“พ.ร.บ.” กับ “ป้ายภาษีรถยนต์” แตกต่างกันอย่างไร?
หลายคนมีความสงสัยว่า “พ.ร.บ.” กับ “ป้ายภาษีรถยนต์” มีความแตกต่างกันอย่างไร ใช่สิ่งเดียวกันหรือไม่ Sanook Auto จะมาไขข้อข้องใจให้ทุกคนทราบกัน
พ.ร.บ. คืออะไร?
พ.ร.บ. หรือ พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ เป็นประกันภัยภาคบังคับที่กฎหมายกำหนดให้รถที่จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกทุกคันจะต้องจัดทำและมีไว้เป็นหลักประกัน เพื่อให้ผู้ที่ประสบภัยจากรถจะได้รับสิทธิความคุ้มครองจากวงเงินรักษาพยาบาล รวมถึงเงินชดเชยกรณีเสียชีวิต โดยมีรายละเอียด ดังนี้
- ให้ความคุ้มครองผู้ขับขี่, ผู้โดยสาร และผู้เดินเท้า ที่ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุ
- จ่ายค่ารักษาพยาบาลสูงสุด 30,000 บาท โดยไม่ต้องพิสูจน์ว่าฝ่ายใดถูกหรือผิด
- จ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ฝ่ายถูกสูงสุด 80,000 บาท
- การชำระภาษีรถประจำปีจำเป็นต้องมี พ.ร.บ. ทุกครั้ง โดยจะต้องมีอายุไม่น้อยกว่า 90 วัน นับจากวันที่ชำระภาษี
ป้ายภาษีรถยนต์ คืออะไร?
ป้ายภาษีรถยนต์ หรือ เครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจำปี แสดงให้เห็นว่ารถคันนี้ได้จดทะเบียนตามกฎหมายอย่างถูกต้องกับกรมการขนส่งทางบก และชำระภาษีประจำปีเรียบร้อยแล้ว โดยกฎหมายได้กำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการต่อภาษีประจำปี ไว้ดังนี้
- การใช้รถโดยไม่ต่อภาษี มีโทษปรับสูงสุด 2,000 บาท
- การไม่แสดงป้ายภาษี มีโทษปรับสูงสุด 2,000 บาท
- หากขาดต่อภาษีเกิน 3 ปี จะถูกระงับทะเบียนทันที หากนำรถไปใช้จะมีความผิดตามกฎหมาย ต้องนำรถมาตรวจสภาพและยื่นขอจดทะเบียนใหม่ พร้อมชำระภาษีและค่าธรรมเนียมที่ค้างอีกด้วย
การชำระภาษีรถยนต์ประจำปีผ่านออนไลน์ ทำอย่างไร?
1.ตรวจสอบวันครบอายุภาษีรถประจำปี ได้จากคู่มือรถ, เครื่องหมายการเสียภาษี หรือเว็บไซต์ชำระภาษีรถออนไลน์ https://eservice.dlt.go.th/ (เมนู “สอบถามข้อมูลค่าภาษีรถประจำปี”)
โดยรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานเกิน 7 ปี รถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานเกิน 5 ปี และรถที่ค้างชำระภาษีเกิน 1 ปี จำเป็นต้องผ่านการตรวจสภาพจากสถานตรวจสภาพรถ (ตรอ.) เสียก่อน จึงจะสามารถดำเนินการชำระภาษีได้ ส่วนรถที่ติดตั้งระบบก๊าซธรรมชาติ จะต้องมีใบรับรองวิศวะรถใช้ก๊าซ LPG/NGV ตามระยะเวลาที่กำหนด
2.เตรียมเอกสาร ได้แก่ คู่มือรถฉบับจริง (กรณีรถติดไฟแนนซ์สามารถใช้สำเนาได้) และหลักฐานความคุ้มครอง พ.ร.บ.
3.ชำระภาษีประจำปี ผ่านช่องทางดังนี้ (ชำระล่วงหน้าได้ 90 วัน ก่อนวันครบภาษี)
- สำนักงานขนส่งใกล้บ้าน
- เลื่อนล้อ ต่อภาษี (Drive Thru for Tax)
- ตู้รับชำระภาษีรถประจำปีอัตโนมัติ (Kiosk)
- เคาน์เตอร์เซอร์วิส
- ห้างสรรพสินค้าที่ร่วมโครงการช้อปให้พอ แล้วต่อภาษี (Shop Thru for Tax)
- ที่ทำการไปรษณีย์
- ธนาคารพาณิชย์ที่ร่วมโครงการกับกรมการขนส่งทางบก
- เว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th
- แอปพลิเคชั่น DLTVehicleTax
- แอปพลิเคชั่น mPay และ TrueMoneyWallet
ข้อมูล "ป้ายภาษีรถยนต์เพิ่มเติม"
อัลบั้มภาพ 6 ภาพ