เปิดตัว BMW i7 xDrive60 ใหม่ ขุมพลังไฟฟ้า 544 แรงม้า วิ่งไกล 625 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง

     All-new BMW 7 Series 2023 ใหม่ รหัสตัวถัง G70 ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว พร้อมส่งเวอร์ชันไฟฟ้าล้วน i7 xDrive60 เป็นครั้งแรก พ่วงมอเตอร์ไฟฟ้า 544 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 745 นิวตัน-เมตร และแบตเตอรี่วิ่งไกลสูงสุด 625 กิโลเมตร ขณะที่เครื่องยนต์สันดาปและปลั๊กอินไฮบริดยังคงมีให้เลือกเช่นเคย

     BMW 7 Series 2023 ใหม่ รถยนต์หรูระดับแฟลกชิปโฉมใหม่ล่าสุดถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว ประเดิมด้วย 3 รหัส ประกอบด้วย 760i xDrive, M760e xDrive และเพิ่มทางเลือกด้วยขุมพลังไฟฟ้าล้วนภายใต้รหัส i7 xDrive60 ตั้งเป้าท้าชนคู่แข่งอย่าง Mercedes-Benz EQS Saloon โดยเฉพาะ

     ดีไซน์ด้านหน้าของ BMW 7 Series รหัส G70 ใหม่ ถูกออกแบบให้มีลักษณะคล้ายกับ X7 LCI ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ ด้วยดีไซน์ไฟหน้าแบบสองชั้นที่บีเอ็มดับเบิลยูระบุว่าถูกสงวนไว้ใช้สำหรับโมเดลระดับหรูเท่านั้น โดยไฟส่องสว่างด้านบนมีลักษณะเป็นแบบคริสตัล Iconic Glow พร้อมกระจังหน้าทรงไตคู่ขนาดใหญ่ล้อมด้วยกรอบเรืองแสง เส้นสายตัวถังด้านข้างเน้นความเหลี่ยมสันมากยิ่งขึ้น ขณะที่ไฟท้ายถูกออกแบบให้มีลักษณะแยกทั้งสองฝั่งออกจากกัน ต่างจากที่พบในโฉมก่อนหน้านี้

     นอกจากนี้ BMW 7 Series ใหม่ จะมีให้เลือกเฉพาะตัวถังแบบฐานล้อยาว (Long-wheelbase) เท่านั้น เพื่อให้ผู้โดยสารตอนหลังได้รับความสะดวกสบายสูงสุด โดยฐานล้อมีความยาวทั้งสิ้น 3,215 มิลลิเมตร พร้อมช่วงล่างถุงลมไฟฟ้า Two-axle air suspension ที่มีระบบ Adaptive Suspension เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน รวมถึงระบบเลี้ยวล้อหลัง Integral Active Steering และระบบช่วยลดอาการโคลงของตัวรถแบบแอคทีฟอีกด้วย

     ภายในห้องโดยสารเสริมความล้ำสมัยด้วยระบบ BMW iDrive ที่ทำงานคู่กับระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 8 เวอร์ชันล่าสุด รองรับการเชื่อมต่อระบบ 5G และ Personal eSIM สามารถแสดงคอนเทนท์ออนไลน์จาก YouTube ได้ ติดตั้งหน้าจอ BMW Curved Display ขนาดใหญ่ที่เชื่อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่และจออินโฟเทนเมนท์เข้าไว้ด้วยกัน เสริมด้วย BMW Interaction Bar ที่สามารถใช้เป็นไฟเรืองแสงภายในห้องโดยสารและช่องแอร์ที่ถูกซ่อนไว้อย่างแนบเนียน

     ห้องโดยสารตอนหลังของ BMW 7 Series ใหม่ สามารถเลือกออปชันเป็น Executive Lounge ที่มาพร้อมเบาะนั่งหุ้มหนัง Merino สลับ Cashmere Wool และฟังก์ชันเอนเบาะที่ได้รับการปรับปรุงเป็นพิเศษ เสริมด้วยหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิก Sky Lounge ตกแต่งด้วยไฟ LED เพื่อสร้างบรรยากาศ อีกทั้งยังสามารถติดตั้งหน้าจอ BMW Theatre Screen ขนาดใหญ่ถึง 31 นิ้ว แสดงผลแบบ 32:9 ให้ความคมชัดระดับ 8K รองรับการสั่งงานผ่านหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว บริเวณแผงประตูได้อย่างสะดวกสบาย

     ด้านขุมพลังของ BMW ซีรี่ย์ 7 ใหม่ จะมีให้เลือกทั้งสันดาปล้วน, ปลั๊กอินไฮบริด และมอเตอร์ไฟฟ้าล้วน ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละประเทศ โดยมีไฮไลต์เด่นอยู่ที่รุ่น i7 xDrive60 ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า BMW eDrive เจเนอเรชันที่ 5 ทำงานด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 2 ตัว ให้กำลังสูงสุด 544 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 745 นิวตัน-เมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.7 วินาที และจำกัดความเร็วสูงสุดไว้ที่ 240 กม./ชม. พร้อมแบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไอออนความจุ 101.7 kW (Net) สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทาง 590 - 625 กิโลเมตรต่อการชาร์จแต่ละครั้ง รองรับการชาร์จด่วนจากระดับ 10-80% ในเวลา 34 นาที

     นอกจากนี้ BMW ยังเตรียมเปิดตัว BMW i7 M70 xDrive ซึ่งเป็นโมเดลระดับแฟลกชิปในตระกูล BMW M ที่มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 2 ตัวเช่นกัน แต่รีดกำลังสูงสุดได้มากกว่า 600 แรงม้า แรงบิดสูงสุดมากกว่า 1,000 นิวตัน-เมตร ซึ่งถือเป็นรถโปรดักชันสำหรับใช้งานบนท้องถนนที่มีพละกำลังมากที่สุดของบีเอ็มดับเบิลยู ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 4.0 วินาทีเท่านั้น

     ส่วนกำหนดการเปิดตัวในประเทศไทยจะถูกประกาศอีกครั้ง