MG ปฏิวัติวงการสเตชั่นแวกอนครบครันด้วยมาตรฐานขั้นต้นของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า รุ่นแรกของเมืองไทย!

14 ธ.ค. 63 (14:28 น.) พิมพ์

แชร์เรื่องนี้

แชร์เรื่องนี้Line Twitter Facebook

สาวกสเตชั่นแวกอนมีเฮ เพราะ MG ได้เปิดตัว “NEW MG EP” รถยนต์ในรูปแบบสเตชั่นแวกอนขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ชูแนวคิด “EVeryone ตอบโจทย์ทุกฟังก์ชัน รถยนต์พลังงานไฟฟ้าของทุกคน” พร้อมสร้างมาตรฐานขั้นต้นด้วย 4 องค์ประกอบที่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าควรจะมี และต้องบอกเลยว่า MG นั้นเตรียมพร้อมมาก ๆ เพราะยังมี MG Super Charge โดยติดตั้งที่ดีลเลอร์ MG ครบ 100 แห่งแล้ว

พบกับ 4 องค์ประกอบในการเป็นมาตรฐานขั้นต้นของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (Entry EV) ที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน

NEW MG EP ไม่เพียงโดดเด่นในเรื่องของพลังงานไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังออกแบบมาครบครันทุกฟังก์ชันสมกับแนวคิดที่ว่า“EVeryone ตอบโจทย์ทุกฟังก์ชัน รถยนต์พลังงานไฟฟ้าของทุกคน” อย่างแท้จริง ซึ่งองค์ประกอบที่ว่าจะเป็นอะไรบ้างนั้น ตามมาดูกันให้ชัด ๆ ไปเลย!

1.สุดล้ำไปกับสมรรถนะจาก EV เทคโนโลยี (EV Technology)

โดดเด่นไปกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีกำลังสูงสุด 163 แรงม้า มาพร้อมกับอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร ภายในเวลาเพียง 8.8 วินาที พร้อมโหมดการขับขี่ให้เลือก 3 รูปแบบ คือ Eco, Normal และ Sport อีกทั้งยังมีระบบชาร์จไฟกลับเมื่อชะลอความเร็ว หรือ KERS Mode รวม 3 ระดับ ต้องบอกว่า สำหรับแบตเตอรี่ของ NEW MG EP เป็นลิเธียมไอออนแบบโมดูล ที่สามารถแยกซ่อมแต่ละโมดูลได้อย่างอิสระ โดยมีขนาดความจุถึง 50.3 กิโลวัตต์ชั่วโมง ให้ระยะทางในการขับขี่ได้ไกลถึง 380 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง* ซึ่งสามารถชาร์จไฟได้ 2 รูปแบบ คือ การชาร์จในรูปแบบ Normal Charge จาก 0-100% ผ่าน MG Home Charger ที่ใช้เวลา 7.15 ชั่วโมง และรูปแบบ Quick Charge จาก 0-80% ผ่านสถานีอัดประจุไฟฟ้าแบบเร็ว ซึ่งใช้ระยะเวลาเพียง 40 นาที เท่านั้น!

*หมายเหตุ ทดสอบตามมาตรฐานการประหยัดพลังงาน New European Driving Cycle – NEDC

2.ครบครันเรื่องระบบความปลอดภัยและสิ่งอำนวยความสะดวก (Safety & Convenience)

ไม่ว่าจะเป็นถุงลมนิรภัยคู่หน้า ระบบเบรก ABS พร้อมระบบช่วยกระจายและเสริมแรงเบรกด้วยไฟฟ้า ระบบควบคุมเสถียรภาพในการขับขี่ กล้องมองหลัง ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง ปุ่มเบรกมือไฟฟ้าและปุ่ม Auto Hold ที่สำคัญยังมีการติดตั้งหน้าจอ Touchscreen ขนาด 8 นิ้ว ที่รองรับการเชื่อมต่อกับ Apple CarPlay อีกด้วย

3.สะดวกสบายกับขนาดของห้องโดยสารและพื้นที่ใช้สอย (Space & Roominess)

สำหรับรถสเตชั่นแวกอนจะมีจุดเด่นคือมีตัวถังขนาดใหญ่ โดยมีความยาวตลอดตัวถัง 4,544 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อที่กว้างถึง 2,665 มิลลิเมตร ทำให้ NEW MG EP มีพื้นที่ห้องโดยสารกว้างขวาง นั่งสบาย และยังมีพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ โดยเมื่อพับเบาะหลังสามารถเพิ่มพื้นที่ความจุได้มากสูงสุดถึง 1,456 ลิตร รองรับการบรรทุกทั้งคนและสิ่งของได้เป็นอย่างดี สะดวกสบายขนาดนี้จะไปเที่ยวไหนก็สบายใจหายห่วง

4.ตอบโจทย์ในเรื่องของความคุ้มค่า (Value for Money)

ที่ต้องบอกแบบนี้ก็เพราะว่า ค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและค่าบำรุงรักษาที่ต่ำ จะช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายได้ในระยะยาวได้เป็นอย่างดี โดยมีค่าใช้จ่ายต่อการชาร์จเต็มแต่ละครั้งเพียง 200* บาทเท่านั้น และค่าบำรุงรักษาตลอดระยะเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร อยู่ที่ 7,828 บาท ที่สำคัญยังได้รับการประกันคุณภาพ และการดูแลบริการหลังการขายภายใต้ MG Passion Service นาน 4 ปีหรือ 120,000 กิโลเมตร และการรับประกันแบตเตอรี่นานถึง 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร งานนี้บอกเลยว่า คุ้มกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว!

*หมายเหตุ อัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยทั่วประเทศที่ 3.96 บาทต่อหน่วย ไม่รวมค่า FT และภาษีมูลค่าเพิ่ม อ้างอิงจากข้อมูลของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ณ เดือนมิถุนายน 2563

ต้องบอกเลยว่าทั้ง 4 องค์ประกอบนี้ เป็นจุดเด่นของการเป็น EV For Everyone ที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ทุกรูปแบบ จึงทำให้ NEW MG EP เป็นมาตรฐานขั้นต้นของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% หรือ Entry EV ของตลาดรถยนต์เมืองไทยนับจากนี้เป็นต้นไป

เมื่อรถพร้อม สถานีชาร์จก็พร้อมเช่นกัน!

ในเมื่อ MG มีรถยนต์พลังงานไฟฟ้าพร้อมแล้ว แน่นอนว่าสถานีชาร์จก็ต้องทำไว้รองรับแล้วเช่นกัน โดยปัจจุบันเอ็มจีได้ติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าในรูปแบบ DC Charger ซึ่งเป็นการลงทุนของเอ็มจีเอง ภายใต้ชื่อ MG Super Charge ซึ่งดำเนินการติดตั้งครบ 100 แห่งในโชว์รูมเอ็มจีทั่วประเทศแล้ว และอยู่ในระหว่างการทดสอบระบบเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบในเดือนมกราคม และจะขยายเพิ่มอีกกว่า 500 แห่งภายในปีหน้านี้นั่นเอง