รีวิว 'Honda Accord Hybrid TECH' ล้ำเหนือขั้น ประหยัดเหนือชั้น

รีวิว 'Honda Accord Hybrid TECH' ล้ำเหนือขั้น ประหยัดเหนือชั้น

รีวิว 'Honda Accord Hybrid TECH' ล้ำเหนือขั้น ประหยัดเหนือชั้น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     ‘Honda Accord Hybrid’ รถยนต์พลังงานไฮบริดรุ่นล่าสุดจากฮอนด้า จะเพอร์เฟคสมกับสโลแกน ‘Hybrid Perfection’ ขนาดไหน ลองไปติดตามกันครับ



     Sanook!Auto ได้มีโอกาสร่วมทดสอบรถยนต์ ‘Accord Hybrid TECH’  ซึ่งถือเป็นตัวท็อปสุดของไลน์แอคคอร์ดในบ้านเรา กับทริปสบายๆ บนเส้นทางกรุงเทพฯ-ปราณบุรี ซึ่งพูดเลยว่าการเดินทางครั้งนี้ ช่างแสนรื่นรมย์ยิ่งนัก!

 

 

     รูปลักษณ์ภายนอกของ Accord Hybrid TECH นั้น ยกดีไซน์มาจากรุ่นปกตินั่นเอง ซึ่งเราต่างคุ้นเคยดี แต่ก็มีการแต่งเติมเล็กน้อยเพื่อให้ดูต่างออกไปจากรุ่นปกติ เริ่มจาก การใช้ขอบสีฟ้าอ่อน ตกแต่งบริเวณกระจังหน้า, ไฟหน้า และไฟท้าย พร้อมสัญลักษณ์ไฮบริดด้านหลัง ไฟหน้าเป็นแบบ LED พร้อม Cornering Light รวมถึงล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว สีดำตัดกับผิวของซี่ล้อสีเงิน ช่วยให้ดูดุดัน

 

 

     อุปกรณ์ภายในถูกยกมาจากรุ่น ‘TECH’ เวอร์ชั่นปกติเช่นกัน  ซึ่งพรั่งพร้อมไปด้วยฟังก์ชั่นมากมาย ซึ่งอ็อพชั่นเด่นๆยกตัวอย่างเช่น ระบบนำทางผ่านหน้าจอขนาด 8 นิ้ว, เครื่องเสียงแบบพรีเมี่ยมพร้อม HDD Audio ติดตั้งลำโพง 7 จุดพร้อมซับวูฟเฟอร์, รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน, Adaptive Cruise Control, กุญแจอัจฉริยะพร้อมปุ่มสตาร์ท, ระบบปรับอากาศแบบ Dual-zone, เบาะนั่งหุ้มหนังแท้ด้านหน้า ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางฝั่งผู้ขับ และ 4 ทิศทางฝั่งผู้โดยสาร และอื่นๆอีกมาก

 

 

     ระบบความปลอดภัยในรุ่น TECH ถือว่าเป็นจุดเด่นเหนือคู่แข่งเช่นกัน เพราะมีทั้งระบบเตือนกันชนด้านหน้าพร้อมระบบช่วยเบรค (CMBS), ระบบเตือนอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (LaneWatch, กล้องมองหลังปรับองศาได้ 3 ระดับ, ถุงลมนิรภัยด้านข้างและม่านถุงลมนิรภัย และถุงลมนิรภัยด้านหน้ารวม 6 ใบ, ระบบควบคุมเสถียรภาพ VSA, เสียงเตือนคนภายนอกขณะขับขี่ด้วยโหมดไฟฟ้า (AVAS), ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัด (HSA) และอื่นๆอีกหลายอย่าง

     เครื่องยนต์ไฮบริดของ Honda Accord ทำงานผสานกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน Atkinson Cycle DOHC i-VTEC ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 143 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 165 นิวตัน-เมตร และมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ที่ให้แรงบิดสูงสุดถึง 307 นิวตัน-เมตร ให้กำลังสูงสุดรวม 199 แรงม้าเมื่อทำงานพร้อมกันทั้งสองระบบ กำลังทั้งหมดถูกส่งไปยังล้อหน้าด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ E-CVT โดดเด่นด้านความนุ่มนวล

 

 

     ระบบไฮบริดของ Accord Hybrid ใช้ชื่อว่า ‘Sport Hybrid i-MMD’ มีลักษณะการทำงานคล้ายเครื่องยนต์ไฮบริดทั่วไป โดยในขณะรถหยุดนิ่ง ระบบจะตัดการทำงานของเครื่องยนต์ ใช้เพียงมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างเดียว  เมื่อเหยียบคันเร่งออกตัว ระบบจะใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ก่อน แต่หากใจร้อนเท้าหนักขึ้นมา เรื่องยนต์จะเข้ามาช่วยเสริมกำลังด้วย เมื่อใช้ความเร็วคงที่ จะมีการทำงานสลับกันระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ เพื่อช่วยด้านความประหยัด และเมื่อเหยียบเบรค ระบบจะทำการชาร์จพลังงานเข้าไปในแบตเตอรี่

 

 

     เริ่มออกเดินทางจากศูนย์ฝึกอบรมฮฮนด้า บางชัน ก็ได้มีโอกาสสัมผัสการทำงานของระบบเตือนกันชนด้านหน้าพร้อมระบบช่วยเบรค (CMBS) กันก่อนเลย เพราะตั้งใจจะหนีสัญญาณไฟเหลืองเสียหน่อย แต่รถคันหน้าดันไม่เล่นด้วย (ฮา)

     ระบบ CMBS จึงแจ้งเตือนว่ารถของเรากำลังพุ่งไปหารถคันข้างหน้าด้วยความเร็ว สัญญาณไฟบนหน้าปัทม์กระพริบและมีเสียงเตือนดังขึ้น  รวมถึงมีการกระตุกของเข็มขัดนิรภัย บ่งบอกว่าระบบช่วยเบรคกำลังทำงาน บวกกับการเหยียบเบรคของคนขับแล้ว ทำให้ตัวรถหยุดสนิทได้อย่างทันท่วงที ทำให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุของระบบ CMBS ในการใช้งานจริง

 

     ด้านอัตราเร่งนั้น ในโหมดไฮบริด (เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานคู่กัน) ทำได้ค่อนข้างดี ตัวรถสามารถพุ่งไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็วและนุ่มนวล จนบางครั้งแทบลืมไปเลยว่าใช้เครื่องยนต์ขนาด 2 ลิตรเท่านั้น น้ำหนักพวงมาลัยไฟฟ้าอยู่ในเกณฑ์กำลังดี มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นกว่ารุ่นก่อน แต่ยังให้ความรู้สึกกระชับ ฉับไว ทำให้ควบคุมตัวรถที่มีขนาดใหญ่ทำได้ง่าย ส่วนระบบเบรคนั้น ทำได้อย่างมั่นใจ เนื่องจากทำงานคู่กับเจเนอเรเตอร์ในการชาร์จไฟ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเบรคขึ้นอีกทาง แต่สัมผัสการ Linear ก็ยังมีจังหวะให้รู้สึกว่าเจเนอเรเตอร์เริ่มทำงานเล็กน้อย แต่หากใช้งานจนชินก็ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด

     ระบบช่วงล่างของ Accord Hybrid ถูกเซ็ทมาให้ความนุ่มนวลกำลังดี ซับแรงกระแทกจากรอยต่อของงถนน รวมถึงหลุมบ่อได้อย่างนุ่มนวล แต่ยังคงให้ความมั่นใจในความเร็วสูง

     หลังจากเราลองสังเกตระดับแบตเตอรี่ดูนั้น พบว่าระบบไฮบริดของแอคคอร์ด ค่อนข้างเน้นการใช้งานมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงานจากเครื่องยนต์ได้ แต่ก็ทำให้ประจุไฟฟ้าของแบตเตอรี่อยู่ในระดับต่ำในหลายๆช่วงของการเดินทาง (ประจุไฟฟ้าเหลือประมาณ 1 ใน 4 ของทั้งหมด) ซึ่งส่งผลใช้โหมดไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวโดยการกดปุ่ม EV ได้เพียงชั่วครู่เท่านั้น

 

 

     นอกจากนั้น เรายังได้ทดลองใช้ระบบ  Adaptive Cruise Control ควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ โดยตัวรถจะเคลื่อนที่ตามความเร็วที่เราตั้งไว้เหมือนครูซคอนโทรลทั่วไป แต่หากมีรถด้านหน้าแซงขึ้นมา ก็จะลดความเร็วลงให้เท่ากับคันข้างหน้าโดยอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายยามเดินทางไกล

     อัตราสิ้นเปลืองของ Accord Hybrid นั้น เราใช้ความเร็วระดับ 80-120 กม./ชม. นั่ง 3 คน เปิดแอร์ตามปกติ หน้าจอแสดงตัวเลขอยู่ที่ประมาณ 17 กม./ลิตร ซึ่งแม้ว่าจะไม่เท่ากับที่ทางฮอนด้าเคยเคลมไว้ แต่ตัวเลขที่เราได้นั้น ก็สะท้อนการใช้งานจริง มีรถติดบ้าง เร่งแซงบ้าง ซึ่งถือว่าทำได้ดีเมื่อเทียบว่านี่คือรถระดับ D-Segment ที่พรั่งพร้อมไปด้วยอุปกรณ์ความสะดวกสบายมากมายและสมรรถนะที่ไม่เป็นรองใคร

 

 

     สรุป ‘Honda Accord Hybrid TECH’ ให้สมรรถนะในการขับขี่ดี อุปกรณ์ความสะดวกสบายเพียบ ระบบความปลอดภัยเหนือชั้น ประหยัดน้ำมันด้วยระบบไฮบริด แลกกับค่าตัว 1,899,000 บาท ที่หลายคนอาจคิดหนัก แต่พูดได้เลยว่าคุ้มค่าที่สุด ณ วินาทีนี้


     ราคา Honda Accord Hybrid

  • รุ่น Hybrid ราคา 1,659,000 บาท
  • รุ่น Hybrid TECH ราคา 1,899,000 บาท


     (ขอขอบคุณฝ่ายประชาสัมพันธ์บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เป็นอย่างสูงที่ให้เกียรติเชิญเข้าร่วมทดสอบในครั้งนี้)

 

อัลบั้มภาพ 35 ภาพ

อัลบั้มภาพ 35 ภาพ ของ รีวิว 'Honda Accord Hybrid TECH' ล้ำเหนือขั้น ประหยัดเหนือชั้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook