Ford Ranger เจเนอเรชั่นใหม่จะมาพร้อมเครื่องยนต์ Plug-in Hybrid ประหยัด 33 กม./ลิตร

Ford Ranger เจเนอเรชั่นใหม่จะมาพร้อมเครื่องยนต์ Plug-in Hybrid ประหยัด 33 กม./ลิตร

Ford Ranger เจเนอเรชั่นใหม่จะมาพร้อมเครื่องยนต์ Plug-in Hybrid ประหยัด 33 กม./ลิตร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     Ford Ranger และ Everest เจเนอเรชั่นใหม่ จะเพิ่มทางเลือกด้วยเครื่องยนต์เบนซิน Plug-in Hybrid ที่มีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยต่ำเพียง 33.3 กม./ลิตรเท่านั้น

     เว็บไซต์ Car Expert ในออสเตรเลียเปิดเผยว่า Ford มีแผนวางจำหน่ายรถกระบะ Ranger ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริดในเจเนอเรชั่นถัดไป เพื่อให้เป็นไปตามแผนการเปลี่ยนถ่ายไปสู่ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบเต็มสูบในปี 2030 ที่จะถึงนี้ โดยระหว่างช่วงเวลาเปลี่ยนถ่ายดังกล่าว ฟอร์ดยุโรปจะเริ่มติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าเข้ากับรถทุกรุ่นตั้งแต่ช่วงกลางปี 2026 เป็นต้นไป นั่นแปลว่ารถทุกรุ่นของฟอร์ดจะใช้เครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริดเป็นอย่างน้อย

116

     ทั้งนี้ Ford Ranger และ Everest ขุมพลัง Plug-in Hybrid ดังกล่าว คาดว่าจะใช้เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 4 สูบ ความจุ 2.3 ลิตร ทำงานคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุดราว 362 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 680 นิวตัน-เมตร โดยมีอัตราสิ้นเปลืองป้วนเปี้ยนอยู่ราว 33.3 กม./ลิตรเท่านั้น

     นอกเหนือจากการติดตั้งเครื่องยนต์ PHEV ลงใน Ford Ranger แล้ว ในตลาดยุโรปและออสเตรเลียอาจมีการเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ทั้งหมด โดยใช้เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร Bi-Turbo ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น และวางเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ V6 3.0 ลิตรไว้เป็นรุ่นท็อปสุด ขณะที่ Ranger Raptor อาจหันไปใช้เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ EcoBoost ขนาด 2.7 ลิตรแทน

103

   อย่างไรก็ดี ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลว่า Ford Ranger นอกตลาดยุโรป (รวมถึงประเทศไทย) จะได้ใช้เครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริดด้วยหรือไม่

 

อัลบั้มภาพ 17 ภาพ

อัลบั้มภาพ 17 ภาพ ของ Ford Ranger เจเนอเรชั่นใหม่จะมาพร้อมเครื่องยนต์ Plug-in Hybrid ประหยัด 33 กม./ลิตร

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook