พิสูจน์แล้ว! รถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model S Long-Range Plus 2020 วิ่งได้ 400 ไมล์เป็นรุ่นแรก
15 มิถุนายน ที่ผ่านมา Tesla (เทสลา) ได้ประกาศว่า รถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model S Long-Range Plus 2020 มี EPA ระยะวิ่งอย่างเป็นทางการ 402 ไมล์ (646.95 กม.) นับว่าเป็นความสำเร็จหลังจากที่ก่อนหน้านี้ถูกหน่วยงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อม (EPA) ออกมาบอกว่าการทดสอบ Tesla Model S ผิดพลาด ระยะการวิ่งควรจะเป็นแค่ 391 ไมล์ ซึ่ง Tesla มั่นใจว่าวิ่งได้ 400 ไมล์จึงขอทดสอบใหม่จนพิสูจน์ได้ว่าวิ่งได้ไกลตามที่ประกาศไว้จริงๆ
Tesla Model S Long-Range Plus 2020 สามารถวิ่งได้ไกลกว่ารุ่น Tesla Model S 100D 2019 เกือบ 20% ทั้งที่มีการออกแบบชุดแบตเตอรี่แบบเดียวกัน เพราะ Tesla ได้มุ่งมั่นพัฒนาฮาร์ดแวร์และสถาปัตยกรรมอย่างต่อเนื่อง และเมื่อต้นปีก็ได้เริ่มผลิตรถยนต์ Model S Long Range Plus ที่มีระยะวิ่ง 402 ไมล์ที่โรงงานในฟรีมอนต์แคลิฟอร์เนีย ทั้งนี้ Elon Musk (อีลอน มัสก์) ซีอีโอของ Tesla ได้ทวีตว่า รถยนต์ Model S ทั้งหมดที่ผลิตตั้งแต่มกราคมจะมีระยะวิ่ง 402 ไมล์
Model S วิ่งได้ 402 ไมล์ เพราะได้มีการปรับปรุงน้ำหนักของรถยนต์ ประสิทธิภาพของหน่วยขับเคลื่อน ล้อ และปรับปรุงการเบรกใหม่ รวมทั้งได้ยกสิ่งที่พัฒนาไว้จาก Model 3 และ Model Y รุ่นล่าสุด ตั้งแต่การปรับพื้นที่, ลดน้ำหนักโดยการผลิตเบาะเอง, ใช้วัสดุน้ำหนักเบาในแบตเตอรีและชุดขับเคลื่อน, ล้อแบบ Aero wheels ที่เรียกว่า “Tempest” และยางต้านทานการหมุนต่ำ ซึ่งสองอย่างนี้ช่วยเพิ่มระยะการวิ่งได้ถึง 2% และการเปลี่ยนปั๊มน้ำมันเครื่องและปรับปรุงกระปุกเกียร์ ซึ่งช่วยเพิ่มระยะการวิ่งได้ 2% อีกด้วย
นอกจากนี้ Tesla ได้มีฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า “Hold” โดยการใช้เบรกรีเจนเนอร์เรทีฟ ซึ่งเป็นการใช้มอเตอร์ไฟฟ้ามาช่วยเบรกให้รถหยุดโดยการคลายคันเร่ง ซึ่งมอเตอร์ไฟฟ้าจะเปลี่ยนโหมดมาเป็นเจเนอเรเตอร์ให้กำเนิดพลังงานไฟฟ้าแล้วส่งกลับไปจัดเก็บลงในแบตเตอรี่ ซึ่งทำให้รถวิ่งได้ไกลขึ้นโดยไม่ต้องเพิ่มขนาดแบตเตอรี่ น้ำหนักและราคารถยนต์ก็ไม่เพิ่มขึ้นด้วย
ขณะนี้ Tesla ได้ลงทุนเพื่อสนับสนุนให้มีการใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น โดยเพิ่มเครือข่ายซูเปอร์ชาร์จเจอร์ครอบคลุมมากกว่า 17,000 เครื่องทั่วโลก และได้นำรุ่นใหม่ล่าสุด V3 ไปใช้ในสามทวีป ซึ่งช่วยลดเวลาในการชาร์จได้ถึง 50% เมื่อเทียบกับรุ่น V2 รวมทั้งได้ปรับลดราคา Model S Long Range Plus ลง 5,000 เหรียญสหรัฐฯ และเมื่อรวมกับประสิทธิภาพที่ดีขึ้น เชื่อว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla จะมีโอกาสเพิ่มมากขึ้นด้วย