Mercedes-Benz GLC ใหม่ 2 รุ่นย่อย ความพรีเมียมในคราบเอสยูวีราคาไม่ถึง 4 ล้าน
ถึงเวลาที่ Mercedes-Benz จะเปิดตัวความพรีเมียมเหนือระดับอีกครั้งกับ Mercedes-Benz GLC กับการเป็นเอสยูวีดีไซน์สปอร์ต ที่ผสมผสานความทันสมัยและเรียบหรูเข้าไว้ด้วยกัน แถมยังใช้พลังดีเซลโฉมใหม่มาเป็นแรงขับเคลื่อนชั้นยอดอีกด้วย
โดย Mercedes-Benz GLC โฉมใหม่ ซึ่งเป็นรุ่นประกอบในประเทศนี้แบ่งรุ่นย่อยออกเป็น 2 รุ่นนั่นก็คือ Mercedes-Benz GLC 220 d และ Mercedes-Benz GLC 220 d AMG Dynamic ซึ่งทั้ง 2 รุ่นย่อยใช้เครื่องยนต์ดีเซลแถวเรียง 4 สูบ เกียร์อัตโนมัติแบบ 9G-TRONIC ความจุกระบอกสูบ 1,950 ซีซี พละกำลังสูงสุดที่ 194 แรงม้าที่ 3,800 รอบ/นาที ส่วนแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ตัวเลข 400 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,800 รอบ/นาที ใช้ความเร็ว 7.7 วินาทีในการเร่งจาก 0-100 กม./ชม. และสามารถเร่งความเร็วสูงสุดได้ถึง 217 กม./ชม. เลยทีเดียว ในขณะที่อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ยเพียง 5.1 ลิตร/100 กม. เท่านั้น
การออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกของ Mercedes-Benz GLC ใหม่ โดดเด่นด้วยกระจังหน้าเสริมโครเมียมแบบสามมิติที่ลาดต่ำลงเล็กน้อย ลายเส้นด้านข้างออกแบบให้ลาดเอียงไปทางท้ายตัวรถ ทำให้โครงสร้างตัวรถดูทรงพลังและสง่างาม โดยทั้ง 2 รุ่นย่อยมีความแตกต่างกันเล็กน้อย เพราะไฟหน้าของ GLC 220 d จะเป็น LED Hight Performance Headlamps พ่วงด้วยล้ออัลลอย 18 นิ้ว 5 ก้าน ทางด้าน GLC 220 d AMG Dynamic จะใช้ชุดไฟหน้าอัจฉริยะแบบ MULTIBEAM LED สุดดุดัน ไม่ว่าคุณจะเปิดหรือปิดไฟอยู่ และเมื่อคุณเปิดไฟสูงจะใช้ระบบ ULTRA RANGE Highbeam ซึ่งในนั้นมีหลอดไฟ LED ทำงานอิสระทั้งหมด 84 หลอกต่อ 1 โคมไฟหน้า ความเข้มแสงของไฟหน้าปรับให้เข้ากับสภาพการจราจรโดยรอบได้ อีกทั้งล้อใช้แบบอัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG ขนาด 19 นิ้ว 5 ก้านคู่ รวมไปถึงหลังคาพาโนรามิคซันรูฟที่เปิดและปิดด้วยระบบไฟฟ้า
โยกย้ายไปสู่ห้องโดยสาร บอกเลยว่าคุณสามารถเก็บสัมภาระในด้านท้ายในมากถึง 550 ลิตร และทันทีที่พับเบาะที่นั่งด้านหลัง จะเพิ่มพื้นที่เป็น 1,600 ลิตรอย่างง่ายดาย โดยในรุ่น GLC 220 d จะเน้นการตกแต่งด้วยลายไม้แบบ Open-pore brown ash wood เบาะหนัง ARTICO สีดำแบบ Comfort พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น หน้าจอสัมผัสขนาด 10.25 นิ้วใช้ระบบปฏิบัติการ MBUX หรือ Mercedes-Benz User Experience จะสั่งการด้วยการสัมผัสหน้าจอ หรือใช้ Touchpad ดีไซน์ใหม่ที่เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนก็ได้ ในขณะที่รุ่น GLC 200 d AMG Dynamic เพิ่มเติมแผงหน้าปัดระบบ All-Digital instrument display หน้าจอเรือนไมล์แบบดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว แถมยังปรับรูปแบบการแสดงผลได้ถึง 3 รูปแบบไม่ว่าจะเป็น Classic, Sporty และ Progressive รวมไปถึงระบบกุญแจแบบ KEYLESS-GO ที่เพิ่มเติมเข้ามา
ในขณะที่เรื่องราวของเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยก็ยังจัดหนักตามสไตล์ Mercedes-Benz โดยเฉพาะอุปกรณ์ใหม่อย่าง ชุดอุปกรณ์ปะยางฉุกเฉินแบบ TIREFIT นั่นเอง โดย Mercedes-Benz GLC มอบความล้ำสมัยในการขับขี่มากถึง 5 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ECO, INDIVIDUAL, COMFORT, SPORT และ SPORT+ ร่วมด้วยระบบช่วยนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง รวมไปถึงความโดดเด่นของระบบกันสะเทือน ขับขี่อย่างนุ่มนวลกันแน่นอน ทางด้านรุ่น GLC 220 d AMG Dynamic ก็เพิ่มเติมระบบเสียงรอบทิศทางเข้ามา ทั้งยังมีระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถด้านหน้า, ระบบแจ้งเตือนเมื่อเปลี่ยนช่องทางการจราจร เป็นต้น
ปิดท้ายด้วยราคาสำหรับ Mercedes-Benz GLC รุ่นประกอบในประเทศโฉมใหม่นี้ แบ่งออกเป็น Mercedes-Benz GLC 220 d ราคา 3,239,000 บาท ส่วน Mercedes-Benz GLC 220 d AMG Dynamic อยู่ที่ตัวเลข 3,699,000 บาท
อัลบั้มภาพ 6 ภาพ