เจาะลึกกระบะ NEW MG EXTENDER 3 รุ่นน่าสนใจ พร้อมสำรวจความคุ้มค่ากับราคาที่เปิดตัวมาเพียง 5.49 แสนบาท

ถือเป็นอีกหนึ่งรถยนต์สายพันธุ์กระบะที่ขึ้นแท่นเป็นตัวเลือกที่มาแรงสำหรับคนยุคนี้กับ “NEW MG EXTENDER” จากค่ายเอ็มจีที่เปิดตัวมาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่ดุดัน แข็งแกร่ง บึกบึน โดดเด่นด้วยกระจังหน้าในแบบโมเดิร์นดีไซน์ที่เป็นสไตล์เฉพาะของเอ็มจีในราคาที่น่าคบ เพราะคุ้มค่าทุกฟังก์ชั่น จัดเต็มทุกสมรรถนะ ครบทุกความปลอดภัย และการควบคุมที่สมบูรณ์แบบกับราคาเริ่มต้นที่ 549,000 บาท

เมื่อลองเจาะลึกลงในรายละเอียดจะพบว่านอกเหนือจากดีไซน์ที่โดดเด่น กระบะสายพันธุ์เอ็มจียังมีอีกหลายจุดขายสำคัญที่ยกระดับมาตรฐานของรถกระบะขึ้นไปอีกขั้น ไม่ว่าจะเป็นมิติตัวถังขนาดใหญ่ทำให้ภายในห้องโดยสารกว้างขวางนั่งสบาย และพื้นที่กระบะท้ายที่สามารถบรรทุกได้มากยิ่งขึ้น ซึ่ง ณ ตอนนี้ NEW MG EXTENDER ถือเป็นรถกระบะที่มีตัวถังใหญ่ที่สุดในตลาด

ทำความรู้จักกับกระบะสายพันธุ์ยักษ์ 3 รุ่นเด่นในตระกูล NEW MG EXTENDER

NEW MG EXTENDER เปิดตัวมาพร้อมกับกระบะตอนครึ่ง (Giant Cab) และแบบ 4 ประตู (Double Cab) ที่มีระบบส่งกำลังทั้งแบบธรรมดาและแบบอัตโนมัติ 6 สปีด จึงถือได้ว่าตอบโจทย์ได้อย่างครบครันทั้งเรื่องดีไซน์ สมรรถนะ การบรรทุก และราคาที่คุ้มค่าสบายกระเป๋า

และนี่คือกระบะสายพันธุ์ยักษ์ 3 รุ่นเด่นในตระกูล NEW MG EXTENDER ที่มีตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นเอาใจกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าสำหรับใช้ในชีวิตประจำวันและเพื่อประกอบอาชีพ รุ่นยกสูงสำหรับผู้ที่ต้องการรถที่มีรูปลักษณ์โดดเด่น ดีไซน์ที่ดุดันมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถใช้แทนรถ Passenger car ได้อีกด้วย  

เริ่มต้นด้วย NEW MG EXTENDER รุ่น 2.0 DC GRAND X 6AT พี่ใหญ่ตัวท็อป สเปคจัดเต็มที่สุดในตลาดรถกระบะ 2WD แบบ 4 ประตู รุ่นยกสูง

หากใครกำลังมองหารถกระบะ 4 ประตู รุ่นยกสูง ในระดับราคา 8.5 – 9.5 แสนบาท ต้องไม่พลาดกับ NEW MG EXTENDER รุ่น 2.0 DC GRAND X 6AT คันนี้กับราคาค่าตัวที่ 879,000 บาท มาพร้อม ขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล ไดเร็คอินเจ็คชั่น 2.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 161 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิด 375 นิวตันเมตร พร้อมระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 6 สปีด ถือได้ว่าให้กำลังแรงม้าที่สูงที่สุดในรถระดับเดียวกัน พร้อมช่วงล่างแบบ EURO TUNING SUSPENSION ระบบกันสะเทือนด้านหน้าอิสระปีกนกคู่ (Double Wishbone) ด้านหลังแหนบแบบซ้อนแผ่น (Leaf Spring Suspension) ซึ่งให้ความนุ่มนวลในการขับขี่ที่ความเร็วต่ำ และให้ความมั่นคงในการขับขี่ที่ความเร็วสูง เพิ่มความปลอดภัยและมั่นใจในการใช้งาน ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ (Projector) พร้อม Daytime Running Lights ไฟตัดหมอกหน้า ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED บันไดข้าง กระจกมองข้างและด้ามจับประตูแบบโครเมียม ล้ออัลลอยด์ขนาด 18 นิ้ว กล้องมองหลังพร้อมเซนเซอร์ขณะถอยหลัง ที่ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

