กระแส EV เริ่มมาแล้ว!
ไม่รู้ว่าน้ำมันแพง หรือเป็นเพราะราคารถ EV ในบ้านเราถูกลง ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีคนรู้จักสอบถามผมกันเข้ามาเยอะมากว่า “ถ้าจะซื้อรถ EV ควรซื้อรุ่นไหนดี?” นั่นทำให้ผมเริ่มรู้สึกแล้วว่ากระแสรถขับเคลื่อนไฟฟ้าแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ กำลังเริ่มมาแล้วในบ้านเรา
ข้อมูลจากงานมอเตอร์โชว์ 2022 ที่เพิ่งจบลงไป มีรายงานว่ายอดยอดรถในงานทั้งหมด 33,936 คันนั้น 10 เปอร์เซ็นต์เป็นยอดจองรถ EV หรือคิดเป็นตัวเลขกลม ๆ ก็คือ มีการจองรถพลังไฟฟ้ากว่า 3,000 คันเลยทีเดียว ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น่าสนใจพอสมควรครับ
เพราะถ้าลงลึกไปในรายละเอียดแต่ละยี่ห้อ อย่าง MG และ GWM ยอดจองกว่า 60% เป็นการจองรถ EV ขณะที่วอลโว่ ค่ายรถที่มีต้นกำเนิดจากสวีเดน ยอดจองในงานรอบนี้ 70 เปอร์เซ็นต์เป็นการจองวอลโว่ไฟฟ้า! นั่นก็คือ EV รุ่น C40 รวมกับรุ่น XC40 นั่นเอง
ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะส่วนลดจากมาตรการส่งเสริมจากภาครัฐที่ทำให้หลายยี่ห้อสามารถลดราคาลงมาได้ในระดับหลักแสนบาท โดยเฉพาะ NEW MG EP รถยนต์ไฟฟ้าแบบ Wagon ใช้แบตเตอรี่ขนาด 50.3 กิโลวัตต์/ชั่วโมง ทำระยะทางวิ่งได้สูงสุด 380 กิโลเมตร ที่เคาะราคาในรุ่นเริ่มต้นออกมาที่ 761,000 บาท
ก่อนหน้านี้ถ้าเรานึกถึงรถ EV ที่เข้ามาทำตลาดในบ้านเรา หากเป็นแบรนด์ยุโรปก็ต้องมีระดับ 2 ล้านขึ้นไป แต่วันนี้รถแบรนด์จีน ทั้ง MG และ GWM กำลังเปิดตลาดรถขับเคลื่อนไฟฟ้าในฐานะเจ้าตลาด ด้วยราคาเริ่มต้นได้ไม่ถึง 1 ล้านบาท ขณะที่ค่ายรถญี่ปุ่นยังไม่ค่อยขยับตัวกัน มีเพียงนิสสันที่นำ EV ออกมาขายแบบจริงจัง
ค่ายรถพี่เบิลจากญี่ปุ่น ทั้งโตโยต้าและฮอนด้า แม้จะเป็นผู้นำด้านรถไฮบริดที่ใช้เครื่องยนต์ขับเคลื่อนร่วมกับแบตเตอรี่มายาวนาน แต่กับรถพลังงานไฟฟ้าล้วน ไม่รู้ว่าจะเริ่มเอาเข้ามาทำตลาดจริงจริงในบ้านเราเมื่อไหร่ ส่วนที่เริ่มขยับตัวอีกค่ายคือมาสด้าครับ ที่เพิ่งจะนำรถยนต์ไฟฟ้า MAZDA MX-30 มาโชว์ในงานแถลงนโยบาย
ย้อนกลับมาถึงคำถามที่ว่า ควรซื้อ EV รุ่นไหนดี มุมมองส่วนตัวของผมเล็งไปที่ 2 รุ่นครับ รุ่นแรก คือถ้าจะซื้อเพื่อเน้นความประหยัดไปเลย และก็ใช้งานได้คุ้มค่าผมมองไปที่ NEW MG EP ราคาเริ่มต้นไม่ถึง 8 แสนบาท ราคาซื้อถือว่าดึงดูดใจมาก ที่สำคัญเป็นไฟฟ้าล้วน น่าใช้มากในยุคที่เบนซินแตะลิตรละ 40 บาท
ส่วนรุ่นที่สอง คือ นิสสัน KICKS e-POWER ราคาเริ่มต้น 899,000 บาท แม้รุ่นนี้ยังเถียงกันไม่จบว่ามันคือ EV หรือไฮบริดกันแน่ เพราะมีเครื่องยนต์! แต่ผมขออนุญาตยึดตามที่ค่ายรถโปรโมตเอาไว้แล้วกันครับ ว่าเป็นรถขับเคลื่อนไฟฟ้าร้อยเปอร์เซ็นต์ และเครื่องยนต์ที่มีก็เอาไว้ปั่นไฟเท่านั้น
ที่ผมแนะนำรุ่นนี้ก็เพราะว่าในยุคเปลี่ยนผ่านจากเครื่องสันดาปไปไฟฟ้าล้วน สถานีชาร์จไฟอาจจะเป็นปัญหา ฉะนั้นมันคือการตัดปัญหาเรื่องการชาร์จ คุณไม่ต้องเสียบปลั๊กชาร์จใด ๆ ขับเข้าปั๊มเติมน้ำมันตามปกติ ซึ่งเท่าที่ได้ลองขับมาแล้ว อัตราเร่งที่ดีมากครับ ไม่ว่าจะเป็น 0-100 หรือ 80-120 ดีกว่ารถทุกรุ่นในระดับเดียวกัน
ส่วนราคาค่าน้ำมัน แม้นิสสันจะลงข้อมูลในอีโคสติกเกอร์ว่ากินน้ำมัน (ใช้ในการปั่นไฟ) อยู่ที่ 23 กิโลเมตร/ลิตร แต่ตัวเลขจาการใช้งานจริงอยู่ที่ราว 17-18 กิโลเมตร/ลิตร ซึ่งก็พอ ๆ กับการใช้งานรถอีโคคาร์ แต่เป็นอีโคคาร์ที่ปรู๊ดปร๊าด หมดปัญหาเวลาขับขึ้นเขาแน่ ๆ นอน
สุดท้ายผมเชื่อว่ากระแส EV บ้านเราเริ่มมาแล้ว และกำลังรอวันที่ค่ายรถญี่ปุ่นลงมาเล่นในตลาดนี้แบบเต็มตัวครับ