Toyota Supra A80 : ตำนานรถซิ่งที่ไม่มีวันเก่าของ "พอล วอล์คเกอร์"

Toyota Supra A80 : ตำนานรถซิ่งที่ไม่มีวันเก่าของ "พอล วอล์คเกอร์"

Toyota Supra A80 : ตำนานรถซิ่งที่ไม่มีวันเก่าของ "พอล วอล์คเกอร์"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"ถ้าถูกใจก็ไม่มีคำว่าแพง" คำๆ นี้จริงเสียยิ่งกว่ายิ่งจริง เพราะของบางอย่างมูลค่าไม่ได้แปรผันและตกลงตามเวลาแต่อย่างใด กลับกันเมื่อเวลาผ่านไปพวกมันกลับขลังขึ้น และเป็นที่ต้องการมากขึ้นอย่างน่าประหลาด

นี่คือเรื่องราวของรถซิ่งสายพันธ์ญี่ปุ่นอย่าง Toyota Supra Mk IV รหัสตัวถัง A80 รถที่จัดจ้านด้วยเทคโนโลยีในยุคนั้น และยังถูกเสริมคมด้วยสตอรี่ "รถพระเอก" จนสุดท้ายทำให้รถที่ออกวางขายมาแล้ว 30 ปี กลับมีราคาแพงกว่ารถออกใหม่ใสกิ๊งในปี 2020 เสียอีก 

ติดตามเรื่องราวของ Toyota Supra หนึ่งในตำนานรถซิ่งได้ที่นี่

จุดกำเนิดจากญี่ปุ่น 

ของจะแพงหรือเป็นที่ต้องการนั้น ย่อมจำเป็นจะต้องมีส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดข้อหนึ่งนั่นคือ "สตอรี่" หรือเรื่องราวที่มาที่ไปของสิ่งเหล่านั้น ซึ่งสตอรี่นี้เองที่ถึงแม้จะเป็นนามธรรม แต่มันกลับร้อยเรียงเรื่องราวทำให้ของชิ้นหนึ่งเพิ่มมูลค่าขึ้นมาได้อย่างน่าประหลาด โดยเฉพาะของด้าน "จิตใจ" 


Photo : www.topspeed.com

ว่ากันว่า Toyota Supra A80 คือรถที่ใครได้ดูแฟรนไชส์ภาพยนตร์ Fast And Furious โดยเฉพาะภาคแรก The Fast and the Furious ต้องติดใจหรือต้องมนต์ในความเท่ของมัน ซึ่งแน่นอนว่าส่วนประกอบสำคัญคือ การที่ผู้กุมพวงมาลัยรถคันนี้คือ ไบรอัน โอคอนเนอร์ (แสดงโดย พอล วอล์คเกอร์) หนึ่งในพระเอกของเรื่องนั่นเอง แต่มันต้องมีเหตุผลและที่มาสิว่าทำไม ไบรอัน จึงเลือกขับรถญี่ปุ่นคันนี้ แทนที่จะขับรถสัญชาติอเมริกันเช่นเดียวกันอย่าง เชฟโลเร็ต หรือ ฟอร์ด กันแน่? 

Toyota Supra มีประวัติมายาวนาน ไม่ใช่แค่จุดเริ่มต้นจากเรื่อง Fast And Furious แต่ต้องย้อนกลับไปในปี 1978 ณ นาทีแรกที่เปิดตัว Toyota Supra (ในขณะนั้นเป็นรุ่นย่อยของ Toyota Celica) พยายามบอกให้ทุกคนในโลกรู้ว่า มันเกิดมาเพื่อเป็นรถซิ่ง

Toyota Supra Mk I รหัสตัวถัง A40-A50 มากับเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 กับ 2.6 ลิตร 6 สูบเรียง 12 วาล์ว 125 แรงม้า และ 111 แรงม้าตามลำดับ พร้อมระบบหัวฉีดไฟฟ้า ซึ่งถือว่าใหม่มากในยุค 70's และสิ่งที่ทำที่ทำให้นักซิ่งทั้งหลายติดอกติดใจ คือเทคโนโลยีที่จัดเต็มทั้ง กระจกไฟฟ้า, ล็อกประตูไฟฟ้า พ่วงด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ เรียกได้ว่าเฟี้ยวกว่านี้ก็ไม่มีอีกแล้วในยุคนั้น


Photo : www.carmagazine.co.uk

อย่างไรก็ตามปัญหาของ Toyota Supra คือมันไม่เป็นที่นิยมของชาวญี่ปุ่นมากเท่าไรนัก ถึงจะซื้อ ส่วนใหญ่ก็ซื้อรุ่นเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตรมากกว่า อันมีเหตุผลมาจากเรื่องของภาษีตามขนาดเครื่องยนต์และตัวถัง ซึ่งต่างกันเพียงนิดเดียวก็ต้องเสียเงินเพิ่มต่างกันมาก ทาง Toyota จึงแก้ปัญหาด้วยการผลักดันรถซิ่งคันนี้ออกนอกประเทศ ด้วยการส่งออก Toyota Supra ตัวเครื่อง 2.6 ลิตรไปขายในต่างประเทศ ก่อนจะเปลี่ยนเครื่องใหม่ ใส่เครื่อง 2.8 ลิตร 118 แรงม้า ที่สามารถทำอัตราเร่ง 0-97 กม./ชม. ได้ใน 10.24 วินาที อาจจะไม่เร็วนักเมื่อเทียบกับรถยุคนี้ แต่เป็นเหตุผลที่ทำให้สายซิ่งเริ่มจะชื่นชอบใน Toyota Supra มากขึ้นเรื่อยๆ 

จากนั้น Toyota Supra ก็ต่อยอดด้วยทายาทรุ่นใหม่มาเรื่อยๆ ได้แก่ Mk 2 รหัสตัวถัง A60 ในปี 1981, Mk 3 รหัสตัวถัง A70 ในปี 1986 ซึ่งเป็นโฉมแรกที่ใช้ชื่อ Supra เพียวๆ จนถึง Mk 4 รหัสตัวถัง A80 ที่เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้รถญี่ปุ่นรุ่นนี้ "ดังระเบิด" ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว 

 

รถแรง ปะทะ หนังดัง 

รถที่ได้รับความนิยมอยู่แล้ว จำเป็นจะต้องสร้างความแตกต่างและพัฒนาการออกมาให้เห็นในซีรี่ส์ใหม่ เช่นเดียวกันกับ Toyota Supra Mk IV A80 นั้น ถือว่าเปลี่ยนกันตั้งแต่ภาพลักษณ์ เพราะเริ่มมีการใช้ไฟหน้าแบบปกติ หลักจากรุ่น A60 กับ A70 เป็นไฟหน้าแบบป๊อปอัพ ยกขึ้น-ลง (สาเหตุหนึ่งมาจากมาตรฐานความปลอดภัย) พร้อมทรวดทรงที่แม้จะมนขึ้น แต่ก็ดูมีมัดกล้าม เห็นแล้วน่ายำเกรง


Photo : www.thedrive.com

จุดเด่นสุดจี๊ดจริงๆ คือการยกเครื่องใหม่ ใส่เครื่องยนต์ระดับตำนานอย่าง 2JZ 6 สูบเรียง ความจุ 3.0 ลิตร (ด้วยเหตุนี้ ทำให้ปกติเราจะเรียก Supra โฉมนี้ในรหัสตัวถัง JZA80) และอัดแรงม้าขึ้นอีกด้วยเทอร์โบคู่ ทำอัตราเร่ง 0-97 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.6 วินาที กับความเร็วสูงสุด 257 กม./ชม. ซึ่งมากกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ (180 กม./ชม. ในญี่ปุ่น, 250 กม./ชม. ในทวีปยุโรปและอีกหลายประเทศ) เสียอีก 

ทั้งรูปลักษณ์และความเร็วที่ชักจะเข้าที่เข้าทาง อีกทั้งยังมีแฟนคลับยกมือเชียร์ ทำให้ Toyota Supra A80 ถูกจับเข้าไปอยู่ในเรื่อง Fast And Furious ภาคแรก ไม่เพียงเท่านั้น มันยังรับบทสำคัญด้วยการเป็นยานพาหนะคู่ใจของ ไบรอัน โอคอนเนอร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องแฝงตัวเข้าไปอยู่ในแก๊งรถซิ่ง ซึ่งอย่างที่ทุกคนรู้กันถ้าแฟรนไชส์ Fast หยุดแค่ภาคแรก Toyota Supra อาจจะไม่ดังขนาดนี้ ทว่าเมื่อ Fast & Furious กลายเป็นหนังฟอร์มยักษ์ที่ทำเงินถล่มทลายทุกภาค จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ Toyota Supra กลายเป็นพระเอกที่กลุ่มคนรักรถอยากได้ลองควบดูสักครั้ง 

ใน The Fast and the Furious ไบรอัน ซึ่งเป็นนักซิ่งสายนิยมรถจากประเทศญี่ปุ่นมาแต่ไหนแต่ไร ได้ซากรถ Toyota Supra โฉม Targa (ถอดหลังคาได้) มาประกอบใหม่ เพื่อใช้หนี้  "รถซิ่ง" กับ ดอมินิก ทอเร็ตโต้ (แสดงโดย วิน ดีเซล) ก่อนที่ ไบรอัน, ดอม และพรรคพวกจะจัดการทำให้มันเร็วยิ่งกว่าเดิม ด้วยการเปลี่ยนเครื่องยนต์จาก 2JZ-GE ไม่มีเทอร์โบ ที่ติดมากับซาก เป็น 2JZ-GTE เทอร์โบคู่ พร้อมโมดิฟายชุดใหญ่ เปลี่ยนใส่เทอร์โบเดี่ยวลูกเขื่อง เสริมด้วยไนตรัส จนแรงถึงขั้นฉีก เฟอร์รารี่ ซูเปอร์คาร์ตราม้าลำพองจากอิตาลีแบบขาดกระจุย

ซึ่งความแรงนี้ไม่ใช่เรื่องล้อกันเล่น เพราะ พอล วอล์คเกอร์ ผู้รับบท ไบรอัน โอคอนเนอร์ ที่หลายคนมักจะจำภาพติดตาเวลาขับ Nissan GT-R ทั้งรหัสตัวถัง R34 (ยังอยู่ในตระกูล Skyline) และ R35 (แยกชื่อมาทำตลาดเดี่ยวๆ) มากกว่า ยังยอมรับว่า Toyota Supra ในภาคแรกนั้นขับมันที่สุด และเป็นรถอันดับ 1 ในแฟรนไชส์ Fast ของเขาเลยทีเดียว 


Photo : www.insidehook.com

"ผมต้องบอกเลยว่าผมชอบเครื่อง 2JZ ที่อยู่ใน Toyota Supra จริงๆ มันเป็นเครื่องยนต์ที่สนุกสะใจจนไม่รู้จะอธิบายยังไง ส่วนตัวผมมีรถรุ่นนี้ที่ผลิตในปี 1995 คันนึง และรถมันวิ่งไปแค่ 30,000 ไมล์เท่านั้นเอง ผมเลยสนุกกับการปรับแต่งและทำส่วนอื่นๆ เพิ่มขึ้นอีก เปลี่ยนโฉมมันจนเป็นรถที่เจ๋งโคตรๆไปเลย" นี่คือสิ่งที่ พอล วอล์คเกอร์ ให้สัมภาษณ์กับ PASMAG

สาเหตุที่ทำให้ Toyota Supra กลายเป็นรถสายซิ่งยอดนิยม ส่วนหนึ่งก็ต้องยอมรับว่า แฟรนไชส์ Fast มีส่วนสำคัญอย่างมาก เพราะเมื่อหนังสร้างภาค 2-3-4 และต่อมาเรื่อยๆ จนถึงภาค 9 ผู้สร้างพยายามเน้นถึงความเป็นครอบครัว ไม่ใช่แค่การแข่งขันรถแข่งเหมือนแต่ก่อน แต่มันหมายถึงมิตรภาพ การช่วยเหลือเกื้อกูลกันในแก๊ง ซึ่งเหตุผลทั้งหมดเปลี่ยนให้ภาพลักษณ์ของรถหลายคันในเรื่องนี้เป็นตัวแทนของความเท่ และเพิ่มความเป็นรถของลูกผู้ชายขึ้นมาโดยปริยาย 

 

การจากไปของตำนาน 

Toyota Supra หยุดการผลิตที่ Mk 4 รหัสตัวถัง A80 อยู่หลายปี จนมีการปัดฝุ่นตำนานกลับมาลุยต่อใน Mk 5 เมื่อปี 2019 กับรหัสตัวถัง J29 (ทว่าทาง Toyota ใช้ชื่อ A90 ในการโปรโมทเพื่อสืบสานตำนาน) ที่คราวนี้หลายคนถึงกับบ่นว่า มันได้สูญเสียจิตวิญญาณดั้งเดิมไป 


Photo : www.autoexpress.co.uk

สาเหตุก็เพราะ Supra J29 นี้ Toyota ไม่ได้เป็นผู้พัฒนาเอง แต่จับมือร่วมกับ BMW ในการสร้างรถฝาแฝดคู่กับ BMW Z4 รหัสตัวถัง G29 (แต่แยกกันทำตลาดชัดเจน - Z4 เน้นตลาดรถเปิดประทุน Supra ลุยตลาดรถหลังคาแข็ง) และที่สำคัญที่สุดคือ หัวใจ Supra ตัวใหม่นี้ ไม่ใช่ 2JZ อีกต่อไป แต่ยกเครื่องจาก BMW ทั้ง 2.0 ลิตร 4 สูบเรียง เทอร์โบ กับ 3.0 ลิตร 6 สูบเรียง เทอร์โบ มาใส่ทั้งดุ้น

นี่คงเป็นอีกเหตุผลหนึ่ง ที่ทำให้ความนิยมของ Supra A80 หรือรุ่นพระเอกหนัง แทบจะไม่เคยลดลงไปเลยแม้แต่น้อย หนำซ้ำรถมือ 2 ยังคงเป็นที่ตามหา และทำให้กลุ่มนักซิ่งและนักสะสมยังสู้ทุกราคา ไม่ต่างจากสมัยที่มันเปิดตัวใหม่ๆ เลย (ราคาเปิดตัว 34,225 ดอลลาร์สหรัฐฯ) 

พอล วอล์คเกอร์ ยืนยันว่าความเป็นตำนานของแฟรนไชส์ Fast นั้นเหมือนกับรถยนต์คู่ใจของเขา เพราะมันเป็นสิ่งที่ "ไร้กาลเวลา" อันหมายถึงว่าเป็นสิ่งที่มีความร่วมสมัยอยู่ตลอด โดยเฉพาะในสายตาคนบ้ารถและนักสะสมรถซิ่งอย่างเขา Toyota Supra ยังคงเป็นคันโปรด และบังเอิญว่า พอล ก็เป็นคนที่มีอิทธิพลอย่างมากในกลุ่มคนรักรถ เพราะเขาเล่นรถซิ่งจริงๆ ถึงขนาดจับมือกับ โรเจอร์ โรดาส เพื่อนสนิท เปิดสำนักแต่งรถชื่อ AE Performance ดังนั้นเมื่อเขาชอบอะไร เทรนด์ก็มักจะไปตามเส้นทางนั้นเสมอ

 
Photo : historygarage.com

เรียกได้ว่าสตอรี่ของ Toyota Supra นั้น เป็นการผนวกกันทั้งในแง่ของนวัตกรรมของตัวรถเองที่ล้ำหน้าเกินใครในยุค จนอยู่ในความทรงจำของใครหลายคน รวมถึงบทบาทที่ไม่ต่างจากพระเอกในภาค 1 จึงเปรียบได้กับการเป็นรถที่เป็นปฐมบทของภาพยนตร์เกี่ยวกับรถยนต์ที่โด่งดังที่สุดในโลกอีกด้วย ด้วย 2 แรงบวกนี้ จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมทั้งราคาและความนิยมของ Supra ไม่เคยเสื่อมถอยเหมือนกับรถรุ่นอื่นๆ ที่วางขายในปีไล่เลี่ยกันเลย  

ปัจจุบันราคา Toyota Supra A80 มือ 2 ในประเทศไทยของเรายังมีราคาราว 1.1-1.5 ล้านบาทตามสภาพ ซึ่งหากนับจากวันที่วางขาย นี่ก็ผ่านมาแล้วกว่า 30 ปีเลยทีเดียว 

อย่างไรก็ตามมูลค่าของ "รถพระเอก" ยังถูกตอกย้ำบนเรื่องเศร้าครั้งใหญ่ของวงการบันเทิงและวงการรถซิ่ง เมื่อ Porsche Carrera GT ที่มี โรเจอร์ โรดาส เป็นผู้ขับ และ พอล วอล์คเกอร์ เป็นผู้โดยสาร ชนเสาไฟจนเพลิงลุกท่วม เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุเมื่อปี 2013

เรื่องดังกล่าวนั้นทำให้เกิดการไว้อาลัย และการรำลึกถึง พอล วอล์คเกอร์ ทั้งในบทบาทนักแสดง หรือบทบาทพระเอกของแฟรนไชส์ Fast จนทำให้มีการย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นของหนังเรื่องนี้ และแน่นอนว่า Toyota Supra ก็ถูกยกขึ้นหิ้งในฐานะรถพระเอกผู้เป็นตำนานหนังรถซิ่งไปโดยปริยาย 

เมื่อ พอล วอล์คเกอร์ จากไป รถคู่ใจของเขาก็ถูกนำเอาออกมาประมูล แน่นอนว่ารวมถึง Toyota Supra A80 สีส้ม ปี 1993 ซึ่งสำนักแต่ง The Shark Shop ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ทำไว้เข้าฉากใน The Fast and the Furious ด้วย


Photo : www.motorauthority.com

แม้ไม่อาจพูดได้เต็มปากว่า นี่คือรถตำนานคันจริง เพราะรถคันนี้มาพร้อมกับเครื่อง 2JZ-GE ไม่ใช่ 2JZ-GTE แบบในหนัง แต่รูปลักษณ์ภายนอก ทั้งชุดแอโร่พาร์ทรอบคันจาก Bomex, สปอยเลอร์หลัง APR, ล้อแม็ก Racing Hart และลวดลายกราฟฟิก มองยังไงก็ใช่

เห็นได้ชัดเจนว่าสตอรี่ที่สุดยอดยังคงอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง รถอายุ 30 ปี คันนี้ถูกประมูลไปเมื่อปี 2015 ด้วยราคา 185,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ตีเป็นเงินไทยคือ 5,800,000 บาท เรียกได้ว่าแพงกว่า Toyota Supra โฉมใหม่ล่าสุด (และจะปรากฎโฉมใน Fast & Furious 9 ด้วย) ที่มีราคาศูนย์ไทยราว 5,000,000 บาท ด้วยซ้ำไป 

หาก พอล วอล์คเกอร์ คือตำนานนักซิ่งในโลกภาพยนตร์ Toyota Supra A80 ก็คงเป็นหนึ่งในตำนานแห่งยานยนต์ไม่ต่างกัน สิ่งที่ พอล เคยบอกไว้ยังคงอ้างอิงได้เสมอด้วยสตอรี่ที่สั่งสมมานานทำให้ Toyota Supra คือรถที่ไร้กาลเวลา มันยังคงสดใหม่ในความทรงจำเสมอ ... ภาพของ ไบรอัน โอคอนเนอร์ ที่ควบมันใน The Fast and the Furious ยังไม่เคยจางหาย และนี่คือเหตุผลว่าทำไมราคาของรถเก่าคันนี้จึงแข็งโป๊กชนิดที่ว่ารถรุ่นใหม่ๆ ต้องอายม้วนกันเลยทีเดียว 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook