เอ็มจี ตั้งเป้ารุกตลาด EV ต่อเนื่อง เร่งสร้าง EV Ecosystem รองรับการใช้งานของลูกค้าคนไทย

เอ็มจี ตั้งเป้ารุกตลาด EV ต่อเนื่อง เร่งสร้าง EV Ecosystem รองรับการใช้งานของลูกค้าคนไทย

เอ็มจี ตั้งเป้ารุกตลาด EV ต่อเนื่อง เร่งสร้าง EV Ecosystem รองรับการใช้งานของลูกค้าคนไทย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เอ็มจี จัดงานแสดงวิสัยทัศน์ “New Era New Growth for MG and Thailand Automotive Industry" เพื่อแสดงคำขอบคุณคนไทยและสื่อมวลชนที่ให้การสนับสนุนแบรนด์เอ็มจี โดยงานนี้มีการเปิดเผยกลยุทธ์การดำเนินงานของปี 2022 รวมถึงผลสำเร็จ ยอดขายในปี 2021 รวมถึงแนวทางการวางเกมในตลาด EV เพื่อตอกย้ำแบรนด์ที่เป็นผู้บุกเบิก และผู้นำกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย

เตรียมผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยก้าวสู่ยุคใหม่เทียบชั้นอุตสาหกรรมยานยนต์โลก

มร. จาง ไห่โป กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยตัวเลขยอดขายรวม ปีที่ผ่านมา 31,005 คัน หรือมีอัตราการเติบโตที่ 9.5%โดยในปี 2022 เอ็มจี คาดว่า ตลาดรถยนต์ในประเทศจะเติบโตขึ้นโดยมียอดขายรวมอยู่ที่ 800,000 – 850,000 คัน โดยในส่วนของเอ็มจีจะเน้นพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้ครอบคลุมทั้งเครื่องยนต์สันดาปและรถยนต์พลังงานทางเลือก เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการใช้รถของคนไทย มีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้ในผลิตภัณฑ์และ การบริการควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม พร้อมเตรียมส่งผลิตภัณฑ์ลงตลาดที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าหลากหลายกลุ่มมากยิ่งขึ้นในปีนี้

ทั้งนี้ยังเตรียมผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยก้าวสู่ยุคใหม่เทียบชั้นอุตสาหกรรมโลก โดยจะรุกตลาด “อีวี” ชูระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า (EV Ecosystem) ของประเทศให้มีความแข็งแกร่ง “ระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าจำเป็นต้องมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย สถานีชาร์จครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ การพัฒนาและการจัดการแบตเตอรี่ที่ดี และการสร้างความรู้พื้นฐานและความเข้าใจไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ เพื่อให้อีวีในไทยเติบโตได้อย่างยั่งยืน”

มร.จาง ชี้ให้เห็นถึงทิศทางยานยนต์โลกว่า แนวโน้มของอุตสาหกรรมยานยนต์โลกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก มีการติดตั้งเทคโนโลยีเพื่อช่วยในการขับขี่ (Autonomous) การเชื่อมต่อระหว่างคนและรถ (Connectivity) มากยิ่งขึ้น การใช้งานรถร่วมกัน (Sharing Economy) ได้รับการพูดถึงมากขึ้น รวมถึงการที่โลกกำลังเดินหน้าไปสู่เศรษฐกิจพลังงานสะอาด (Green Economy) และให้ความสำคัญกับ Emission Standard จากการตั้งเป้าหมายของแต่ละประเทศเพื่อทำให้เกิด Zero Emission จึงทำให้อุตสาหกรรมผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) เติบโต อย่างก้าวกระโดด 

ในส่วนของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ จากนโยบายและจุดยืนที่ชัดเจนของภาครัฐ รวมถึงมาตรการและแนวทางสนับสนุนที่มีอย่างต่อเนื่อง จะทำให้ประเทศไทยมีศักยภาพที่จะเติบโตทัดเทียมอุตสาหกรรมยานยนต์โลกได้อย่างแน่นอน มร.จาง กล่าวเสริมว่า  “เอ็มจีเชื่อว่าการให้ความสำคัญกับ “เทคโนโลยี” จะช่วยสร้างจุดเปลี่ยนและยกระดับประเทศไทยได้ โดยเราได้มีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ๆ มาโดยตลอด ทำให้คนไทยได้ใช้รถที่มีระบบการเชื่อมต่ออัจฉริยะและระบบการขับขี่อัตโนมัติที่ให้ความสะดวกสบายและความปลอดภัยกับผู้ขับขี่เพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ธุรกิจ Car Sharing กำลังเป็นที่จับตา รวมถึงรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยก็เป็นที่ยอมรับและมียอดจำหน่ายที่เพิ่มสูงขึ้น ถือได้ว่าในวันนี้ประเทศไทยก้าวมาไกลทัดเทียมกับประชาคมโลกอย่างที่เอ็มจีตั้งใจไว้”  

