Audi Q7 60 TFSI e ใหม่ พร้อมขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด 462 แรงม้า เริ่ม 4,799,000 บาท
Audi Q7 60 TFSI e quattro S line Black Edition ใหม่ เพิ่มทางเลือกด้วยเครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริด 462 แรงม้า ราคาเริ่มต้น 4,799,000 บาท พร้อมด้วย Q8 60 TFSI e quattro S line Black Edition อีกหนึ่งรุ่น ราคา 5,799,000 บาท
อาวดี้ ประเทศไทย โดยบริษัท ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด เปิดตัว Audi Q7 60 TFSI e quattro S line Black Edition ใหม่ ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน V6 เทอร์โบ ความจุ 3.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 340 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ทำงานคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 136 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ให้กำลังสูงสุดรวมทั้งระบบ 462 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 700 นิวตัน-เมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 5.4 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 240 กม./ชม.
ขณะที่แบตเตอรี่เป็นแบบลิเธียม-ไอออน ความจุ 17.9 กิโลวัตต์ชั่วโมง รองรับการชาร์จได้สูงสุด 7.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถชาร์จจนเต็มได้ในเวลาราว 2.5 ชั่วโมง สามารถขับขี่ในโหมดไฟฟ้าล้วนได้ประมาณ 40 กิโลเมตรเมื่อชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม โดยยังคงพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายขนาด 650 ลิตร ในรุ่น Q7 60 TFSI e และ 505 ลิตร ในรุ่น Q8 60 TFSI e ซึ่งอาวดี้ระบุว่าใหญ่ที่สุดในรถระดับเดียวกัน ทั้งยังสามารถเปลี่ยนอะไหล่และแบตเตอรี่แยกแต่ละโมดูลได้ ช่วยลดค่าบำรุงรักษาในระยะยาว และมีการรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร
นอกจากนี้ Audi Q7/Q8 60 TFSI e ยังมีโหมดการขับขี่ให้เลือก 4 โหมด ได้แก่ โหมด EV สำหรับขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100%, โหมด Auto Hybrid เป็นโหมดไฮบริดที่ทำงานคู่กับระบบ Predictive Efficiency Assist (PEA) ที่สามารถแนะนำการถอนเท้าจากคันเร่งเมื่อถึงทางร่วมทางแยก, โหมด Battery Hold สำหรับรักษาประจุแบตเตอรี่ให้คงเดิม และโหมด Battery Charge สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ระหว่างขับขี่
Audi Q7 60 TFSI e และ Audi Q8 60 TFSI e มาพร้อมแพ็คเกจตกแต่ง S line และ Black Edition ที่เปลี่ยนคิ้วโครเมียมเป็นสีดำเงาเพิ่มความดุดันมากยิ่งขึ้น ติดตั้งล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้ว พร้อมคาลิเปอร์เบรกสีแดงทั้งหน้าและหลัง โดยรุ่น Q7 60 TFSI e สามารถเลือกได้ทั้งไฟหน้าแบบ LED และ Matrix LED ที่สามารถปรับลำแสงไฟสูงเพื่อป้องกันไม่ให้แยงสายตาผู้ร่วมทาง (รุ่นไฟหน้า Matrix LED มีจำนวนจำกัด)
ภายในห้องโดยสารของ Q7 60 TFSI e quattro S line Black Edition ถูกตกแต่งด้วยพวงมาลัยแบบท้ายตัดและเบาะนั่งประดับด้วยสัญลักษณ์ S line ขณะที่รุ่น Q8 60 TFSI e quattro S line Black Edition เพิ่มเติมด้วยเบาะนั่งแบบ Super Sport ลาย Diamond Cut หุ้มด้วยวัสดุหนัง Valcona ทั้งยังถูกติดตั้งระบบ MMI Navigation plus พร้อมหน้าจอ MMI touch ขนาด 10.1 นิ้ว และจอควบคุม Multi-function แบบสัมผัสขนาด 8.6 นิ้ว ที่มีระบบตอบสนองการสั่งงาน Haptic Feedback ได้
นอกจากนี้ ยังถูกติดตั้งหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ Virtual Cockpit ขนาด 12.3 นิ้ว, ระบบเสียง Bang & Olufsen พร้อมลำโพง 17 ตำแหน่ง ให้กำลังขับสูงสุด 730 วัตต์, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 3 โซน และฟังก์ชันเปิดแอร์ในขณะดับเครื่องยนต์ (Stationary Air-conditioning) เป็นต้น
ขณะที่ช่วงล่างของ Audi Q7 60 TFSI e quattro S line Black Edition เป็นแบบถุงลม Adaptive air suspension และ Q8 60 TFSI e quattro S line Black Edition เป็นช่วงล่างถุงลมแบบ Sport โดยที่รุ่น Q8 ยังถูกติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐาน เช่น กล้องรอบคัน 360 องศา, ประตูไฟฟ้าอัตโนมัติ, หลังคาพาโนรามิก และแร็คบรรทุกสัมภาระเหนือหลังคา เป็นต้น
ทั้งนี้ รถยนต์ Plug-in Hybrid TFSI e ทุกรุ่นจะได้รับการรับประกันแบตเตอรี่แรงดันสูง 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร นอกเหนือไปจากการรับประกันรถใหม่ Audi Protection นาน 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน Roadside Assistance 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี
ราคาจำหน่าย Audi Q7 60 TFSI e และ Q8 60 TFSI e รุ่นปี 2022 ใหม่
- Q7 60 TFSI e quattro S line Black Edition (LED Headlight) ราคา 4,799,000 บาท
- Q7 60 TFSI e quattro S line Black Edition (Matrix LED Headlight) ราคา 4,899,000 บาท (จำนวนจำกัด)
- Q8 60 TFSI e quattro S line Black Edition ราคา 5,799,000 บาท
อัลบั้มภาพ 25 ภาพ