) ได้เปิดตัวรถยนต์ใหม่ 2 แบบ เพิ่มทางเลือกเครื่องยนต์มากขึ้น เสริมทัพด้วยเครื่องยนต์ E85 เพื่อความประหยัด ทั้งเชื้อเพลิง และราคาจำหน่าย หวังโดนใจลูกค้าที่ชื่นชอบรถยุโรปที่คุ้มค่า

คันแรกเป็น วอลโว่ C30 Facelift สะดุดตากว่าเดิมใน สไตล์สปอร์ต และโดดเด่นด้วยการออกแบบอันทันสมัย กระจังหน้าทรงใหม่ที่ดูโฉบเฉี่ยวมากขึ้น ไฟหน้าแบบใหม่เพรียวลมกว่าเดิม ล้ออลูมิเนียมลายใหม่ และกันชนท้ายถูกปรับเปลี่ยนรูปโฉม เพิ่มพื้นที่สีเดียวกับตัวรถพร้อมเส้นสายที่มีความโค้ง ปราดเปรียวยิ่งขึ้น เพิ่มเกียร์อัตโนมัติเพาเวอร์ชิฟท์ 6 สปีด ที่ให้พลังและอัตราเร่งต่อเนื่อง พร้อมทั้งประหยัดน้ำมันและการสึกหรอได้อย่างมีประสิทธิภาพภายในเพิ่มอารมณ์ สปอร์ตด้วย 2 โทนสี สองอารมณ์ให้เลือกตามต้องการได้แก่ โทนสีเทา-เงิน สไตล์เรียบหรู และโทนสีเทาเข้ม-ส้ม พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนังจับถนัดกระชับมือ เพิ่มอารมณ์สปอร์ต

  วอลโว่ C30 รุ่นนี้ พัฒนาขึ้นจากวอลโว่ C30 ดีไซน์ คอนเซ็ปต์ ซึ่งเผยให้เห็นวิถีการออกแบบของวอลโว่ในอนาคต วอลโว่ได้พัฒนารถยนต์ขนาดกลางรุ่นนี้ให้เป็นรถยนต์พรีเมี่ยมสองประตูที่โดด เด่นที่สุดรุ่นหนึ่งของโลก โดยกวาดรางวัลจากวงการอุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลกมากมาย อาทิ รางวัล “Ward’s Interior Design Award for Best Brand Reflection” จาก ประเทศสหรัฐอเมริกา รางวัล “Golden Steering Wheel” จาก ประเทศเยอรมนี ได้รับการโหวตจากวงการรถยนต์ในเมืองแฟชั่นอย่างอิตาลีว่าเป็น “รถยนต์ที่สวยที่สุดในโลก” ใน กลุ่มรถยนต์คอมแพ็ค

 

 

  
    วอลโว่ C30 ได้รับการโหวตจากดีไซเนอร์อิสระและคอลัมนิสต์นิตยสาร รถยนต์ชาวเช็คให้ได้รับรางวัลสูงสุด Auto Design Awards 2007 ในฐานะรถยนต์ที่มีดีไซน์ดึงดูดใจที่สุดในบรรดารถยนต์ที่ผลิตออก จำหน่ายทั้งหมด และรางวัล “Best Pint-size Performance” จากนิตยสารเพลย์บอย เพราะวอลโว่ C30 ทำให้ผู้คนได้ประจักษ์ถึงความเปลี่ยนแปลงทางด้านการออกแบบที่ “ลบเหลี่ยมมุม” ออกไปจากโมเดล ก่อนๆ ของวอลโว่อย่างเด่นชัด ช่วยให้ผู้ขับขี่เร้าใจไปกับความสปอร์ต และดีไซน์สุดเท่ของประตูด้านหลังซึ่งทำจากกระจกทั้งบานในแบบที่ไม่มีใครเหมือน

   แม้วอลโว่ C30 มีรูปร่างที่กะทัดรัดแบบคอมแพ็ค ทว่าพื้นที่ห้องโดยสารมีความสะดวกสบายและความยืดหยุ่นสูงสุดสำหรับผู้โดยสาร ทั้ง 4 ที่นั่งได้อย่างน่าประหลาด เบาะหลังออกแบบแยกจากกัน พับได้ 50/50 โดยมีพนักแขน ที่สามารถพับเก็บได้ ให้ความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสาร ประตูกระจกด้านหลังก็ใช้งานได้สะดวกและสามารถเปิด-ปิดเพื่อเก็บสัมภาระได้ ง่าย พร้อมเพิ่มฝาปิดสัมภาระด้านหลังเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น 2.0 เพื่อช่วยให้จัดเก็บของได้เป็นระเบียบ

   วอลโว่ได้พัฒนาระบบเสียงที่เรียกว่า “High Performance Sound” แบบ 4x40 วัตต์พร้อมลำโพง 8 ตัว สามารถรองรับแผ่น CD เพลงแบบ MP3 และ WMA จึงสามารถรื่องเล่นซีดี สามารถเก็บเพลงได้หลายร้อยเพลง ระบบเสียงนี้มี AUX Port สำหรับเชื่อมต่อเครื่องเล่น MP3 เพื่อรับ ประสบการณ์ในการฟังที่เร้าใจพอๆ กับประสบการณ์การขับขี่ที่รถยนต์คันนี้มีมามอบให้ เครื่องเสียงแบบ High Performance ติดตั้งใน C30 รุ่น C30G, C30 R-Design I และ C30 R-Design II ส่วนในรุ่น C30-E เป็นเครื่องเสียงแบบ Performance นอกจากนี้ในรุ่น R-Design II ติด ตั้งระบบบลูทูธเพื่อการสื่อสารไร้สายที่ให้ความสะดวกยิ่งขึ้นด้วย

    เพิ่มรูปลักษณ์สปอร์ตในรุ่น R-Design  
วอลโว่ C30 2.0 R-Design ติดตั้งเกียร์เพา เวอร์ชิฟท์ที่ให้แรงบิดต่อเนื่อง สนองตอบได้รวดเร็วทันใจ และประหยัดน้ำมันอย่างน่าทึ่ง C30 2.0 R-Design โดดเด่นด้วยชุดแต่ง R-Design ได้แก่

สปอยเลอร์สไตล์สปอร์ตหน้าสีกลมกลืนกับตัวรถ
กรอบกระจังหน้าสีเงินด้าน
สปอยเลอร์ ด้านหลังพร้อมไฟแบบ LED 
สเกิร์ตด้านข้าง
กรอบกระจกมองข้างสีเงินด้าน   
ล้อ อลูมิเนียม 7 นิ้ว สไตล์สปอร์ต
พวงมาลัยขนาดเล็กจับกระชับมือลาย R-Design 
การตกแต่งภายในด้วยลายกราฟฟิก R-Design     
มาตรวัดความเร็วลาย R-Design 
เบาะ นั่งโทนเทา-ดำ (Calcite)เน้นความสปอร์ตด้วยลาย R-Design                                                              
หัวเกียร์สปอร์ต และแป้นคัน เร่งแบบสปอร์ต

  

 

 

รถยนต์คันเล็กกับความปลอดภัยระดับเฟิร์สคลาสแบบรถยนต์หรูคันใหญ่

ระบบความ ปลอดภัยในรถยนต์วอลโว่ C30 ได้แก่ โครงเหล็กที่แข็งแกร่งระดับ 5 ดาวที่ช่วยป้องกัน ความปลอดภัยเมื่อเกิดการชนและดูดซับแรงกระแทกในอย่างดีเยี่ยม ระบบกันสะเทือนที่ล้ำหน้าไปอีกขั้น ระบบกระจายแรงกระแทกจากการชนด้านข้าง (Side Impact Protection System: SIPS) และระบบปกป้องการบาดเจ็บ ของกระดูกต้นคอและหลังที่เกิดจากการสะบัดของศีรษะ (Whiplash Protection System - WHIPS) ภายนอก วอลโว่ C30 ออกแบบให้ส่วนหน้าของตัวรถที่โค้งมน มีการติดตั้งสปอยเลอร์ชิ้นพิเศษบริเวณใต้กันชนเพื่อช่วยลดความเสี่ยงของการ บาดเจ็บที่ขาของคนเดินถนน รวมถึงคนทั่วไปที่ขับจักรยานเข้ามาใกล้กับตัวรถ และวอลโว่ C30 เกาะถนนได้อย่างเยี่ยม ยอด ด้วยส่วนหน้ารถที่สั้น ประกอบกับระยะห่างระหว่างล้อซ้ายและล้อขวารวมถึงระยะฐานล้อที่ยาวพอเหมาะ ทั้งนี้ วอลโว่ C30 ติดตั้งไฟหน้าแบบ ไบซีนอน (ยกเว้นรุ่น E) เพื่อทัศนวิสัยที่ชัดเจนอีก ด้วย ส่วนระบบ cruise control (ยกเว้นรุ่น E) ช่วยให้ควบคุมความเร็วคงที่ได้เมื่อวิ่งทางไกลเพื่อความ ปลอดภัยและประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง และเมื่อผนวกกับระบบควบคุมการเข้าโค้ง (Dynamic Stability Traction Control: DSTC) เสาข้างที่เพรียวขึ้น ระบบเบรกแบบแอนติล็อก ไฟสัญญาณด้านข้าง ไฟเบรกฉุกเฉิน ระบบข้อมูลช่วยในการขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Driver Information System: IDIS) ถุงลมนิรภัยแบบ 2 ระดับ ม่านนิรภัยด้านข้าง แกนพวงมาลัยที่ยุบตัวได้ เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุดดึงกลับอัตโนมัติครบทุกที่นั่ง และเบาะนั่งแบบป้องกันการลื่นไถล นับว่าวอลโว่ C30 มอบความปลอดภัยระดับเฟิร์สคลาสแบบรถยนต์หรูคันใหญ่ให้กับคุณเลย ทีเดียว

   ส่วนในรุ่น R-Design II เพิ่มนวัตกรรมความปลอดภัยด้วยระบบกล้องและสัญญาณเตือนมุมอับสาย ตา (Blind Spot Information System: BLIS) รีโมทคอน โทรลพร้อมฟังก์ชั่นการปลดล็อคและขับขี่โดยปราศจากกุญแจ (Remote control with keyless entry & keyless drive) และ เซ็นเซอร์วัดน้ำฝนบนกระจกบังลมหน้า (Rain sensor)

เครื่องยนต์ทรงพลังหลากหลาย ให้เลือก วอลโว่ C30 มาพร้อมเครื่องยนต์ทรงพลังหลายรูปแบบ ได้แก่

รุ่นเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร Flexifuel เกียร์ธรรมดา 5 สปีด สามารถรองรับการใช้น้ำมันได้ตั้งแต่เบนซิน 100% ไปจนถึงน้ำมันเบนซินที่ผสมเอทานอลได้ทุกสัดส่วนตั้งแต่ E10, E20 ไปจนถึงระดับสูงสุดคือ E85  ให้ พลังสูงสุด 125 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที และแรงบิด 165 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที
รุ่นเครื่องยนต์ เบนซิน 2.0 ลิตร ที่ให้สมดุลระหว่างความประหยัดและพลกำลังที่เร้าใจ สามารถใช้น้ำมันได้ตั้งแต่เบนซิน 100% ไปจนถึง น้ำมันเบนซินที่ผสมเอทานอล 10% หรือ E10 ให้พลังสูงสุด 145 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที และแรงบิด 185 นิ วตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที

   อีกคันคือ วอลโว่ S80 2.5FT E85 รุ่นปี 2010 วางเครื่องยนต์ FlexiFuel E85 เทอร์โบชาร์จ 5 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 200 แรงม้า และให้แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตรที่ 1,500 – 4,500 รอบต่อนาที และพ่วงเกียร์อัตโนมัติโทรนิก 6 สปีด

   วอลโว่เครื่องยนต์ FlexiFuel สามารถรองรับการใช้เชื้อเพลิงได้อย่างหลากหลาย ตั้งแต่น้ำมันเบนซินธรรมดาไปจนถึงเบนซินผสมเอทานอลในทุกอัตราส่วนจนถึง 85% (E85) ช่วยมอบความสะดวกสบายสูงสุดในการขับขี่ในทุกที่ที่คุณต้องการ พร้อมทั้งยังช่วยให้คุณไม่ต้องกังวลกับปัญหาราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ทั้งยังช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับระบบเศรษฐกิจจากการเลือกใช้พลังงานชีวภาพที่ ผลิตขึ้นได้ภายในประเทศ นับเป็นทางเลือกที่เฉลียวฉลาดสำหรับสิ่งแวดล้อมและประเทศไทยในภาพรวม

ดีไซน์การออกแบบที่หรูหราไร้กาลเวลาในแบบสแกนดิเนเวียน

   วอลโว่ S80 เป็นรถยนต์ซีดาน 4 ประตูที่ได้รับการออกแบบด้วยเส้นสายที่ให้ความรู้สึกแข็งแกร่งและ      โฉบเฉี่ยว เส้นสายที่มนและโค้งขึ้นในตอนท้ายเพิ่มมิติใหม่ให้รถยนต์มีรูปทรงที่ดูแข็ง แกร่งและเร้าใจยิ่งขึ้น  นอกจากนี้ปรับปรุงรูปลักษณ์ใหม่ให้สื่อ ถึงความสำเร็จ  ความหรู ความมั่นใจมากขึ้น ด้วยคิ้วโครเมี่ยมด้านข้าง ที่ช่องลมด้านหน้า ไฟตัดหมอก โครเมี่ยมไฟท้าย โลโก้บนกระจังหน้าที่ใหญ่ขึ้น

   ห้องโดยสารภายในได้รับการออกแบบให้กว้างขวางสะอาดตาในสไตล์สแกนดิเนเวียน ด้วยเส้นสายที่กลมกลืนกันทุกส่วน วอลโว่ยังคงใช้แนวคิดหลักในการออกแบบห้องโดยสารให้มีเส้นโค้งคู่ขนาน เพื่อสร้างเขตระหว่างขอบประตูกับแผงหน้าปัดให้ชัดเจน แผงหน้าปัดเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมที่มีมุมโค้งมน คอนโซลแบบลอยตัวที่บางเฉียบและมีเส้นสายไหลเรื่อยไปถึงเบาะหลัง ดีไซน์เรียบหรูดูคลาสสิกและพิเศษเหนือระดับ

   ภายในห้องโดยสารรุ่น Superior บุหนังแท้ที่แผงประตูและที่นั่งโทนสีทราย พื้นพรมสีเบจ เพิ่มความหรูด้วยการตกแต่งด้วยขอบและปุ่มกดโครเมี่ยม แผงคอนโซลหน้าดีไซน์ทันสมัย ไฟเรืองแสงที่เปิดประตูด้านใน เพิ่มความหรูด้วยพวงมาลัยและหัวเกียร์ไม้สไตล์คลาสิค ส่วนในรุ่น Business เพิ่มความหรูสอดคล้องกับรูปลักษณ์ภายนอกด้วยแผงประตูสีทูโทนครีมดำ เบาะหนังสีครีม พรมปูพื้นสีดำ พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มด้วยหนังแท้ ไฟเรืองแสงที่เปิดประตูด้านใน ปุ่มสตาร์ทขอบโครเมี่ยม และแผงคอนโซลใหม่ขลิบโครเมี่ยม

ระบบความปลอดภัย

   เพราะความปลอดภัยของผู้โดยสารในทุกที่นั่ง เป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่งสำหรับวอลโว่ คาร์ นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทในปี 2470  วอลโว่จึงออกแบบระบบความปลอดภัยให้มีทั้งระบบ ที่ทำหน้าที่เตือนเพื่อการป้องกันและการปกป้องผู้ ขับขี่และผู้โดยสารทุกที่นั่งได้อย่างดีที่สุด (Preventive and Protective Safety) เริ่มตั้งแต่ ระบบ PCC หรือ Personal Car Communicator ซึ่งมาในรูปแบบของรีโมทคอนโทรลขนาดเล็กพกติด ตัวได้ ที่ประกอบด้วยฟังก์ชั่นสื่อสารกับรถพร้อมการปลดล็อคและขับขี่โดยปราศจาก กุญแจ โดยผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบได้ว่า รถยนต์ล็อคแล้วหรือยัง สัญญาณเตือนภัยทำงานหรือไม่ หรือมีผู้บุกรุกเข้ามาภายในตัวรถยนต์หรือเปล่า ได้ทุกที่และทุกเวลาที่ต้องการในระยะ 60 – 100 เมตรจากตัวรถ

  ส่วนการปกป้องผู้โดยสารภายใน ลดความเสี่ยงของอาการบาดเจ็บขั้นรุนแรงด้วยระบบต่างๆ อาทิ ระบบถุงลมนิรภัยด้านข้างแบบใหม่ 2 จังหวะ ที่ทำงานควบคู่กับม่านนิรภัยด้านข้าง (Inflatable Curtains: IC) และช่วยเสริมให้ระบบกระจายแรงกระแทกจากการชนด้านข้าง (Side Impact Protection System: SIPS) ทำงานได้อย่างมี ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงระบบปกป้องการบาดเจ็บ ของกระดูกต้นคอและหลังที่เกิดจากการสะบัดของศีรษะ (Whiplash Protection System - WHIPS) ที่เบาะหน้าซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้น ให้สามารถหนุนรองเพื่อป้องกันการสะบัดของศีรษะได้นุ่มนวลยิ่งขึ้นอีก และมีประสิทธิภาพสูงสุดในตลาด โดยในกรณีที่เกิดการชนรุนแรงทางด้านหลัง พนักพิงหลังในตอนหน้าของตัวรถและพนักพิงศีรษะจะขยับเข้ามารับตัวและศีรษะของ ผู้ขับขี่และผู้โดยสารในลักษณะคล้ายคลึงกับการทำงานของกล้ามเนื้อแขนขณะที่ กำลังจับลูกบอล โดยฟังก์ชั่นการทำงานของระบบนี้ยังได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ การจับตัวและศีรษะของผู้โดยสารทำได้อย่างนุ่มนวลยิ่งขึ้น

   นอกจากนี้ วอ ลโว่ยังติดตั้งระบบควบคุมการทรงตัวและยึดเกาะถนนแบบไดนามิค (Dynamic Stability Traction Control) ให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในวอ ลโว่ S80 ทุกรุ่น เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่บังคับรถได้อย่างปลอดภัยเมื่อขับขี่บนถนนที่อาจทำให้ รถเสียการทรงตัวได้

S80 2.5FT Superior เหนือกว่าด้วยสุดยอดนวัตกรรมความปลอดภัย

ระบบเตือนผู้ขับขี่ (Driver Alert Control: DAC) ระบบจับตาดูความเคลื่อนไหวและทิศทางของ รถท่ามกลางการจราจรบนท้องถนน ประเมินความเป็นไปได้ที่ผู้ขับขี่อาจสูญเสียการควบคุมรถหรือมีสมาธิในการขับ ขี่น้อยเกินไปจนอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ แล้วส่งสัญญาณเสียง หรือข้อความทางหน้าจอเพื่อเตือนให้ผู้ขับขี่หยุดพักด้วยสัญลักษณ์รูปถ้วย กาแฟ จะเริ่มทำงานที่ความเร็ว 65 กม./ชม. และแอคทีฟต่อเนื่องในช่วงความเร็วที่มากกว่า 60 กม./ชม.นับว่ามีประโยชน์มากสำหรับการขับขี่ทางไกลที่ผู้ขับขี่อาจเหนื่อยล้า จนทำให้สมาธิในการขับขี่ลดลงได้ง่าย