ความสำเร็จของเอ็มจีตลอดปี 2564 ภาพสะท้อนความเชื่อมั่นของแบรนด์
คนไทยให้ความไว้วางใจและเชื่อมั่นในแบรนด์เอ็มจีมากยิ่งขึ้น เมื่อดูจากยอดขายรวมที่ 31,005 คัน หรือมีอัตราการเติบโตที่ 9.5% ถือเป็นแบรนด์รถยนต์เพียงไม่กี่แบรนด์ที่มีตัวเลขอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น โดยมีสถิติและตัวเลขที่น่าสนใจ อาทิ ALL NEW MG5 สามารถขึ้นเป็นอันดับ 3 ในกลุ่มรถยนต์ขนาดเล็ก หรือ B-segment ภายในเวลาเพียงแค่ 2 เดือนหลังจากการเปิดตัว ในส่วนของกลุ่ม SUV ที่เป็นโมเดลทำตลาดหลักของ เอ็มจี ในปี 2564 สามารถรั้งตำแหน่งในกลุ่มผู้นำต่อเนื่อง สำหรับกลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้าได้รับความนิยมมากขึ้นจากกลุ่มลูกค้าทั่วไปและลูกค้าองค์กร โดยครองการเป็นผู้นำด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดสูงถึงกว่า 90% อีกทั้งยังสามารถดำเนินการติดตั้งสถานีชาร์จแบบเร็ว MG Super Charge ได้แล้วทั่วประเทศจำนวน 120 แห่ง เป็นต้น      

     

ผู้นำตลาด EV ตัวจริง สะท้อนผ่านนิยาม EV  ไม่ใช่แค่ตัวรถแต่คือการลงมือทำทั้งระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าให้แข็งแกร่ง
ภายในงาน เอ็มจี ยังแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์และแผนงานในการรุกตลาด EV ในมิติต่างๆ ได้แก่

  • การพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์ยานยนต์ไฟฟ้าที่หลากหลาย เพื่อให้สอดรับกับรูปแบบการใช้งานความต้องการและไลฟ์สไตล์ของแต่ละกลุ่มลูกค้า โดยรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทุกรุ่นที่จะเปิดตัวนับจากนี้ จะมี เทคโนโลยีใหม่ๆ อาทิ V2L ที่รถยนต์สามารถจ่ายไฟฟ้าไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นได้
  • การพัฒนาและการจัดการแบตเตอรี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้า เราได้รับการอนุมัติจาก BOI ในการตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมถึงอยู่ในระหว่างการศึกษาและวิจัยในเรื่องของวิธีการจัดการแบตเตอรี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้งานแล้วอีกด้วย
  • การสร้างและขยายเครือข่ายสถานีชาร์จให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกพร้อมเสริมความมั่นใจในการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า รองรับการใช้งานอย่างแพร่หลาย รวมถึงยังเป็นการปลดล็อกความกังวลเรื่องระยะทางการใช้งานต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ด้วยจำนวนสถานีชาร์จนอกบ้านที่มีให้บริการตลอดเส้นทาง โดยทุกๆ 150 กิโลเมตรจะต้องมีเครือข่ายสถานีชาร์จอย่างน้อย 1 แห่ง

การเร่งสร้างความรู้พื้นฐานและความเข้าใจเกี่ยวกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยมีแผนที่จะเข้าไปสร้างความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้และเตรียมความพร้อมให้คนรุ่นใหม่เป็นกำลังสำคัญในการผลักดันสังคมยานยนต์ไฟฟ้าในไทยให้เกิดขึ้นได้ไวมากยิ่งขึ้น รวมถึงเป็น ผู้ร่วมกำหนดมาตรฐานใหม่ของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในอนาคต  

เอ็มจี เตรียมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ รองรับความต้องการที่หลากหลายของคนไทย
ปีที่ผ่านมา เอ็มจีครองส่วนแบ่งทางการตลาดในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าสูงถึง 90% แน่นอนว่าในปีนี้เอ็มจีมีแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง รวมถึงรถยนต์สันดาป และรถยนต์พลังงานทางเลือกอื่นๆ อีกหลายรุ่น โดยคาดการณ์ตัวเลขยอดขายทุกรุ่นในปีนี้ตั้งเป้าแตะ 50,000 คัน ซึ่งตัวเลขนี้จะทำให้เอ็มจีกลายเป็น Top 5 ในตลาดได้ไม่ยาก

เอ็มจีตั้งเป้าที่จะผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยสู่ยุคใหม่ อันจะนำมาซึ่งการยกระดับขีดความสามารถของประเทศเพื่อรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว โดยจะมุ่งนำเสนอสิ่งใหม่ๆ ด้วยการผสมผสานความลงตัวของ เทคโนโลยี ความทันสมัย และ คุณค่า เพื่อทลายกรอบความคิดเดิมๆ และพิสูจน์ให้เห็นว่ารถที่ดีต้องมอบประโยชน์สูงสุดให้กับผู้บริโภค และทำให้คนไทยมีทางเลือกในการเข้าถึงรถยนต์ที่มาพร้อมนวัตกรรมในราคาที่เข้าถึงได้มากยิ่งขึ้น”

[Advertorial]

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook