รีวิว Ford Ranger 2.2 XLT Hi-Rider 2021 ใหม่ หล่อครบคุ้มค่าในราคา 899,000 บาท

รีวิว Ford Ranger 2.2 XLT Hi-Rider 2021 ใหม่ หล่อครบคุ้มค่าในราคา 899,000 บาท

รีวิว Ford Ranger 2.2 XLT Hi-Rider 2021 ใหม่ หล่อครบคุ้มค่าในราคา 899,000 บาท
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     Ford Ranger 2021 ใหม่ เพิ่งมีการปรับโฉมย่อยล่าสุดไปเมื่อปลายปี 2563 ที่ผ่านมา แม้ว่าการปรับโฉมครั้งนี้จะไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากนัก แต่ก็ต้องยอมรับว่า Ford Ranger ยังคงเป็นรถกระบะที่มีสมรรถนะอยู่ในระดับหัวแถวเช่นเดิม จะมีรายละเอียดเป็นอย่างไรบ้างไปติดตามกันเลย

     สำหรับ Ford Ranger 2021 ใหม่ ที่ Sanook Auto ได้มีโอกาสทดสอบในครั้งนี้เป็นรุ่น Double Cab 2.2L XLT Hi-Rider 6AT ซึ่งเป็นรุ่นบนสุดก่อนขยับไปตระกูล Wildtrak และ Raptor (รวมถึงรุ่น Limited) ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร Turbo และ Bi-Turbo บล็อกใหม่ ดังนั้นรุ่น XLT เครื่องยนต์ 2.2 ลิตร จึงถูกเน้นความคุ้มค่าเป็นหลักด้วยราคาไม่ถึง 9 แสนบาทเท่านั้น แถมยังมีรูปลักษณ์ดีไซน์สปอร์ตไม่แพ้ Wildtrak เสียด้วยสิ

0203

ภายนอก

     ดีไซน์ภายนอกของ Ford Ranger 2.2L XLT Hi-Rider 6AT ใหม่ มาพร้อมกระจังหน้าสีดำดีไซน์ใหม่ตัดด้วยโครเมียม, ฝาครอบกระจกมองข้างสีดำ, ที่เปิดประตูภายนอกสีดำ, บันไดข้างสีดำ, กันชนหลังสีดำเงา และล้ออัลลอยสีดำขนาด 17 นิ้ว พร้อมยางขนาด 265/65 R17 มาให้ เรียกได้ว่าหล่อในระดับน้องๆ Wildtrak กันเลยทีเดียว

     ขณะที่อุปกรณ์มาตรฐานภายนอกในรุ่น XLT ก็มีมาให้แบบครบๆ ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าโปรเจคเตอร์ฮาโลเจน พร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติตามสภาพแสง, ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ,​ ไฟตัดหมอกคู่หน้า, ไฟเบรกดวงที่ 3 พร้อมไฟส่องสว่างกระบะท้าย แต่น่าเสียดายที่ฝากระบะท้ายของรุ่น XLT ไม่มีระบบ Easy Lift ช่วยผ่อนแรงขณะเปิด-ปิดมาให้

0225

ภายใน

     ก้าวเข้ามาภายในห้องโดยสารก็ยังคงสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่คุ้นเคย โดยรุ่น XLT ติดตั้งเบาะนั่งหุ้มวัสดุหนังสลับหนังสังเคราะห์สีดำ ฝั่งผู้ขับขี่ปรับระดับด้วยมือ 6 ทิศทาง ส่วนฝั่งผู้โดยสารปรับได้ 4 ทิศทาง ติดตั้งพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังแบบ 4 ก้าน พร้อมปุ่มควบคุมระบบ Cruise Control มาให้ด้วย ขณะที่เรือนไมล์ยังคงยกชุดมาจากรุ่นเดิม พร้อมหน้าจอ MID แสดงผลด้วยสีขนาด 4.2 นิ้ว

0210

     ระบบอินโฟเทนเมนท์ SYNC รองรับการสั่งงานด้วยเสียง ทำงานผ่านหน้าจอสัมผัสแบบ Multi-Touch ขนาด 8 นิ้ว รองรับ Bluetooth และฟังก์ชั่น Apple CarPlay หรือ Android Auto (แต่ปัจจุบัน Google ก็ยังคงไม่เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในประเทศไทย หากต้องการใช้ Android Auto จำเป็นต้องหาโหลดเวอร์ชั่นล่าสุดลงไว้ในมือถือเสียก่อนจึงจะสามารถเชื่อมต่อเข้ากับตัวรถเพื่อใช้งานได้ตามปกติ) โดยมีพอร์ต USB มาให้ 2 ตำแหน่ง พร้อมช่องใส่ CD/MP3 อีก 1 แผ่น

     ขณะที่อุปกรณ์มาตรฐานภายในอื่นๆ ของรุ่น XLT ประกอบด้วย กระจกมองหลังตัดแสงสะท้อนอัตโนมัติ, ระบบปรับอากาศแบบ 1-zone, ปุ่มควบคุมเซ็นทรัลล็อกทั้งฝั่งผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า, กระจกหน้าต่างไฟฟ้าพร้อมระบบขึ้น-ลงอัตโนมัติเฉพาะฝั่งผู้ขับ,​ สัญญาณเตือนกะระยะด้านท้าย และกุญแจรีโมทแบบพับเก็บได้ เป็นต้น

0209

     แม้ว่าอุปกรณ์มาตรฐานจะไม่ถึงกับหวือหวานักเมื่อเทียบกับรุ่น Wildtrak แต่หากมองถึงการใช้งานจริงก็ถือว่าครบครันไม่แพ้คู่แข่ง ยิ่งถ้ามองว่าได้กระบะ 4 ประตูยกสูงในราคาไม่ถึง 9 แสนบาท ทำให้กลายเป็นรถที่คุ้มค่าน่าใช้ขึ้นมาทีเดียว

     ด้านระบบความปลอดภัยของรุ่น XLT มีถุงลมนิรภัยคู่หน้ามาให้ 2 ตำแหน่ง, ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Traction Control, ระบบเบรก ABS/EBD, ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน, ระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ, เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุดทั้ง 5 ที่นั่ง พร้อมระบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติคู่หน้า, ระบบช่วยโทรออกฉุกเฉินเมื่อถุงลมนิรภัยทำงาน รวมถึงจุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX บนเบาะนั่งแถวหลัง เป็นต้น

 

เครื่องยนต์

     ด้านขุมพลังของ Ranger 2.2 XLT Hi-Rider ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ความจุ 2.2 ลิตร เทอร์โบชาร์จเจอร์และอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุดอยู่ที่ 160 แรงม้า ที่ 3,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 385 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,600 รอบต่อนาที ส่งกำลังไปยังล้อคู่หลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ รองรับน้ำมัน B20 และผ่านค่ามาตรฐานไอเสียระดับ Euro 4

0207

การขับขี่

     แม้ว่าปัจจุบันจะมีรถกระบะทยอยเปิดตัวใหม่กันอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังคงยืนยันได้อย่างเต็มปากว่า Ford Ranger เป็นรถกระบะที่มีสมรรถนะช่วงล่างดีที่สุดในกลุ่มเมื่อเทียบกับคู่แข่ง ด้วยความหนึบหนับของสปริงและโช๊คอัพที่ถูกเซ็ตมาอย่างพอเหมาะพอเจาะ ให้ความนุ่มนวลดีเมื่อต้องขับผ่านพื้นผิวขรุขระ แต่เมื่อใดที่ต้องลัดเลาะไปตามโค้งเขาก็สามารถทำได้อย่างสนุกสนานใกล้เคียงกับรถประเภทเอสยูวีเอามากๆ

     เมื่อบวกกับอัตราทดพวงมาลัยไฟฟ้าของ Ford Ranger ที่ให้ความกระชับกำลังดี ให้ความรู้สึกแม่นยำ มีชีวิตชีวา ไม่ทื่อเหมือนกับพวงมาลัยไฟฟ้าที่พบในรถหลายรุ่น จึงสามารถเข้าโค้งได้อย่างสนุกสนานและเป็นไปตามใจสั่ง แม้กระทั่งการซอกแซกไปตามสภาพจราจรที่หนาแน่นก็ทำได้ง่ายและมั่นใจ

0235

     นอกจากนี้ ช่วงล่างที่หนึบแน่นของ Ford Ranger ยังส่งผลให้สามารถควบคุมระยะเบรกได้ง่ายและมั่นใจกว่าคู่แข่งอีกหลายรุ่น เนื่องจากการโน้มตัวไปข้างหน้าขณะเบรกค่อนข้างน้อย จึงไม่หลอกความรู้สึกเหมือนกับรถประเภท Body-on-frame ช่วงล่างนิ่มๆ ทั่วไปที่ให้ความรู้สึกว่ารถกำลังเบรกอยู่ แต่ความเร็วกลับไม่ลดลงอย่างที่ใจคิด

     ด้านสมรรถนะเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร กำลังสูงสุด 160 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 385 นิวตัน-เมตร แม้ว่าจะไม่ได้จี๊ดจ๊าดเหมือนกับเครื่องยนต์ 5 สูบ 3.2 ลิตรเดิม หรือ 2.0 ลิตร Bi-Turbo บล็อกใหม่ แต่ก็เหลือเฟือเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป ยิ่งถ้าคุณไม่ใช่ประเภทเท้าหนักใจร้อน หรือมองหากระบะบ้าพลังอยู่ล่ะก็ แค่นี้ก็สามารถตอบสนองการใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แล้ว จะติดอยู่บ้างก็เพียงจังหวะเร่งแซงบนถนนเลนสวนที่ต้องเผื่อระยะเอาไว้หน่อยเพื่อความปลอดภัย

0239

สรุป

     แม้ว่า Ford Ranger 2021 ใหม่ จะไม่ได้มีการปรับโฉมอะไรหวือหวาเหมือนฝั่งคู่แข่งหลายๆ เจ้า แต่ก็ยังคงความเป็นกระบะที่มีสมรรถนะการขับขี่อยู่ในระดับหัวแถวของตลาดขณะนี้ ส่วนรุ่นย่อย 2.2 XLT Hi-Rider 6AT ที่เราได้ทดสอบนั้น ก็ถูกอัดแน่นฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นระบบ SYNC หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay/Android Auto, ไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ, ที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ, กระจกมองหลังตัดแสงสะท้อนอัตโนมัติ, Cruise Control รวมถึงระบบความปลอดภัยในระดับมาตรฐานอย่างที่รถปี 2021 ควรจะมี แลกกับราคาจำหน่ายอยู่ที่ 899,000 บาท

     ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับใครที่กำลังสนใจกระบะสักคันอยู่ในตอนนี้

 

 

อัลบั้มภาพ 43 ภาพ

อัลบั้มภาพ 43 ภาพ ของ รีวิว Ford Ranger 2.2 XLT Hi-Rider 2021 ใหม่ หล่อครบคุ้มค่าในราคา 899,000 บาท

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook