McLaren Elva ไ​ฮเปอร์คาร์ 815 แรงม้า เคาะราคาในไทย 200 ล้านบาท จำกัดเพียง 2 คัน

     McLaren Elva ใหม่ ไฮเปอร์คาร์ตระกูล Ultimate Series ขุมพลัง V8 ขนาด 4.0 ลิตร กำลังสูงสุด 815 แรงม้า (PS) เปิดตัวพร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย โดยรถรุ่นนี้ถูกผลิตจำนวนจำกัดเพียง 149 คันทั่วโลก และไทยได้รับโควต้าจำนวนทั้งสิ้น 2 คัน

     “นิชคาร์ กรุ๊ป” เปิดตัว McLaren Elva ใหม่ ซึ่งถูกเปิดตัวเป็นครั้งแรกในโลกช่วงปี 2562 โดยพัฒนาให้เป็นไฮเปอร์คาร์ตระกูล Ultimate Series ต่อจากรุ่น F1 Road Car, P1, Senna และ Speedtail มาพร้อมห้องโดยสารแบบ 2 ที่นั่ง ไร้หลังคาและกระจกบังลมหน้า โครงสร้างแชสซีซ์และตัวถังขึ้นรูปด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบา ถูกผลิตขึ้นทั่วโลกเพียง 149 คันเท่านั้น โดยไทยได้รับโควต้าจำนวนทั้งสิ้น 2 คัน และมียอดจองเข้ามาแล้ว 1 คัน

     McLaren Elva ถูกพัฒนาให้เป็น Road Car ที่มีน้ำหนักเบาที่สุดเท่าที่แมคลาเรนเคยผลิตมา โดดเด่นด้วยห้องโดยสารแบบ Open-cockpit สองที่นั่งปราศจากหลังคา, กระจกหน้า และหน้าต่างด้านข้าง ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์แมคลาเรน V8 ความจุ 4.0 ลิตรเทอร์โบคู่แบบวางกลาง ขับเคลื่อนล้อหลัง ซึ่งเป็นตระกูลเดียวกับ Senna และ Senna GTR

     ขุมพลังบล็อกดังกล่าวผลิตกำลังสูงสุดได้ 815 แรงม้า (PS) ที่ 7,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 800 นิวตัน-เมตร ที่ 5,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์คลัทช์คู่ 7 สปีด สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 2.8 วินาที ต่อเนื่องจนถึง 200 กม./ชม. ในเวลาเพียง 6.8 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 326 กม./ชม. ส่วนถ้าใครสงสัยเรื่องอัตราสิ้นเปลือง รถคันนี้กินน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 11.9 ลิตร ต่อ 100 กิโลเมตร หรือประมาณ 8.4 กม./ลิตร ตามมาตรฐานการทดสอบ WLTP ของยุโรป

     นอกจากนี้ McLaren Elva ยังมีระบบ Adaptive Dynamic Controls สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการควบคุมรถและระบบส่งกำลังได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ Comfort, Sport และ Track ตามลักษณะการขับขี่ในขณะนั้น รวมถึงระบบควบคุมเสถียรภาพ Electronic Stability Control (ESC) ปรับได้ 3 ระดับ และระบบ Variable Drift Control (VDC) สำหรับการดริฟต์อีกด้วย

     McLaren Elva ยังมาพร้อมระบบ Active Air Management System (AAMS) เป็นครั้งแรก โดยจะส่งผ่านอากาศจากด้านหน้าของตัวรถและเหินขึ้นเหนือห้องผู้โดยสารเพื่อสร้างกำแพงลมเสมือนเกราะกำบังแก่ผู้โดยสารและผู้ขับขี่ โดยอากาศจะถูกผันออกในรัศมี 130 องศาเพื่อจัดการอากาศภายในห้องโดยสารขณะใช้ความเร็วสูง ทั้งยังมีระบบแอร์เบรกแบบแอคทีฟเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการลดความเร็ว

     ภายในห้องโดยสารถูกออกแบบด้วยการใช้คาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบารองรับศีรษะ ไหล่ และหลังของผู้โดยสาร โดยตัวเบาะจะถูกออกแบบให้สั้นกว่าปกติเล็กน้อยเพื่อให้มีพื้นที่พักเท้าเพียงพอสำหรับเพิ่มความสะดวกในการเข้า-ออก โดยลูกค้าสามารถเลือกสีและวัสดุของเบาะนั่งเองได้ทั้งส่วนบนและส่วนล่าง สามารถเลือกติดตั้งเข็มขัดนิรภัยแบบ 6 จุด สำหรับใช้ในสนามแข่ง ขณะเครื่องเสียงไม่ได้ถูกติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานเนื่องจากเหตุผลในการลดน้ำหนัก แต่สามารถสั่งเพิ่มได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

     นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถสั่งอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ที่ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมได้ เช่น ระบบยกตัวรถ, ล้อฟอร์จอัลลอยแบบ 5 ก้าน (ล้อมาตรฐานเป็นแบบ 10 ก้าน), ยาง Pirelli P Zero Corsa สำหรับสนามแข่ง (ยางมาตรฐานเป็น Pirelli P Zero)

     ทั้งนี้ ราคาจำหน่าย McLaren Elva ในประเทศไทยเริ่มต้นที่ 200 ล้านบาท และพร้อมเปิดรับจองเป็นเจ้าของแล้ว