เช็กก่อนซื้อ 5 ระบบความปลอดภัยมาตรฐานที่รถใหม่ป้ายแดงปี 2564 ต้องมี

เช็กก่อนซื้อ 5 ระบบความปลอดภัยมาตรฐานที่รถใหม่ป้ายแดงปี 2564 ต้องมี

เช็กก่อนซื้อ 5 ระบบความปลอดภัยมาตรฐานที่รถใหม่ป้ายแดงปี 2564 ต้องมี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     การเลือกซื้อรถยนต์หนึ่งคัน นอกจากจะต้องคำนึงถึงเรื่องสมรรถนะของเครื่องยนต์, สมรรถนะของช่วงล่าง, รูปลักษณ์ภายนอก-ภายใน, อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง และบริการหลังการขายแล้วนั้น “ความปลอดภัย” ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงด้วย เพราะต่อให้รถคันนั้นมีสมรรถนะดีแค่ไหน แต่หากเกิดเหตุไม่คาดฝันจนเป็นอันตรายต่อชีวิตของตนเองและผู้อื่นแล้วล่ะก็ อาจทำให้ใครบางคนต้องเสียใจไปตลอดชีวิตเลยทีเดียว

     Sanook Auto จึงขอแนะนำ 5 ระบบความปลอดภัยพื้นฐานที่ต้องมีในรถใหม่ป้ายแดงปี 2564 นี้

car_safety_03

1.ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESP, VSC, VSA,...)

     หากเป็นสมัยก่อนระบบควบคุมเสถียรภาพมักพบได้ในรถยนต์หรูราคาแพงเท่านั้น แต่ปัจจุบันถูกติดตั้งมาให้แม้กระทั่งรถเล็กราคาประหยัดอย่างอีโคคาร์ โดยระบบที่ว่านี้จะลดโอกาสเสี่ยงในการเสียหลักโดยเฉพาะอย่างยิ่งบนถนนเปียกหรือเมื่อเจอแอ่งน้ำท่วมขังกะทันหัน เซ็นเซอร์ต่างๆ จะคอยตรวจจับว่ารถเริ่มจะมีอาการเสียหลักหรือไม่ จากนั้นระบบจะสั่งเบรกไปยังล้อใดล้อหนึ่งเพื่อแก้อาการก่อนที่รถจะเสียหลัก ซึ่งเป็นสิ่งที่มนุษย์ไม่สามารถทำได้

     นอกจากนี้ ระบบควบคุมเสถียรภาพส่วนมากจะมาพร้อมกับระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Traction Control อีกด้วย

2.ระบบเบรกป้องกันล้อล็อกตาย (Anti-lock Brake System)

     ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก หรือที่คุ้นหูกันในชื่อ ABS ถูกติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถแทบทุกรุ่นที่วางจำหน่ายในบ้านเรา โดยระบบที่ว่านี้จะช่วยป้องกันไม่ให้ล้อล็อกตายขณะเหยียบเบรกแบบเต็มแรง ส่งผลให้ผู้ขับขี่ยังสามารถควบคุมทิศทางพวงมาลัยเพื่อหักหลบสิ่งกีดขวางได้ ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากโดยเฉพาะขับขี่บนถนนเปียกลื่น แถมยังช่วยป้องกันไม่ให้รถหมุน และทำให้ระยะเบรกสั้นลงอีกด้วย

car_safety_06

3.ถุงลมนิรภัยคู่หน้า

     รถยนต์รุ่นใหม่ในปัจจุบันควรมีถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ใบเป็นอย่างน้อย เนื่องจากผู้โดยสารด้านหน้ามีโอกาสเสี่ยงสูงกว่าที่จะได้รับอันตรายจากการชน โดยเฉพาะกรณีที่ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย อาจเกิดความเสี่ยงต่อการได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะได้ (รถยนต์หลายรุ่นในปัจจุบัน หากเกิดการชนด้านหน้า ถุงลมนิรภัยคู่หน้าจะพองตัวออกพร้อมกันแม้ว่าไม่ได้รัดเข็มขัดนิรภัย หรือไม่มีผู้โดยสารนั่งอยู่ก็ตาม)

4.กล้องมองหลัง และ/หรือ เซ็นเซอร์กะระยะท้าย

     กล้องมองหลังและเซ็นเซอร์กะระยะท้ายแทบจะกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ไปแล้ว เพราะช่วยเพิ่มความสะดวกในการจอดรถขึ้นเป็นอย่างมาก แถมยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยในกรณีมีวัตถุหรือเด็กเล็กที่ไม่สามารถมองเห็นเองได้ แม้ว่ากล้องมองหลังและเซ็นเซอร์กะระยะจะเป็นอุปกรณ์เสริมที่สามารถหาซื้อติดตั้งเองในภายหลังได้ก็ตาม แต่หากถูกติดตั้งมาให้จากโรงงานก็จะหมดห่วงในเรื่องของงานติดตั้ง การตัดต่อสายไฟ การเจาะตัวถัง ฯลฯ ลงไปได้

car_safety_01

5.เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด ทุกตำแหน่ง

     ปัจจุบันยังมีรถยนต์บางรุ่นที่ใช้เข็มขัดนิรภัยแบบ 2 จุด สำหรับตำแหน่งผู้โดยสารกลางของเบาะนั่งแถวหลัง โดยเข็มขัดนิรภัยลักษณะนี้จะคาดเฉพาะช่วงเอวเท่านั้น หากประสบอุบัติเหตุอย่างรุนแรงก็อาจก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บได้มากกว่าเข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุดทั่วไป ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารทุกที่นั่ง คุณควรเลือกรถที่ติดตั้งเข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุดเท่านั้น

car_safety_04

     อันที่จริงแล้วรถยนต์สมัยใหม่ยังมีระบบความปลอดภัยระดับสูงอีกมากมาย เช่น ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ (Automatic Emergency Braking) และระบบป้องกันรถออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ (Lane Keep Assist) เป็นต้น ซึ่งมักมีให้เฉพาะในตัวท็อปของแต่ละรุ่นเท่านั้น ดังนั้นหากคุณกำลังพิจารณาซื้อรถใหม่ป้ายแดงในขณะนี้ อย่างน้อยก็ควรมีอุปกรณ์พื้นฐาน 5 อย่างดังเช่นที่กล่าวมาข้างต้นด้วยนะครับ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook