รีวิว BMW 320d Sport/330i M Sport 2019 ใหม่ สปอร์ตซีดานเต็มสูบเสริมความหรูยิ่งขึ้น

     BMW 320d Sport และ 330i M Sport รุ่นปี 2019 ใหม่ สองคอมแพ็คซีดานระดับหรูกับสมรรถนะที่เรียกได้ว่าสปอร์ตเต็มขั้น เสริมด้วยความหรูหราเพิ่มขึ้นกว่าโฉม F30 ลองไปดูกันว่าทั้ง 2 รุ่นนี้ จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง?

     BMW 3-Series 2019 รหัสตัวถัง G20 ใหม่ ถือเป็นเจเนอเรชั่นที่ 7 ต่อจากโฉม F30 ที่หยุดการวางจำหน่ายไปแล้ว ถูกเปิดตัวในไทยช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยยังคงเป็นรุ่นนำเข้าทั้งคัน (CBU) จากประเทศเยอรมนี เพื่อให้ทันต่อความต้องการในบ้านเรา มีวางจำหน่ายทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ได้แก่ BMW 320d Sport ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร และ BMW 330i M Sport เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร พ่วงด้วยชุดแต่ง M Sport หล่อเสร็จสรรพจากโรงงาน

     BMW 3-Series (G20) ใหม่ มีขนาดตัวถังใหญ่ขึ้นกว่าเดิมกว่าเดิมทุกมิติเมื่อเทียบกับโฉม F30 มีความยาวตลอดคันอยู่ที่ 4,709 มม. (+76 มม.) ความกว้าง 1,827 มม. (+16 มม.) ความสูง 1,435 มม. (+1 มม.) ความยาวฐานล้อ 2,851 มม. (+41 มม.)

 

BMW 320d Sport

     BMW 320d Sport ถือเป็นรุ่นเริ่มต้นในบ้านเราตอนนี้ (หากเป็นตลาดยุโรปจะมีรุ่นปกติที่ไม่มีชื่อ Sport พ่วงท้ายวางให้เป็นรุ่นเริ่มต้น และมีดีไซน์ต่างไปจากรุ่น Sport เล็กน้อย) มาพร้อมกับขอบหน้าต่างประตูสีดำ Gloss Black และล้ออัลลอย V-spoke ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 225/45 R18 แบบ Runflat

     อุปกรณ์มาตรฐานเด่นของ BMW 320d Sport (G20) ประกอบด้วย

• ไฟหน้าแบบ
• ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ
• ระบบกุญแจ Comfort Access System
• กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า ปรับมุมต่ำอัตโนมัติเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง
• ระบบไฟ Welcome Light และไฟส่องสว่างหลังดับเครื่องยนต์
• กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ
• เบาะไฟฟ้าคู่หน้าแบบสปอร์ต พร้อมเมมโมรี่ฝั่งผู้ขับ
• เบาะนั่งหุ้มหนัง Vernasca
• พวงมาลัยหุ้มหนังแบบ Sport
• พวงมาลัย Servotronic
• Cruise Control with Braking Function
• ไฟตกแต่งภายในห้องโดยสาร Ambient Light
• เพดานหลังคาสี Anthracite
• ภายในตกแต่งอลูมิเนียม Mesheffect
• ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ 3 โซน (ซ้าย-ขวา-หลัง)
• มาตรวัด BMW Live Cockpit Plus
• จออินโฟเทนเม้นท์ขนาด 8.8 นิ้ว
• BMW Connected Drive
• Bluetooth/USB
• เซ็นเซอร์ควบคุมระยะการจอดหน้า-หลัง

     ด้านระบบความปลอดภัยมาตรฐานประกอบด้วย ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ถุงลมนิรภัยด้านข้างคู่หน้า, ม่านถุงลมนิรภัย, ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC), ระบบควบคุมการยึดเกาะถนน (DTC), ระบบควบคุมแรงดันเบรกแบบแปรผัน (DBC), ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS), ระบบกระจายแรงเบรกขณะเข้าโค้ง (CBC), ระบบเบรกมือไฟฟ้า พร้อมฟังก์ชั่น Hold, เซ็นเซอร์ควบคุมความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน (Crash Sensor), ระบบเตือนอาการเหนื่อยล้าผู้ขับขี่ (Attentiveness Assistant) และระบบเตือนสถานะของยาง (Runflat Indicator)

     ทั้งรุ่น 320d Sport และ 330i M Sport ยังมีฟีเจอร์ใหม่ คือ ระบบ Intelligent Emergency Call ซึ่งจะโทรออกฉุกเฉินเมื่อรถประสบอุบัติเหตุจนทำให้ถุงลมนิรภัยพองตัว และระบบ Teleservices เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
BMW 320d Sport ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล BMW TwinPower Turbo แบบ 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-2,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Steptronic

     ตัวเลขอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. บนสเป็คชีทอยู่ที่ 6.8 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 240 กม./ชม. มีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยบน ECO Sticker อยู่ที่ 21.7 กม./ลิตร

 

BMW 330i M Sport

     BMW 330i M Sport ถูกวางให้เป็นรุ่นท็อปสุดของซีรี่ย์ 3 ขณะนี้ มาพร้อมชุดแต่ง M Aerodynamics รอบคัน ติดตั้งช่วงล่างแบบ M Sport ที่ลดความสูงลง 10 มิลลิเมตร และเซ็ตให้แข็งขึ้นกว่าปกติเพื่อการยึดเกาะถนน เสริมความหล่อด้วยล้ออัลลอย M Double-spoke ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางคู่หน้าขนาด 225/45 R18 และคู่หลังขนาด 255/45 R18 แบบ Runflat

     อุปกรณ์มาตรฐานของ BMW 330i M Sport ที่เพิ่มขึ้นจากรุ่น 320d Sport ประกอบด้วย

• ไฟหน้า LED พร้อมฟังก์ชั่นส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง
• ไฟตัดหมอก LED
• คาลิเปอร์เบรก M Sport
• ระบบนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Parking Assistant with Rear View Camera)
• ระบบเปิด-ปิดกระโปรงท้ายไฟฟ้า
• พวงมาลัยหุ้มหนังดีไซน์ M Sport
• ภายในตกแต่งด้วยอลูมิเนียมลาย Tetragon
• มาตรวัด BMW Live Cockpit Professional (M) ขนาด 12.3 นิ้ว
• หน้าจออินโฟเทนเม้นท์ขนาด 10.25 นิ้ว
• iDrive 7.0
• ระบบเสียงรอบทิศทาง Harman Kardon
• ระบบชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย

     ขณะที่ระบบความปลอดภัยของ 330i M Sport เหมือนกับรุ่น 320d Sport ทั้งหมด

     BMW 330i M Sport ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน BMW TwinPower Turbo แบบ 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร มีกำลังสูงสุด 258 แรงม้า ที่ 5,000-6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,550-4,400 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Sport Steptronic

     อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ถูกเคลมไว้ที่ 5.8 วินาที เร็วกว่ารุ่นดีเซล 1 วินาทีพอดี ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 250 กม./ชม. มีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยตาม ECO Sticker อยู่ที่ 16.1 วินาที แม้ว่าจะไม่ประหยัดเหมือนกับรุ่นดีเซล แต่ก็ถือว่าน่าประทับใจเมื่อเทียบกับความแรงจัดจ้านแบบหลังติดเบาะทุกครั้งที่กดคันเร่ง

     แม้ว่า BMW 3-Series G20 ใหม่ จะมีความยาวฐานล้อเพิ่มขึ้นมาถึง 41 มิลลิเมตร แต่เมื่อเอาเข้าจริงกลับไม่ได้รู้สึกถึงความแตกต่างไปจากรุ่น F30 มากนัก แต่กระนั้น ห้องโดยสารภายในของทั้ง 2 รุ่น ก็ยังรู้สึกปลอดโปร่งกว่า C-Class W205 อยู่นิดๆ ด้วยการออกแบบแผงคอนโซลและแผงประตูที่ไม่ทำให้ผู้โดยสารรู้สึกอึดอัดจนเกินไป

     จุดที่ดูแปลกตาไปจาก BMW รุ่นก่อนๆ ก็คือ สวิตช์ควบคุมระบบปรับอากาศที่ถูกตกแต่งด้วยสีเงิน พร้อมหน้าจอที่ถูกประกบด้วยช่องแอร์กลางดูหรูหรามากขึ้น ขณะที่ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงยังคงเน้นปุ่มช็อตคัทจำนวน 8 ปุ่ม สามารถแตะสัมผัสค้างไว้เพื่อเรียกดูฟังก์ชั่นของแต่ละปุ่มบนหน้าจอได้

     เนื่องจาก BMW 3-Series ใหม่ ทั้ง 2 รุ่น ติดตั้งระบบปรับอากาศแบบ 3 โซน จึงมาพร้อมกับแผงควบคุมระบบปรับอากาศตอนหลังแยกต่างหาก สามารถปรับอุณหภูมิและทิศทางลมได้อย่างอิสระ รวมถึงโหมด Auto สำหรับห้องโดยสารด้านหลังโดยเฉพาะ

     นอกจากนี้ ระบบ iDrive ใน 330i M Sport ยังเป็นเวอร์ชั่น 7.0 ใหม่ล่าสุด ที่นอกจากจะมาพร้อมหน้าจอความละเอียดสูงขนาด 10.25 นิ้ว สามารถตอบสนองต่อการสัมผัสได้อย่างลื่นไหลไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนระดับเรือธงแล้ว ยังรองรับคำสั่งเสียงด้วยประโยคที่ใช้ในชีวิตประจำวันได้ (ให้นึกถึงระบบ Siri ของไอโฟน หรือ Google Assistant ของฝั่งแอนดรอยด์) อีกทั้งยังสามารถเริ่มต้นสั่งงานด้วยคำว่า “Hey BMW” โดยไม่จำเป็นต้องกดปุ่มเหมือนแต่ก่อน ยกตัวอย่างเช่น

     “Hey BMW, I feel so hot” ระบบ iDrive ก็จะสั่งการเร่งแอร์ให้โดยอัตโนมัติโดยไม่ต้องแตะปุ่มใดๆ ทั้งสิ้น หรือกระทั่งการเช็คพยากรณ์อากาศล่วงหน้า ก็สามารถสั่งงานด้วยเสียงได้เช่นกัน นอกจากนี้ เจ้าของรถยังสามารถเปลี่ยนคำสั่งเริ่มต้นจาก “Hey BMW” เป็นอย่างอื่นตามความต้องการได้

     นอกจากนี้ ในรุ่น 330i M Sport ยังมีฟังก์ชั่น “ระบบช่วยขับถอยหลัง” ที่ช่วยขับรถถอยหลังให้อัตโนมัติเป็นระยะทาง 50 เมตร เหมาะสำหรับกรณีถอยออกจากซอยแคบๆ โดยระบบจะจดจำเส้นทางและองศาการหมุนพวงมาลัยในระยะ 50 เมตรสุดท้ายก่อนที่จะหยุดรถ โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องใช้ความเร็วช่วงดังกล่าวไม่เกิน 35 กม./ชม. เท่านั้น

     เมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง หน้าจอจะแสดงปุ่ม “ระบบช่วยขับถอยหลัง” ทันทีที่กดปุ่มดังกล่าว ผู้ขับขี่สามารถปล่อยเบรกเพื่อให้รถไหลถอยหลังไปอย่างช้าๆ โดยระบบจะบังคับทิศทางพวงมาลัยให้อัตโนมัติ ย้อนกลับไปตามเส้นทางระยะ 50 เมตรสุดท้ายที่เคยมา ขณะเดียวกันหน้าจอจะแสดงระยะทางที่เหลือไล่ตั้งแต่ 50 เมตร ไปจนถึง 0 เมตร เพื่อให้ทราบว่าระบบกำลังจะสิ้นสุดการทำงานเมื่อใด

     ทั้งนี้ ผู้ขับขี่จะต้องประคองความเร็วอยู่ที่ไม่เกิน 8 กม./ชม. มิเช่นนั้นระบบจะตัดการทำงานทันที

 

ทดสอบขับ BMW 320d Sport และ BMW 330i M Sport

     การทดสอบครั้งนี้มีขึ้นบนสนามปทุมธานีสปีดเวย์ โดยมีการจัดรูปแบบการทดสอบให้ได้สัมผัสทั้งอัตราเร่ง การเข้าโค้ง การเบรก รวมถึงการหักหลบกะทันหันแบบ Moose test จากนั้นจึงได้ทดสอบขับบนถนนจริงอีกครั้งเพื่อให้ได้รับรู้ฟีลลิ่งของทั้ง 2 รุ่นให้ได้มากที่สุด

     อัตราเร่งของ BMW 320d Sport ยังคงให้แรงดึงที่ดีงามตามฉบับเครื่องยนต์ดีเซลของค่ายใบพัดสีฟ้า ตัวรถสามารถพุ่งทะยานไต่ความเร็วได้อย่างรวดเร็วทันใจ ประกอบกับการเปลี่ยนอัตราทดที่ลื่นไหลและรวดเร็วของเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ทำให้ 320d เป็นรถที่ให้มีอัตราเร่งดีเหลือเฟือกับการใช้งานในชีวิตประจำวันแล้ว แต่ทั้งนี้ หากเทียบกับ 320d โฉม F30 รุ่นก่อนหน้าก็ถือว่าแทบไม่หนีกันเท่าใดนัก

     จุดเด่นสำคัญของ 320d Sport รหัส G20 ใหม่ อยู่ที่การปรับปรุงช่วงล่างให้แน่นหนึบมากกว่า F30 อย่างเห็นได้ชัด เพราะมันไม่ยวบยาบจนออกอาการโหวงเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว กลายเป็นรถที่ให้ความนุ่มสบายยามที่คุณใช้ขับในชีวิตประจำวันทั่วไป สามารถรูดผ่านพื้นผิวขรุขระได้อย่างนิ่มนวล อาการดิ้นของพวงมาลัยมีให้เห็นน้อยมาก แต่ขณะเดียวกันก็ยังให้ความหนึบแน่น มั่นใจที่ความเร็วสูง แม้ว่าผิวถนนจะไม่เรียบนักก็ตามที จนเรียกได้ว่าเป็นช่วงล่างที่เหมาะสำหรับใช้งานในบ้านเราเป็นอย่างยิ่ง

     จากนั้นเราจึงได้สลับมาทดสอบ BMW 330i M Sport ดูบ้าง สิ่งที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดคืออัตราเร่งจากเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 258 แรงม้า ที่ให้ความกระฉับกระเฉงกว่ารุ่นดีเซลอย่างเห็นได้ชัด ย่านแรงบิดสูงสุดที่กว้างกว่า ทำให้อัตราเร่งไม่แผ่วปลายเหมือนกับเครื่องดีเซล BMW 330i จึงกลายเป็นรถที่มีสมรรถนะจัดจ้านฉับไว กดเป็นมาตามสั่ง เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความเร็วควบคู่ไปกับความคล่องตัว

     ขณะที่ช่วงล่างของ 330i M Sport เป็นแบบ M Sport Suspension ที่แน่นหนึบกว่า 320d Sport อย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งยังลดความสูงลง 10 มิลลิเมตร ทำให้ 330i M Sport เป็นรถที่เล่นโค้งได้อย่างสนุกสนานและแม่นยำมากกว่า พวงมาลัยที่คมกริบส่งผลให้ตัวรถมีความกระฉับกระเฉงจนน่าประทับใจ แต่ทั้งหมดนั้นก็แลกมาด้วยความกระด้างที่เพิ่มขึ้นจาก 320d Sport อยู่พอสมควร ดังนั้น หากสนใจรถรุ่นนี้มากกว่า 320d Sport แล้วล่ะก็ ผมขอแนะนำให้คุณทดลองขับมันให้มากที่สุดก่อนที่จะตัดสินใจ

     สุดท้ายแล้ว หากคุณพอใจกับช่วงล่างที่เฟิร์มระดับนี้แล้วล่ะก็ นี่คือซีดานหรูที่มาพร้อมช่วงล่างที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาดบ้านเรา และมันพร้อมที่จะให้คุณได้ฟาดฟันกับรถญี่ปุ่นแต่งซิ่งบนสนามแข่งโดยที่คุณไม่ต้องไปทำอะไรกับมันทั้งสิ้น

     แต่หากคุณกำลังมองหารถยนต์ที่มีช่วงล่างนุ่มนวลเพื่อบรรเทาความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานมาทั้งวัน แต่ก็ยังมีความแน่นหนึบมากพอที่จะซิ่งบนทางด่วนได้อย่างมั่นใจแล้วล่ะก็ BMW 320d Sport น่าจะเป็นคำตอบสำหรับคุณมากกว่า

     สรุป BMW 320d Sport ก็เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปแล้ว ช่วงล่างที่ถูกเซ็ตมาอย่าง “ลงตัว” ทั้งความนุ่มนวลและการเกาะถนน น่าจะสร้างความแฮปปี้ให้คุณทุกครั้งที่ขึ้นมาขับรถคันนี้ แลกกับออปชั่นบางอย่างที่หายไปจากรุ่น BMW 330i M Sport

     แต่หากคุณเป็นพวกเท้าหนัก ชอบมุดเป็นชีวิตจิตใจ การเพิ่มเงิน 400,000 บาท เพื่อแลกช่วงล่างแบบสปอร์ต พร้อมทั้งออปชั่นหรูที่มีให้แน่นเต็มพิกัดแล้วล่ะก็ BMW 330i M Sport ก็น่าจะเหมาะกับคุณมากกว่าครับ

 

ราคาจำหน่าย BMW 3-Series 2019 G20 (CBU) มีดังนี้

• BMW 320d Sport ราคา 2,959,000 บาท
• BMW 330i M Sport ราคา 3,359,000 บาท

ราคาจำหน่ายดังกล่าวรวมแพ็คเกจ BSI Standard บำรุงรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กม. และรับประกัน 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง