Toyota AE86 : จากตำนานรถส่งเต้าหู้แห่งเขาอากินะ สู่การเป็นรถมือสองราคาแรงในปัจจุบัน
ถ้าพูดถึงมังงะญี่ปุ่นแนวแข่งรถ เรื่องแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวของคุณคือเรื่องอะไร? ให้เวลาคิด 4 บรรทัด ถ้าพร้อมแล้วเริ่ม
หมดเวลา! เราไม่รู้หรอกว่าทุกคนนึกถึงเรื่องอะไร แต่ถ้าให้สรุปเองก็ค่อนข้างมั่นใจว่า "Initial D" น่าจะเป็นผู้ชนะไปอย่างเอกฉันท์ การันตีความนิยมด้วยยอดขายมังงะรวมเล่มที่มากกว่า 48 ล้านเล่ม นอกจากนั้นยังมีการดัดแปลงมาแล้วทั้งฉบับแอนิเมชันและภาพยนตร์ (นำแสดงโดย เจย์ โชว์ ซูเปอร์สตาร์แห่งไต้หวัน) รวมถึงตู้เกมที่กวาดเงินเด็กๆ ทั่วโลกมาแล้วมหาศาล เรียกได้ว่าแทบทุกผลิตภัณฑ์ที่ออกมา มีแต่จะทำให้ผู้เกี่ยวข้องทุกคน รวย รวย รวย!
และไม่ใช่แค่ความนิยมเกี่ยวกับเนื้อเรื่องเท่านั้น แม้กระทั่งรถที่เด่นที่สุดในเรื่อง หรือ "รถพระเอก" อย่าง Toyota Sprinter Trueno รหัสตัวถัง AE86 หรือที่คนเรียกกันติดปากว่า Toyota AE86 ก็โด่งดังเป็นพลุแตกไม่แพ้กัน ส่งผลให้รถรุ่นที่ผลิตในปี 1983-1987 คันนี้ ในตลาดรถมือสองปัจจุบันกลับมีราคาพุ่งสูงขึ้นกว่าตอนที่ออกวางจำหน่ายในตอนแรกเสียอีก
ครั้งนี้เราจะพาทุกคนย้อนเวลากลับไปรู้จัก Toyota AE86 ให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงการเป็นตำนานแห่งเขาอากินะ และการเป็นรถมือสองราคาแรงในปัจจุบัน ติดตามได้ที่ Main Stand
ก่อนจะมาส่งเต้าหู้
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจให้กระจ่างก่อนว่า Toyota AE86 นั้นคือรถรุ่นอะไรกันแน่ เนื่องจากรายละเอียดตรงนี้ค่อนข้างซับซ้อน
แท้จริงแล้ว Toyota AE86 ที่เรียกกันติดปากนั้น เป็นหนึ่งในซีรีส์ของรุ่น Corolla ที่ทุกคนคุ้นเคยกับบทบาทของการเป็นรถครอบครัว ขนาดกะทัดรัด ราคาประหยัด ใช้งานสะดวกนั่นเอง
www.jpdjapan.com
อันที่จริง ในช่วงปี 1983-1987 อันเป็นช่วงที่ Toyota ผลิตรถรุ่น Corolla เจเนอเรชั่นที่ 5 ภายใต้รหัสตัวถัง E80 นั้น ค่ายสามห่วงได้พลิกโฉมรถรุ่นดังกล่าวครั้งใหญ่ ด้วยการเปลี่ยนมาใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ซึ่งจะช่วยเพิ่มขนาดในห้องโดยสารของรถขนาดเล็กๆ ได้มากกว่าแล้ว ทว่าพวกเขาก็ได้สร้างรถขับเคลื่อนล้อหลังรุ่นสุดท้ายในตระกูล Corolla ออกมา ภายใต้ชื่อ Corolla Levin และ Sprinter Trueno ซึ่งมีหน้าตาที่คล้ายคลึงกันมาก มีเพียงรายละเอียดปลีกย่อยนิดหน่อยเท่านั้นที่แตกต่างกัน
initiald.fandom.com
ทั้ง Corolla Levin และ Sprinter Trueno เป็นรถสปอร์ตคอมแพ็คที่มีทั้งโฉม 2 ประตูคูเป้ และ 3 ประตูแบบ Hatchback (ท้ายลาด) มาพร้อมกับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ เครื่องยนต์วางหน้า ขับเคลื่อนล้อหลัง โดยความแตกต่างของทั้งคู่คือ รุ่น Levin จะมาพร้อมกับไฟหน้าธรรมดา เหมือน Corolla ทั่วไป ในขณะที่ Sprinter Trueno ไฟหน้าจะเป็นแบบป๊อปอัพ พับเก็บได้ คล้ายรถสปอร์ตยอดนิยมในยุค 80's
www.torque-gt.co.uk
Corolla Levin และ Sprinter Trueno สามารถแบ่งยิบย่อยลงไปได้อีก คือโฉมรหัสตัวถัง AE85 และ AE86 ซึ่งความแตกต่างของสองรหัสดังกล่าวคือ AE85 จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร รหัส 3A-U 83 แรงม้า ส่วน AE86 เครื่องยนต์จะเป็น 1.6 ลิตร รหัส 4A -GEU 130 แรงม้า รวมถึงความแตกต่างในชิ้นส่วนภายในบางประการ นอกจากนั้น รหัส AE86 จะมีออปชั่นแถบดำคาดตรงกลางด้านล่างรถให้เลือก ในขณะที่ AE85 นั้นไม่มี
โดยในช่วงเวลาที่ Corolla Levin และ Sprinter Trueno ออกวางจำหน่ายนั้น ถือเป็นเรื่องฮือฮาอย่างมาก เพราะนอกจากรูปโฉมจะล้ำสมัย ดูเป็นรถสปอร์ตในราคาจับต้องได้แล้ว ในส่วนของเครื่องยนต์โดยเฉพาะโฉมรหัสตัวถัง AE86 นั้นถือได้ว่าแรงกว่ารถบ้านรุ่นอื่นๆ ในค่ายโตโยต้าอย่างเห็นได้ชัด จนเอาไปใช้ในสนามแข่งขันต่างๆ ไม่ว่าทางเรียบแบบเซอร์กิต หรือทางฝุ่นแบบแรลลี่ได้เลย อีกทั้งด้วยขนาดที่กะทัดรัด ก็ทำให้สามารถซิ่ง ซิกแซก มุดไปตามเส้นทางต่างๆ ได้ดั่งใจอีกด้วย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่รถรุ่นนี้จะกลายเป็นรถขายดีในช่วงเวลาดังกล่าว
土屋圭市 Keiichi Tsuchiya
นอกจากนั้น AE86 ทั้ง Corolla Levin และ Sprinter Trueno ยังถือเป็น "รถครู" ที่นักดริฟท์นิยมใช้ฝึก เนื่องจากน้ำหนักที่ค่อนข้างเบา เพียง 998-1,089 กิโลกรัมเท่านั้น ขับเคลื่อนด้วยล้อหลัง อะไหล่มีราคาไม่แพง แม้กระทั่ง "เคอิชิ สึชิยะ" (Keiichi Tsuchiya) ตำนานดริฟท์คิงตัวจริงแห่งประเทศญี่ปุ่น ก็หลงรักในรถรุ่นนี้ จากการที่ใช้มันล่ารางวัลต่างๆ มามากมาย
"สิ่งที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับ AE86 คือรูปร่างที่ปราดเปรียว รวมถึงการจัดตำแหน่งรถและการควบคุมพวงมาลัยก็ทำได้โดยง่าย ผมรู้สึกประทับใจและรู้สึกว่ารถคันนี้มันน่าทึ่งมาก" สึชิยะ กล่าวกับ Global Toyota ซึ่งเขาบอกด้วยว่า "จะไม่ขาย AE86 ที่ตัวเองมี และจะขับไปเรื่อยๆ จนกว่าชีวิตจะหาไม่"
ตำนานแห่งเขาอากินะ
นอกจากเรื่องรูปโฉมของรถ ความแรงของเครื่องยนต์ ที่ทำให้ Corolla Levin และ Sprinter Trueno รหัสตัวถัง AE86 ได้รับความนิยม และกลายเป็นหนึ่งในรถรุ่นที่นักแข่งมักจะนำมาลงสนามแล้วนั้น แน่นอนว่าอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้ AE86 โด่งดังเป็นพลุแตก ก็หนีไม่พ้นการที่ อาจารย์ ชูอิจิ ชิเงโนะ นักเขียนมังงะชาวญี่ปุ่นได้สร้างสรรค์ผลงานแนวรถแข่งในชื่อ Initial D ขึ้นมา และให้ตัวเอกของเรื่องอย่าง "ทาคุมิ ฟูจิวาระ" ใช้รถ Toyota Sprinter Trueno รหัสตัวถัง AE86 3 ประตู สีแพนด้า (ขาว-ดำ) เป็นรถประจำกาย
www.deviantart.com
สาเหตุที่อาจารย์ผู้เขียนเลือกที่จะนำเสนอเรื่องราวการผจญภัยในโลกแห่งความเร็วของ ทาคุมิ ผ่านรถ Sprinter Trueno รหัสตัวถัง AE86 ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการที่ตัวอาจารย์ชื่นชอบหลงใหลรถรุ่นนี้อยู่เป็นทุนเดิม และเป็นรถประจำตัวของเขาในชีวิตจริงอีกด้วย (ซึ่งรถอีกคันของอาจารย์ชิเงโนะ อย่าง Subaru Impreza WRX STi รหัสตัวถัง GC8 โฉม 2 ประตู คูเป้ ก็ได้โผล่มาเป็นรถคู่ใจ บุนตะ คุณพ่อของทาคุมิด้วยเช่นกัน)
กิจวัตรประจำวันของทาคุมินั้น คือการขับรถขึ้นเขาอากินะไปส่งเต้าหู้ที่โรงแรมริมทะเลสาบตรงยอดเขาในทุกเช้ามืด ก่อนจะตีรถเปล่ากลับบ้าน ซึ่งด้วยสไตล์การขับขี่อันบ้าระห่ำของ ทาคุมิ (เนื่องจากเจ้าตัวอยากกลับมานอนไวๆ) ที่ต่อยอดสู่การแข่งขันบนทางเลียบเขา ทำให้ภาพจำของ AE86 กลายเป็นรถแห่งการดริฟท์ไปโดยปริยาย และไม่ใช่แค่ ทาคุมิ เพราะตัวละครอีกหลายตัวในเรื่องก็ใช้รถ AE86 ทั้ง Corolla Levin และ Sprinter Trueno เป็นรถคู่กายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น
www.mangareader.net
AE85 Levin 3 ประตู : ขับโดย อิสึกิ ทาเกอุจิ เพื่อนสนิทของ ทาคุมิ ที่โดนเต็นท์รถมือสองย้อมแมวขาย
AE86 Levin 3 ประตู : ขับโดย วาตารุ อากิยามะ หนุ่มจากจังหวัดไซตามะ ผู้ต้องการวัดกับ ทาคุมิ ว่าใครเป็นนักซิ่ง AE86 ที่เร็วที่สุด
AE86 Trueno 3 ประตู : ขับโดย ทาคุมิ ตัวปลอม ที่ใช้ชื่อเสียงของตัวจริงไปหลอกคนอื่นๆ ในช่วงที่พระเอกของเราร่วมทีม Project D กับเป้าหมาย "พิชิตคันโต" (ของตัวปลอมเป็นโฉมใหม่กว่า)
AE86 Trueno 2 ประตู : ขับโดย ชินจิ อินุอิ คู่แข่งคนสุดท้ายของ ทาคุมิ ในเรื่อง
เรียกได้ว่าทั้ง Corolla Levin และ Sprinter Trueno คือรถที่โดดเด่นที่สุดใน Initial D อย่างไร้ข้อกังขา และด้วยยอดขายของมังงะเรื่องนี้ที่มากกว่า 48 ล้านเล่มทั่วโลก รวมถึงการถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ และเกมอีกมากมาย ทำให้รถทั้งสองรุ่นนี้ยิ่งได้รับความนิยมขึ้นไปอีก กลายเป็นหนึ่งในไอเท็มหายากที่ขาซิ่งสายเรโทรปรารถนาอยากเป็นเจ้าของ ผลลัพธ์คือการที่ราคาในตลาดมือสองพุ่งสูงขึ้นอย่างฉุดไม่อยู่
สั่นสะเทือนตลาดรถมือสอง
เนื่องจาก Toyota AE86 ทั้งโฉม Corolla Levin และ Sprinter Trueno นั้นเป็นรถที่ผลิตแค่ในช่วงปี 1983-1987 ดังนั้นจำนวนในท้องตลาดจึงมีจำกัด สวนทางกับความต้องการของผู้คนจำนวนมากที่อยากจับจองเป็นเจ้าของ ส่งผลให้รถตลาด ที่เปิดตัวขายด้วยราคาเพียงราว 200,000-300,000 บาท เมื่อ 30 ปีที่แล้ว กลับมีราคาไม่ลดลงเลยในตลาดมือสอง ยิ่งไปกว่านั้น บางคันราคากลับพุ่งสูงขึ้นกว่าราคาที่จำหน่ายในตอนแรกหลายเท่าตัว ทั้งๆ ที่เป็นรถมือสอง
davide458italia
ในตลาดรถมือสองประเทศญี่ปุ่นนั้น Toyota Corolla Levin และ Toyota Sprinter Trueno รหัสตัวถัง AE86 สภาพเก่า แบบเดิมสนิท เมื่อแปลงเป็นเงินไทยราคาจะอยู่ที่ประมาณ 200,000-300,000 บาท ส่วนคันไหนที่มีการบำรุงรักษาเป็นอย่างดี หรือถูกโมดิฟายเพิ่มเติม ราคาอาจพุ่งสูงถึง 500,000-600,000 บาทเลยทีเดียว แพงกว่าราคาตอนเป็นรถมือหนึ่งสองเท่าตัวเต็มๆ
ส่วนในประเทศไทย เป็นเรื่องน่าเสียดายอย่างยิ่งที่ในช่วงปี 1983-1987 ทาง บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ Toyota ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ไม่ได้นำ Corolla Levin และ Sprinter Trueno รหัสตัวถัง AE86 เข้ามาจำหน่ายในบ้านเรา ซึ่งรถที่ถูกกฎหมาย มีเพียงรถที่นำเข้ามาเป็นรถจดประกอบ หรือไม่ก็เป็นรถที่คนไทยในต่างประเทศนำเข้ากลับมาใช้ในประเทศไทยเท่านั้น ขณะที่หลายคัน เป็นรถซึ่งนำเข้ามาแบบผิดกฎหมายแล้วมาเล่นแร่แปรธาตุให้ถูกกฎหมายในภายหลัง ส่งผลให้ราคาในตลาดมือสองญี่ปุ่นที่ว่าแรงแล้ว ตลาดรถมือสองในประเทศไทยยิ่งแรงขึ้นไปอีก เนื่องจากจำนวนที่มีอยู่อย่างจำกัด
นั่นทำให้ Toyota AE86 ทั้งโฉม Corolla Levin และ Sprinter Trueno ในประเทศไทยนั้นมีราคาในตลาดมือสองอยู่ที่คันละ 600,000-700,000 บาทสำหรับรถสภาพเดิม ส่วนรถที่ได้รับการโมดิฟาย ราคาอาจจะพุ่งสูงถึงคันละ 1 ล้านบาทเลยทีเดียว ซึ่งราคารถมือสองของไทย น่าจะยิ่งพุ่งกว่าเดิมในอนาคต เนื่องจากได้มีการแก้ไขกฎหมาย ไม่อนุญาตให้นำเข้ารถมือสองมาทั้งคัน หรือจดประกอบอีกต่อไป
สมาคมรถแต่ง
นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งปัจจัยที่น่าจะช่วยโตโยต้า AE86 ราคาพุ่งสูงขึ้นไปอีกในเวลาอันใกล้ ก็เพราะในตอนนี้ทาง Toyota ได้ทำการเอาใจแฟนๆ สายเรโทร ด้วยการผลิตอะไหล่รถที่ตัวเองเคยผลิตเพื่อจัดจำหน่ายในอดีตมาวางจำหน่ายอีกครั้ง ในชื่อโครงการ GR Heritage Parts ทำให้การหาอะไหล่มาซ่อมแซม ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของการเล่นรถเรโทร มีแนวโน้มว่าจะไม่ลำบากขนาดนั้นอีกต่อไปในอนาคต
ถึงแม้ในปัจจุบันอะไหล่ที่วางจำหน่ายจะมีแค่ของรุ่น Supra ในรหัสตัวถัง A70 และ A80 เท่านั้น แต่ทางโตโยต้าก็ได้มีการเปิดให้แสดงความคิดเห็นว่า ต้องการอะไหล่ของรุ่นอะไรเพิ่มเติมอีกบ้าง ถ้ารุ่นไหนมีการร้องขอเข้าไปเยอะ ก็จะมีการผลิตของรุ่นนั้นออกมาในอนาคต ซึ่งแน่นอนว่า AE86 คือรถที่ได้รับเสียงร้องขอจากแฟนๆ อย่างล้นหลาม จนมีความเป็นไปได้สูงว่า ในอนาคตน่าจะมีการผลิตอะไหล่ออกมาอย่างแน่นอน
เมื่อถึงตอนนั้น คงเป็นข้อพิสูจน์ว่าต่อให้เรื่องราวของ ทาคุมิ ใน Initial D จะจบลงไปแล้วตั้งแต่เมื่อปี 2013 แต่ตำนานรถจอมซิ่งแห่งเขาอากินะก็ยังคงถูกเล่าขานสืบไปอย่างไม่เสื่อมคลาย เหมือนที่ แพดดี้ แมคกรัธ (Paddy McGrath) นักเขียนแห่งเว็บไซต์ Speedhunters กล่าวว่า
"ผมเคารพ AE86 เสมอ และทุกคนก็ควรทำเช่นนั้น ถึงแม้ว่าผมจะไม่ซื้อมันเนื่องจากราคาที่แพง แต่ผมก็หวังว่าผู้คนจะชื่นชอบและสร้างตำนานบทใหม่ให้รถรุ่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ"
อัลบั้มภาพ 9 ภาพ