All-new Range Rover 2022 ใหม่ เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว เพิ่มรุ่น 7 ที่นั่งเป็นครั้งแรก

     All-new Range Rover 2022 ใหม่ ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว เพิ่มทางเลือกด้วยรุ่น 7 ที่นั่งเป็นครั้งแรก พร้อมขุมพลัง V8 ที่ยกมาจาก BMW X7 ขณะที่เวอร์ชันปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และไฟฟ้าล้วน (EV) เตรียมเปิดตัวตามมาในปี 2023 นี้

     All-new Range Rover 2022 ใหม่ ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่องเป็นเจเนอเรชันที่ 5 แล้ว โดยใช้พื้นฐานของแพล็ตฟอร์ม MLA-Flex ที่พัฒนาโดย Land Rover ซึ่งสามารถรองรับขุมพลังได้อย่างหลากหลายไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์สันดาป, เครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริด และมอเตอร์ไฟฟ้าล้วน แต่ในระยะแรกจะมีให้เลือกเฉพาะเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลเท่านั้น

     ดีไซน์ภายนอกของ All-new Range Rover ถูกตกแต่งเน้นความเรียบหรูแบบเต็มพิกัด ติดตั้งไฟหน้าแบบ Digital LED ที่ประกอบไปด้วยแผ่นกระจกขนาดจิ๋ว (Digital Micro-mirror Devices - DMDs) จำนวนถึง 1.2 ล้านชิ้น ช่วยให้สามารถกระจายแสงได้อย่างละเอียด พร้อมด้วยไฟท้ายแบบ LED ที่กลมกลืนไปกับตัวถัง และจะมองเห็นได้เมื่อไฟสว่างขึ้นเท่านั้น

     All-new Range Rover สามารถเลือกได้ทั้งเวอร์ชันฐานล้อปกติและฐานล้อยาวเช่นเคย แต่เพิ่มทางเลือกด้วยห้องโดยสารแบบ 7 ที่นั่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของ Range Rover ในรุ่น Autobiography LWB เท่านั้น ทั้งยังติดตั้งระบบช่วงล่างแบบถุงลมคู่กับระบบกันโคลงแบบไฟฟ้า 48 โวลต์ รวมถึงสามารถใช้ข้อมูลจากระบบนำทางในการปรับช่วงล่างให้เหมาะสมกับสภาพถนนด้านหน้าได้

     นอกจากนี้ All-new Range Rover ยังสามารถรองรับการลุยน้ำลึกได้ถึง 900 มม. แม้ว่าน้อยคนนักที่จะนำรถรุ่นนี้ไปลุยน้ำลึกถึงระดับนั้นก็ตาม

     ภายในห้องโดยสารถูกติดตั้งมาตรวัดแบบดิจิทัลขนาด 13.7 นิ้ว และหน้าจออินโฟเทนเมนท์ Pivo Pro ขนาด 13.1 นิ้ว เสริมด้วยฟังก์ชันตอบสนองต่อการกดปุ่มด้วยการสั่น (Haptic feedback) เป็นครั้งแรก ขณะที่เบาะนั่งแถวหลังสามารถเลือกติดตั้งหน้าจอขนาด 11.4 นิ้วเป็นอุปกรณ์เสริมได้ อีกทั้งยังมีระบบเครื่องเสียงจาก Meridian พร้อมฟังก์ชันตัดเสียงรบกวนที่พนักพิงศีรษะเป็นครั้งแรกอีกด้วย

     ด้านขุมพลังมีให้เลือกทั้งรุ่น P400 ที่ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 6 สูบ ไมลด์ไฮบริด 48 โวลต์ ให้กำลังสูงสุด 395 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 550 นิวตัน-เมตร หรือเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 6 สูบ ไมลด์ไฮบริด 48 โวลต์ในรุ่น D300 แต่มีกำลังสูงสุดอยู่ที่ 296 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 650 นิวตัน-เมตร

     แต่หากต้องการความแรงกว่านั้นสามารถเลือกรุ่น D350 ที่มีกำลังสูงสุดเพิ่มขึ้นเป็น 346 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 700 นิวตัน-เมตร รวมถึงรุ่น P530 ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน V8 เทอร์โบคู่ ขนาด 4.4 ลิตร สามารถรีดกำลังสูงสุดได้ถึง 523 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 750 นิวตัน-เมตร โดยทั้งหมดถูกติดตั้งระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่สามารถตัดการถ่ายทอดกำลังไปยังล้อคู่หน้าได้อย่างสมบูรณ์

     ส่วนบ้านเรายังไม่มีกำหนดเปิดตัวในขณะนี้