ภายในห้องโดยสารกว้างขวางและสะดวกสบาย เก็บเสียงได้อย่างดีเยี่ยมด้วยการออกแบบฉนวนกันเสียง 9 จุด การออกแบบภายในสร้างความรู้สึกแข็งแกร่งสอดคล้องกับรูปลักษณ์ภายนอกโดยใช้โทนสีเข้มและเพิ่มความเรียบหรูด้วยการตกแต่งคอนโซล และภายในด้วยวัสดุ ที่ให้สัมผัสนุ่ม (SOFT TOUCH) พร้อมแผงหน้าปัดดีไซน์สปอร์ตมาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน อาทิ กระจกมองหลังปรับแสงอัตโนมัติ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์ หน้าจอสีระบบสัมผัสขนาดใหญ่ขนาด 10 นิ้ว ซึ่งถือว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในเซกเมนต์รถกระบะ ณ ตอนนี้ กุญแจระบบ Smart Key พร้อมปุ่ม Push Start และระบบปรับอากาศอัตโนมัติ สำหรับเบาะนั่งคนขับสามารถปรับได้ 6 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า 4 ทิศทาง 

คุ้มค่าคุ้มราคา สมกับชื่อชั้นของการเป็นสมาร์ทปิคอัพที่สามารถสั่งการด้วยเสียงภาษาไทยเป็นครั้งแรกของโลกในรถกระบะ ด้วยระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i–SMART ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของรถยนต์เอ็มจี ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่กับรถสามารถเชื่อมต่อกันได้ เพื่อความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น SMART Command ระบบสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย ที่สามารถสั่งการให้โทรออก เปิด-ปิดหรือควบคุมระบบปรับอากาศ หน้าต่างฝั่งคนขับ ตลอดจนวิทยุภายในรถ รวมทั้งค้นหาจุดสนใจ นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมหรือสั่งการระบบต่างๆ ผ่านหน้าจอทัชสกรีนภายในรถ หรือเลือกสั่งการบนสมาร์ทโฟนผ่าน MG Mobile Application การเชื่อมต่อ หรือ SMART Connect ที่สามารถเลือกฟังเพลงผ่าน Online Music ค้นหาร้านอาหารและที่พัก รวมทั้งเรียกดูข้อมูลข่าวสารและเหตุการณ์ปัจจุบันจากเว็บไซต์ดังได้บนหน้าจอในรถ และการตรวจเช็ครถ หรือ SMART Check โดยสามารถสั่งล็อกหรือปลดล็อกประตู ตรวจสอบตำแหน่งและค้นหารถ แจ้งความผิดปกติ และแจ้งสถานะการทํางานของรถ รวมถึงระบบช่วยค้นหาศูนย์บริการ นัดหมาย และบันทึกการดูแลรักษารถยนต์ตามระยะได้อีกด้วย

ในด้านความปลอดภัย NEW MG EXTENDER มาพร้อมโครงสร้างตัวถังแบบ FSF (Full Space Frame) แบบ Ultra-high Strength Body ด้วยโครงสร้างที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง พร้อมรับทุกสภาพการใช้งาน ปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยดิสก์เบรก 4 ล้อ อีกทั้งยังได้ติดตั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) และระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป Advanced Synchronized Protection System ประกอบด้วย ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน ABS ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบควบคุมการทรงตัว SCS ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล TCS ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS และระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC ซึ่งถือว่าจัดเต็มที่สุดเมื่อเทียบกับรถกระบะในระดับราคาเดียวกัน

นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมการเปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer ถุงลมนิรภัยคู่หน้า เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ เข็มขัดนิรภัยแถวหลังแบบ 3 จุด 3 ตำแหน่ง และกล้องมองหลัง พร้อมสัญญาณเตือนระยะถอยหลัง เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ให้อีกด้วย

สำหรับผู้ที่มองหารถกระบะ 2 ประตู หรือแบบตอนครึ่ง 2WD รุ่นยกสูง  ในงบประมาณระหว่าง 6.5 – 7 แสนบาท อีกหนึ่งตัวเลือกเด็ดจากเอ็มจี นั่นคือ NEW MG EXTENDER รุ่น 2.0 GC GRAND D 6MT คันนี้เรียกได้ว่าตอบโจทย์เพราะออปชั่นคุ้มเกินราคา เมื่อเทียบกับสเปคที่ให้มาอย่างจัดเต็มเช่นเดียวกัน

ขุมพลังของ NEW MG EXTENDER รุ่น 2.0 GC GRAND D 6MT ใช้เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล ไดเร็คอินเจ็คชั่น 2.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 161 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิด 375 นิวตันเมตร และระบบเกียร์ธรรมดาแบบ 6 สปีด

รุ่นนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นกระบะพันธุ์ยักษ์ที่ให้มากกว่าอย่างแท้จริง ด้วยมิติตัวถังขนาดใหญ่ โดยมีขนาด ยาว x กว้าง x สูง : 5,365 x 1,900 x 1,820 มม. และเหนือกว่าด้วยความยาวกระบะท้ายขนาด 1,900 มิลลิเมตร ซึ่งยาวที่สุดในรถระดับเดียวกัน ทำให้ช่วยเพิ่มปริมาณการบรรทุกได้มากยิ่งขึ้น พร้อมช่วงล่างแบบ EURO TUNING SUSPENSION ระบบกันสะเทือนด้านหน้าอิสระปีกนกคู่ (Double Wishbone) ด้านหลังแหนบแบบซ้อนแผ่น (Leaf Spring Suspension) คงความนุ่มนวลและความมั่นคงในการขับขี่ได้อย่างลงตัว เสริมความปลอดภัยและมั่นใจในการใช้งาน ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ (Projector) พร้อม Daytime Running Lights ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED บันไดข้าง กระจกมองข้างและด้ามจับประตูแบบโครเมียม ล้ออัลลอยด์ขนาด 16 นิ้ว กล้องมองหลังพร้อมเซนเซอร์ขณะถอยหลัง ที่ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

ภายห้องโดยสารออกแบบเช่นเดียวกับในรุ่น Double Cap ที่ยังคงความกว้างขวางและสะดวกสบาย สามารถเก็บเสียงได้อย่างดีเยี่ยม วัสดุหุ้มเบาะแบบผ้าใช้โทนสีเข้มและคงความเรียบหรูด้วยวัสดุที่ให้สัมผัสนุ่ม (SOFT TOUCH) พร้อมแผงหน้าปัดดีไซน์สปอร์ต มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน อาทิ หน้าจอสีระบบสัมผัสขนาดใหญ่ถึง 10 นิ้ว สามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ วิทยุ MP3 AUX และช่องเชื่อมต่อ USB 2 ช่อง ทำงานร่วมกับพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน กุญแจระบบ Smart Key สำหรับเบาะนั่งคนขับสามารถปรับได้ 6 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า 4 ทิศทาง 

ด้านความปลอดภัย NEW MG EXTENDER รุ่น 2.0 GC GRAND D 6MT ใช้โครงสร้างตัวถังแบบ FSF (Full Space Frame) แบบ Ultra-high Strength Body ที่ใช้เทคโนโลยีในการผลิตขั้นสูง พร้อมรับทุกสภาพการใช้งาน และปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยดิสก์เบรก 4 ล้อ โดดเด่นกว่ารถกระบะอื่นในระดับเดียวกันด้วยการติดตั้งระบบความปลอดภัยที่ให้มากที่สุด ด้วยมาตรฐานยุโรป Advanced Synchronized Protection System ประกอบด้วย ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน ABS ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบควบคุมการทรงตัว SCS ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล TCS ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS และระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC

นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบควบคุมการเปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer ถุงลมนิรภัยคู่หน้า พร้อมเข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ และกล้องมองหลัง พร้อมสัญญาณเตือนระยะถอยหลังช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ โดย NEW MG EXTENDER รุ่น 2.0 GC GRAND D 6MT สนนราคาอยู่ที่ 659,000 บาท เท่านั้น!!!

ปิดท้ายด้วย NEW MG EXTENDER รุ่น 2.0 GC C 6MT รุ่นเริ่มต้นของตระกูล Giant Cab ที่ยังคงความโดดเด่นในด้านของดีไซน์ มาพร้อมความคุ้มค่า คุ้มราคา สำหรับคนที่มองหารถกระบะที่ต้องการใช้งานเพื่อการบรรทุกได้เป็นจำนวนมากในงบประมาณไม่เกิน 5.5 แสนบาท

เอ็มจีเปิดราคารุ่นนี้ไว้ที่ 549,000 บาท แต่ยังคงความแรงของเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล ไดเร็คอินเจ็คชั่น 2.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 161 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิด 375 นิวตันเมตร พร้อมระบบเกียร์ธรรมดาแบบ 6 สปีด เช่นเดียวกันกับรุ่นอื่นๆ

มิติตัวถังขนาดใหญ่ยังคงเป็นจุดขายสำคัญ รถกระบะรุ่นนี้มีพื้นที่กระบะท้ายขนาดใหญ่และจุได้มากที่สุดเมื่อเทียบกับรถในระดับราคาเดียวกัน โดยมีขนาดกระบะท้ายอยู่ที่ ยาว x กว้าง x สูง : 1,900 x 1,510 x 530 มม. ระบบพวงมาลัยแร็คแอนด์พิเนียน (Rack & pinion) ผ่อนแรงด้วยไฮดรอลิค แข็งแรง ทนทานด้วยช่วงล่างแบบ EURO TUNING SUSPENSION ระบบกันสะเทือนด้านหน้าอิสระปีกนกคู่ (Double Wishbone) ด้านหลังแหนบแบบซ้อนแผ่น (Leaf Spring Suspension) คงความนุ่มนวลและความมั่นคงในการขับขี่ได้อย่างลงตัว เสริมความปลอดภัยและมั่นใจในการใช้งาน พร้อมไฟหน้าแบบฮาโลเจน (Halogen) และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED

ภายห้องโดยสารออกแบบให้กว้างขวางและสะดวกสบาย สามารถเก็บเสียงได้อย่างดีเยี่ยม วัสดุหุ้มเบาะดีไซน์แบบผ้าใช้โทนสีเข้ม มาพร้อมแผงบังแดด พร้อมกระจกด้านผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ (Multi-Function Display) พร้อมลำโพงติดตั้ง 4 จุด สำหรับเบาะนั่งคนขับสามารถปรับได้ 6 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า 4 ทิศทาง

ด้านความปลอดภัยมาพร้อมโครงสร้างตัวถังแบบ FSF (Full Space Frame) แบบ Ultra-high Strength Body ที่ใช้เทคโนโลยีในการผลิตขั้นสูง พร้อมรับทุกสภาพการใช้งาน ประกอบด้วยระบบความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน ABS ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA และระบบกระจายแรงเบรก EBD และยังมาพร้อมกับระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer ถุงลมนิรภัยคู่หน้า พร้อมเข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ ด้วยราคาที่น่าคบหาแต่ให้ความคุ้มค่าอย่างสูงสุด

NEW MG EXTENDER ทุกรุ่นมาพร้อมบริการหลังการขาย “Passion Service” ที่เพิ่มความสะดวกมากขึ้นด้วยการบริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องภายใน 1 ชั่วโมง การจัดส่งอะไหล่ภายใน 1 วันทำการ และบริการรถสำรองระหว่างซ่อม ยิ่งไปกว่านั้นรถกระบะรุ่นนี้ยังมีค่าบำรุงรักษาทั้งในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ (2WD) และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD) ที่น้อยที่สุดเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน คือ ระยะทาง 100,000 กิโลเมตร ไม่เกิน 20,000 บาท และยังมาพร้อมการประกันคุณภาพนาน 5 ปี หรือ 150,000 กม.

NEW MG EXTENDER รุ่น 2WD ทั้งแบบกระบะตอนครึ่ง GIANT CAB และแบบ 4 ประตู DOUBLE CAB พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ที่โชว์รูมเอ็มจี ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ MG CALL CENTRE โทร. 1267 และที่เว็บไซต์ www.mgcars.com

(Advertorial)