ระบบเตือนเมื่อขับข้ามเลน (Land Departure Warning: LDW) ซึ่งพัฒนาขึ้นเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากการขับออกนอกช่องทาง เดินรถ โดยใช้กล้องในการตรวจจับตำแหน่งของรถและเส้นแบ่งเลน ทำหน้าที่เตือนผู้ขับขี่ด้วยสัญญาณเสียงหากรถข้ามเส้นแบ่งเลนอย่างไม่เหมาะสม เช่นในขณะที่ผู้ขับขี่ไม่ได้เปิดไฟเลี้ยว หรือการหักเลี้ยวกะทันหัน ระบบจะเริ่มทำงานที่ความเร็ว 65 กม./ชม. และแอคทีฟต่อเนื่องในช่วงความเร็วที่มากกว่า 60 กม./ชม. นัก วิจัยของวอลโว่ คาร์ประมาณการไว้ว่า ระบบเตือนเมื่อขับข้ามเลน น่าจะช่วยป้องกันอุบัติเหตุประเภทนี้ได้อย่างน้อยร้อยละ 30-40 ที่ระดับความเร็วระหว่าง 70-100 กิโลเมตร

ระบบกล้องและสัญญาณเตือนมุมอับสายตา (Blind Spot Information System: BLIS) ระบบนี้จะทำงานทันทีที่รถเคลื่อนตัวด้วยความเร็วที่สูงกว่า 10 กม./ชม. โดยอาศัยกล้องดิจิตอลที่ติด ตั้งอยู่ภายในกระจกมองข้าง หากมีรถเข้ามาในบริเวณนี้ระบบจะแจ้งเตือนให้ผู้ขับทราบว่ามีรถอยู่ใกล้ไม่ ว่ารถคันนั้นจะอยู่ด้านหลังหรือกำลังจะแซง โดยสัญญาณไฟที่กระจกประตูจะสว่างขึ้นระบบ BLIS นี้จะช่วยให้ผู้ขับสามารถตัดสินใจได้ถูกต้องฉับไว

ระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบสามารถตั้งระยะ ห่างจากรถคันหน้าได้ (Adaptive Cruise Control - ACC) เป็นระบบ ที่ใช้เรดาร์ตรวจจับสถานการณ์ล่วงหน้า เพื่อควบคุมระยะห่างระหว่าง S80 ของคุณและรถคันข้างหน้า พร้อมควบคุมการเบรกในช่วงเวลาที่จำกัด อีกทั้งคุณยังสามารถเลือกได้เองว่าต้องการอยู่ห่างจากรถคันหน้าเป็นเวลา 1 2 หรือ 3 วินาที เพื่อให้เหมาะกับสภาวะการขับขี่ในช่วงเวลานั้นๆ

ระบบเตือนก่อนการชนพร้อมฟังก์ชั่นช่วยใน การหยุดรถ (Collision Warning with Auto Brake (CWAB) ระบบนี้ใช้เซนเซอร์เดียวกับระบบ ACC เมื่อรถเคลื่อนตัวเข้าใกล้รถคันข้างหน้าเกินกว่าระยะเบรคปลอดภัย ระบบจะสั่งให้เบรกทำงานช่วยหยุดรถ และส่งสัญญาณเตือนที่กระจกบังลมหน้า หากผู้ขับขี่ยังไม่เหยียบเบรก ระบบจะสั่งให้เบรกหยุดรถและเปิดสัญญาณไฟกระพริบฉุกเฉินเพื่อเตือนรถคันที่ ตามหลังมาให้ระวังตัว

ระบบ Distance Alert (DA) เป็นอีกหนึ่งระบบที่ช่วยให้ผู้ ขับขี่รักษาระยะห่างจากรถคันหน้าได้แม้ในขณะที่ไม่ได้ใช้ระบบ cruise control

 

 

        ราคา VOLVO C30

C30 E                 ราคา 1,999,000 บาท
C30 G                 ราคา 2,239,000 บาท
C30 2.0 R-Design (I)  ราคา 2,439,000 บาท
C30 2.0 R-Design (II) พร้อมซันรูฟและไฟ หน้าแบบไบซีนอนราคา  2,539,000 บาท


         ราคา VOLVO S80 2.5FT

S80 2.5FT Business ราคา 2,499,000 บาท
S80 2.5FT Superior