All-new Isuzu D-Max ครบเครื่องความเหนือชั้นแห่งวงการปิกอัพ เริ่มต้น 5.1 แสน

คอกระบะเตรียมรับแรงกระแทกแห่งสมรรถนะและความแข็งแกร่งครั้งใหม่กันได้เลย! เพราะเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ All-new Isuzu D-Max ที่ทางอีซูซุคอนเฟิร์มว่า นี่คือยนตรกรรมที่ “เหนือกว่า” คำว่าปิกอัพ และจะกลายเป็นพลานุภาพที่จะพลิกโลกได้!!!

All-new Isuzu D-Max

All-new Isuzu D-Max แบ่งรุ่นย่อยออกมาให้เลือกกันเพียบ แต่หลักๆ จะแบ่งออกเป็น

• All-new Isuzu D-Max V-Cross 4x4 รุ่น 4 ประตู
• All-new Isuzu D-Max V-Cross 4x4 รุ่น 2 ประตู
• All-new Isuzu D-Max Hi-Lander รุ่น 4 ประตู
• All-new Isuzu D-Max Hi-Lander รุ่น 2 ประตู
• All-new Isuzu D-Max Cab 4
• All-new Isuzu D-Max SpaceCab
• All-new Isuzu D-Max Spark ขับเคลื่อน 2 ล้อ
• All-new Isuzu D-Max Spark ขับเคลื่อน 4 ล้อ

ซึ่งในด้านของขุมพลังก็มีให้เลือกอีก 2 แบบ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องยนต์ Isuzu 3.0 Ddi Blue Power รุ่น 4JJ3-TCX เทคโนโลยีดีเซลล่าสุดที่ให้พละกำลัง 190 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 450 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,600 รอบ/นาที แถมยังมี E-VGS Turbo เทอร์โบแปรผันปรับไฟฟ้าที่แม้รอบจะต่ำ แต่รถก็ยังแรง

เครื่องยนต์ Isuzu 3.0 Ddi Blue Power รุ่น 4JJ3-TCX

ส่วนอีกแบบเป็นเครื่องยนต์ Isuzu 1.9 Ddi Blue Power Gen 2 รุ่น RZ4E-TC กับกำลังสูงสุดที่ 150 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที ส่วนแรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตรที่ 1,800-2,600 รอบ/นาที ออกตัวและเร่งแซงได้เร็วขึ้น โดยทั้ง 2 ขุมพลังทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดใหม่และโหมดขับขี่แบบสปอร์ต Rev Tronic และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด สไตล์สปอร์ต ขับสนุกยิ่งขึ้น และไม่ลืมว่ายังรักษามาตรฐานในการประหยัดน้ำมันซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Isuzu D-Max เอาไว้อย่างเต็มเปี่ยม

Isuzu 1.9 Ddi Blue Power Gen 2 รุ่น RZ4E-TC

“Bold but Emotional” คือแนวคิดในการดีไซน์ All-new Isuzu D-Max กับความแข็งแกร่งและทรงพลังกว่าที่เคยเป็นมาจากมิติตัวรถที่ใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ในทางกลับกัน ก็ยังสัมผัสได้ถึงความปราดเปรียว สปอร์ต และลู่ลมจากเส้นสายอันพลิ้วไหว ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศที่ต่ำที่สุด เพิ่มเติมเสริมสิ่งใหม่ด้วยไฟหน้า Isuzu Vision Bi-LED กับระบบเปิดและปิดอัตโนมัติ, ไฟท้าย Dual-Sonic LED, ไฟ Multifunctional Daylight แบบ Built-in และไฟตัดหมอก LED ส่วนกันชนท้าย Integrated Bumper ที่เป็นหนึ่งเดียวกับตัวรถ และดีไซน์ล้ออีกหลากหลายสไตล์

ส่วนภายในห้องโดยสารก็กว้างขวาง ภายใต้คอนเซ็ปต์ Bold but Smart ที่เส้นสายจะเฉียบคม วัสดุตกแต่งสุดพรีเมียม คอนโซลหน้าเล่นระดับแบบ Sharp Horizontal Layers พร้อมฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวก อาทิ Smart MID ขนาด 4.2 นิ้ว, พวงมาลัยปรับระดับ 4 ทิศทางแบบ Tilt & Telescopic, แผงควบคุมระบบปรับอากาศ Piano Touch, เบาะนั่งคู่หน้าเทคโนโลยี AVEC หรือ Anti-Vibration Elastic Comfort ส่วนที่นั่งคนขับปรับไฟฟ้าได้ถึง 8 ทิศทาง ส่วนด้านความบันเทิงมีหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว คมชัดระดับ HD ระบบเสียงรอบทิศทาง 8 ลำโพง เป็นต้น

ในขณะที่โครงสร้างของ All-new Isuzu D-Max ก็เป็นตัวถังเสริมเหล็ก Ultra-High Tensile แข็งแกร่งกว่าเหล็กธรรมดาเสียอีก ในขณะที่แชสซีส์ใหม่มีขนาดใหญ่ขึ้น และรับแรงบิดได้สูงขึ้นอีก 23% ช่วงล่างด้านหลังแหนบยาวแบบ Long Span พร้อมเทคโนโลยี WSSP ส่วนช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบอิสระปีกนก 2 ชั้น Double Wishbone with Coil Spring พร้อมด้วยระบบความปลอดภัยครบครันที่มีทั้งการป้องกันก่อนและขณะเกิดอุบัติเหตุ อีกทั้งยังมีความล้ำสมัยมานำเสนอมากมาย อาทิ ครั้งแรกในวงการปิกอัพกับกระจกบังลมหน้าแบบ IR Cut กรองรังสีอินฟราเรด ป้องกันรังสี UVA และ UVB รวมถึงลดอุณหภูมิในห้องโดยสาร, กุญแจ Keyless Entry สตาร์ทเครื่องยนต์ในระยะ 20 เมตร หรือแม้แต่ High Efficiency Filter ซึ่งเป็นระบบกรองอากาศเข้าห้องโดยสาร กับการดักฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ถึงระดับ PM 2.5 อีกด้วย

ราคาจำหน่ายของ All-new Isuzu D-Max เริ่มต้นที่ 5.1 แสน ไปจนถึง 1.164 ล้านบาท และสามารถไปดูคันจริงได้ที่โชว์รูมอีซูซุทั่วประเทศตั้งแต่ 19 ตุลาคม 2562 เป็นต้นไป