แนะนำ 7 รถมือสองน่าใช้งบประมาณไม่เกิน 1 แสนบาท
ในช่วงที่เศรฐกิจย่ำแย่เช่นนี้ เชื่อว่าหลายคนคงกำลังมองหารถยนต์คันใหม่เพื่อใช้ในการประกอบอาชีพ ครั้นจะออกรถป้ายแดงก็คงต้องเป็นหนี้ยาวนานหลายปี Sanook Auto จึงขอแนะนำ 7 รถมือสองน่าใช้ในงบประมาณป้วนเปี้ยนราว 1 แสนบาทมาฝากกันครับ
1. Toyota Soluna Vios รุ่นปี 2003-2007
Toyota Vios โฉมแรกถือเป็นหนึ่งในอดีตขวัญใจของคนไทยเลยก็ว่าได้ ด้วยรูปลักษณ์ที่ยังคงสวยงามพอไปวัดไปวามาจนถึงปัจจุบัน มีจุดเด่นเรื่องความไม่จุกจิก ขนาดบอดี้กะทัดรัด คล่องตัว เครื่องยนต์และเกียร์ทนทานหายห่วง จะนำไปติดแก๊สก็ไม่มีปัญหา แถมยังขึ้นชื่อเรื่องช่วงล่างที่ดียิ่งกว่ารุ่นหลังๆ เสียอีก
2. Honda Jazz รุ่นปี 2004-2007
แม้ว่า Honda Jazz โฉมแรกจะมีอายุอานามพอสมควร แต่ก็ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ด้วยหน้าตาที่ดูสวยงามลงตัว สามารถจับต้องได้ในราคาเพียงแสนกว่าบาท จนเริ่มกลับมาเป็นที่นิยมสำหรับวัยรุ่นที่กำลังมองหารถคันแรก ข้อเสียของรถรุ่นนี้อยู่ที่ระบบเกียร์ CVT อาจมีปัญหาในหลายคัน แต่ปัจจุบันสามารถหาอู่ซ่อมได้ไม่ยากเย็น ขอแค่ให้ได้สภาพรถเดิมๆ ไม่ผ่านการชนหนักหรือจมน้ำมาเป็นพอ
3. Toyota Corolla Altis (โฉมหน้าหมู) รุ่นปี 2001-2007
Toyota Corolla โฉม Altis ตัวแรกเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในช่วงนั้น ด้วยหน้าตาที่ดูทันสมัยขึ้นอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับโฉม AE111 หรือที่คุ้นหูกันในชื่อ “ไฮทอร์ค” ปัจจุบันยังหาสภาพดีๆ ได้ไม่ยาก เน้นมองหารถที่ยังอยู่ในสภาพเดิม ไม่เคยทำแท็กซี่มาก่อน (ไม่เคยติดแก๊สมาก่อนด้วยก็จะดี) ส่วนเรื่องบำรุงรักษาถือว่าสบาย เนื่องจากอะไหล่มีให้เลือกแทบทุกร้าน จะเข้าอู่ที่ไหนก็ซ่อมได้
4. Honda Civic (โฉม Dimension) รุ่นปี 2001-2005
ใครที่เป็นสาวกฮอนด้าจะหันไปเล่น Civic โฉม Dimension ก็ย่อมได้ แม้ว่าในด้านสมรรถนะของเครื่องยนต์และช่วงล่างอาจด้อยกว่า Altis ในยุคเดียวกันไปบ้าง แต่ก็ถือเป็นรถที่ไม่จุกจิก ซ่อมง่าย มีของแต่งให้เลือกมากมาย โดยให้เน้นไปที่เครื่องยนต์ 1.7 ลิตร ที่สามารถหาอะไหล่ได้ง่ายและประหยัดกว่าเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร
5. Nissan Sunny NEO รุ่นปี 2001-2006
ถ้ารู้สึกว่าตัวเลือกด้านบนทั้ง 2 รุ่นยังมีราคาแพงไปหน่อยแล้วล่ะก็ แนะนำให้หันไปเล่น Nissan Sunny NEO ซึ่งปัจจุบันมีราคาป้วนเปี้ยนราวครึ่งแสน ไปจนถึงหลักหมื่นปลาย มีข้อดีอยู่ที่ความทนทานและการบำรุงรักษา แต่อาจด้อยในเรื่องความแรงของเครื่องยนต์ รวมถึงต้องเช็กสนิมและสีปูดที่เริ่มเกิดขึ้นในหลายๆ คัน
6. Mitsubishi Lancer Cedia (โฉมไมเนอร์เชนจ์) รุ่นปี 2006-2011
Mitsubishi Lancer โฉม Cedia ถือเป็นหนึ่งในรุ่นที่ลากขายมาอย่างยาวนาน มีจุดเด่นอยู่ที่ความสดใหม่กว่าเจ้าตลาด แถมยังมีรุ่นติดแก๊ส CNG มาจากโรงงานให้เลือก แม้ว่าจะเป็นเกียร์ CVT แต่หากเจ้าของเดิมบำรุงรักษาอย่างดี ก็อาจมีอายุยาวนานมาจนถึงปัจจุบันโดยไม่จำเป็นต้องโอเวอร์ฮอล์ นอกนั้นไม่มีอะไรจุกจิก ยังสามารถหาอะไหล่ได้ไม่ยากนัก
7. Nissan Cefiro (A33) รุ่นปี 2001-2003
งบประมาณหลักแสนก็สามารถหารถรุ่นใหญ่ได้ไม่ยาก เนื่องจาก Nissan Cefiro โฉมสุดท้ายรหัส A33 ปัจจุบันมีราคาป้วนเปี้ยนเริ่มต้นไม่ถึง 1 แสนบาท แลกกับความหรูหราเต็มพิกัดสไตล์รถผู้บริหารในสมัยนั้น มีจุดเด่นที่เครื่องยนต์ VQ แบบ 6 สูบ ที่แม้ว่าจะกินน้ำมันไปนิด แต่ก็แลกกับความนุ่มเงียบชวนฝันอย่างที่หาไม่ได้ในคู่แข่ง ถ้ายังอยากเล่นรุ่นนี้ขอให้เน้นสภาพเดิมๆ ประวัติการบำรุงรักษาต้องถึง แล้วคุณจะได้รถดีๆ ใช้ไปอีกยาวนาน
อย่างไรก็ดี การเลือกซื้อรถมือสองจำเป็นต้องมีความรู้ในการดูรถเป็นอย่างดี จะได้ไม่เจ็บตัวและเจ็บใจในภายหลัง ทางที่ดีควรพาผู้ที่มีความรู้ไปช่วยเลือกได้ จะช่วยลดโอกาสเจอรถย้อมแมวได้ครับ
>> 8 รถมือสองรุ่นใหญ่น่าซื้อราคาถูกกว่าอีโคคาร์ป้ายแดงในปี 2565