ขับลุยน้ำท่วม ใช้รถรุ่นไหนดี
ในช่วงหน้าฝนที่ปัญหาน้ำท่วมกลายเป็นสิ่งกังวลใจของคนใช้รถแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ รถยนต์ประเภทยกสูง ตั้งแต่ประเภท Crossover ไปจนถึง PPV กลายเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในสถานการณ์เช่นนี้ Tonkit360 จะพาไปหาคำตอบว่ารถแต่ละรุ่นมีความสูงเท่าไหร่ และสามารถลุยน้ำท่วมได้ลึกที่สุดแค่ไหนกันบ้าง
แต่ก่อนอื่นคงต้องพูดถึงระดับความสูงจากพื้น (Ground Clearance) หรือที่ในโบรชัวร์รถใช้คำว่า ‘ระยะต่ำสุดจากพื้น’ กันก่อน โดยรถเก๋งทั่วไป อาทิ ยาริส,วีออส,ซีวิค,อัลติส หรือ แอคคอร์ด จะมีความสูงจากพื้นอยู่ในระดับ 13-15 เซนติเมตร ซึ่งสามารถประมาณการลุยน้ำได้ในระดับครึ่งล้อ หรือความลึก ประมาณ 30 เซนติเมตรเท่านั้น
ประเภทกระบะ และ PPV
เริ่มต้นที่รถยนต์ประเภทกระบะ และ PPV ( Pick up Passenger Vehicle) กลายเป็นพระเอกในช่วงน้ำท่วมขึ้นมาทันที เนื่องจากปัจจุบันส่วนใหญ่จะออกแบบด้วยการยกสูงและใช้ระบบขับเคลื่้อน 4 ล้อ ซึ่งทำให้ยางของรถประเภทนี้ใหญ่ขึ้นตามไปด้วย โดยระยะความสูงจากพื้นของกระบะ และ PPV ในเมืองไทย จะอยู่ที่ราวๆ 20-30 เซนติเมตร
ส่วนระยะความสูงของระดับน้ำในการลุยน้ำท่วม รถกลุ่มนี้จะสามารถลุยน้ำที่มีความสูง 60 เซนติเมตร นอกจากนี้ รถบางรุ่น อาทิ ฟอร์ด เรนเจอร์ มีการโฆษณาการันตีว่า ว่าสามารถขับลุยน้ำได้ในระดับความลึกสูงถึง 80 เซนติเมตรได้เลยทีเดียว
ประเภท SUV
ขณะที่รถยนต์ประเภทอเนกประสงค์แบบยกสูง หรือ SUV (Sport Utility Vehicle) ที่หลายคนอาจจะเข้าใจว่าสามารถลุยน้ำท่วมได้ดี แท้จริงแล้ว รถทุกประเภทไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อวิ่งลุยน้ำ เนื่องจากแม้ตัวรถอาจจะผ่านไปได้แต่ ก็อาจมีผลกระทบเรื่องของระบบเบรกตามมาได้เช่นกัน
โดยระดับความสูงจากพื้น (Ground Clearance) ของรถยนต์ในประเภทนี้ อาทิ ฮอนด้า ซีอาร์วี , มาสด้า CX5 รวมไปถึง บีเอ็มดับเบิลยู X1 จะอยู่ในระดับ 18-20 เซนติเมตร ซึ่งระยะที่ปลอดภัยที่สุดในการขับลุยน้ำท่วมระดับน้ำไม่ควรลึกเกิน 50 เซนติเมตร
ประเภท Crossover และ SUV ขนาดเล็ก
นอกจากนี้ ยังมีรถยนต์ประเภท Crossover และ SUV ขนาดเล็ก อาทิ โตโยต้า C-HR , ฮอนด้า HR-V และ มาสด้า CX3 ที่แม้ว่าจะมีระดับความสูงจากพื้นมากกว่ารถเก๋งทั่วไป แต่อย่าลืมว่ารถประเภทนี้ ก็มีพื้นฐานมาจากรถเก๋ง เพียงแค่มีการปรับแต่งและยกสูงมาจากโรงงานเท่านั้นเอง
โดยรถยนต์ในกลุ่มนี้จะมีระดับความสูงจากพื้น (Ground Clearance) ตั้งแต่ 15 เซนติเมตร ไปจนถึง 20 เซนติเมตร ซึ่งระดับน้ำที่ปลอดภัยที่สุดในการขับรถประเภทนี้ลุยเข้าไป ก็ควรอยู่ในระดับไม่เกิน 40 เซนติเมตร
รถยิ่งสูง ลุยน้ำได้ดีกว่าจริงหรือ
จริงอยู่ที่รถที่สูงกว่าสามารถลุยน้ำได้ลึกกว่า แต่ก็ไม่ได้เป็นหลักเกณฑ์ที่ตายตัวเสมอไป โดยเฉพาะรถที่มีระดับความสูงจากพื้นต่างกันไม่เกิน 5 -10 เซนติเมตร เนื่องจากประเด็นสำคัญของการนำรถลุยผ่านไปได้โดยเครื่องไม่ดับ น้ำคือการหลบเลี่ยงไม่ให้น้ำเข้าสู่ท่อดักอากาศของรถคันนั้นๆ
โดยรถยนต์ทุกคันจะมีท่อดักอากาศเพื่อทำหน้าที่ ดูดอากาศเข้าสู่การเผาไหม้ของเครื่องยนต์ เพื่อช่วยการเผาไหม้ให้ดีขึ้น และเพิ่มกำลังเครื่องยนต์ ซึ่งรถบางรุ่นแม้จะมีความสูงมากกว่า แต่อาจจะมีการติดตั้งชุดอุปกรณ์นี้ในระดับที่ต่ำเกินไป จนน้ำเข้าเครื่องยนต์ และไปไม่รอดเมื่อเจอน้ำท่วมนั่นเอง