5 สิ่งควรเช็กก่อนเข้าฤดูฝน มีอะไรบ้าง?
ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่ช่วงฤดูฝนในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งการเตรียมรถให้พร้อมสำหรับช่วงฤดูฝนจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ไม่ว่าจะเดินทางใกล้หรือไกลก็ตาม Sanook Auto จึงขอแนะนำ 5 สิ่งที่ควรเช็กก่อนเข้าฤดูฝน มีอะไรบ้างไปดูกันเลย
1.สภาพยางรถยนต์
สภาพถนนที่เปียกลื่นและมีน้ำท่วมขังจะทำให้รถเสียหลักและเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายกว่าปกติ ยางรถยนต์จึงถือเป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดในช่วงฤดูฝน ควรตรวจสอบว่ายางทั้ง 4 เส้นยังคงมีดอกยางเหลือมากกว่า 3 มิลลิเมตรเป็นอย่างน้อย เพื่อคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพการรีดน้ำ ช่วยป้องกันอาการเหินน้ำ หรือ Hydroplaning ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้รถเสียหลักประสบอุบัติเหตุมานับไม่ถ้วน
นอกจากนี้ เจ้าของรถยังควรหมั่นเติมลมยางให้ได้แรงดันตามที่ผู้ผลิตกำหนด โดยสามารถตรวจสอบระดับลมยางที่เหมาะสมในรถแต่ละคันได้จากสติกเกอร์ที่ติดไว้บริเวณเสาประตูฝั่งผู้ขับขี่
2.สภาพใบปัดน้ำฝน
ใบปัดน้ำฝนที่ดีจะต้องปัดสะอาดตั้งแต่ครั้งแรก ไม่มีคราบน้ำหลงเหลืออยู่ หากพบว่าใบปัดน้ำฝนเริ่มเสื่อมสภาพควรรีบเปลี่ยนใหม่ทันที ซึ่งปัจจุบันสามารถหาซื้อเปลี่ยนได้เองได้หลากหลายช่องทาง มีราคาตั้งแต่หลักสิบไปจนถึงหลักร้อยบาทเท่านั้น แต่แนะนำว่าควรเลือกก้านปัดให้มีขนาดเท่าเดิมเช่นเดียวกับที่ติดตั้งมาจากโรงงาน ไม่ควรเลือกที่มีขนาดสั้นหรือยาวจนเกินกว่าที่กำหนด มิเช่นนั้นแล้วอาจส่งผลกระทบต่อทัศนวิสัยได้
3.ตรวจเช็กระบบเบรก
รู้หรือไม่ว่าการเบรกกะทันบนถนนลื่นจำเป็นต้องใช้ระยะเบรกมากกว่าบนถนนแห้ง จึงควรตรวจเช็กระบบเบรกให้มีสภาพดีอยู่เสมอ หากได้ยินเสียง “เอี๊ยด” ดังขึ้นในขณะเหยียบเบรก แสดงว่าผ้าเบรกเริ่มใกล้หมดแล้ว รวมถึงกรณีเหยียบเบรกแล้วรถมีอาการสั่น ก็อาจเกิดจากปัญหาจานเบรกคดได้เช่นกัน ควรรีบนำรถเข้ารับการแก้ไขด้วยการเปลี่ยนผ้าเบรกควบคู่ไปกับการเจียรจานเบรก (หรือหากจานเบรกบางเกินไป ไม่สามารถเจียรได้ ก็แสดงว่าต้องเปลี่ยนจานเบรกควบคู่กันไปด้วย)
นอกจากนี้ กรณีรถยนต์มีระบบป้องกันล้อล็อก หรือ ABS (Anti-lock Brake System) ก็ควรตรวจสอบว่าระบบยังคงทำงานดีอยู่ เนื่องจากระบบ ABS จะช่วยป้องกันไม่ให้ล้อล็อกตายขณะเหยียบเบรกเต็มแรง ผู้ขับขี่จึงสามารถหักหลบสิ่งกีดขวางเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะได้ โดยวิธีการเช็กง่ายๆ คือ จะต้องไม่มีสัญญาณไฟเตือนระบบ ABS แสดงขึ้นบนหน้าปัด แต่หากยังไม่มั่นใจนัก ให้ลองหาถนนโล่งๆ ใช้ความเร็วประมาณ 30 กม./ชม. จากนั้นเหยียบเบรกแบบเต็มแรง หากพบว่ามีแรงสะท้านเป็นจังหวะจากแป้นเบรก แสดงว่าระบบ ABS ยังคงใช้งานได้ดี
4.ระบบไฟส่องสว่างรอบคัน
ควรตรวจเช็กระบบไฟส่องสว่างรอบคัน ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า, ไฟท้าย, ไฟตัดหมอก, ไฟถอยหลัง และไฟเลี้ยวทุกตำแหน่ง จะต้องส่องสว่างได้ตามปกติ หากพบว่าหลอดใดหลอดหนึ่งเสียควรรีบเปลี่ยนใหม่ทันที
ไม่เพียงเท่านี้ การขับขี่ในขณะฝนตกควรเปิดไฟหน้าทุกครั้งแม้ว่าจะเป็นช่วงเวลากลางวันก็ตาม เพื่อช่วยให้รถคันอื่นสามารถมองเห็นตำแหน่งรถของคุณได้ง่ายขึ้น และหลีกเลี่ยงการเปิดไฟฉุกเฉินหากไม่มีความจำเป็นจริงๆ เพราะอาจทำให้รถคันอื่นเกิดความสับสนได้
5.พกสิ่งของที่จำเป็นช่วงหน้าฝน
การเตรียมสิ่งของที่จำเป็นในช่วงหน้าฝนจะช่วยให้ขับรถได้อย่างอุ่นใจมากยิ่งขึ้น โดยอุปกรณ์ที่ควรเตรียมยกตัวอย่างเช่น ร่ม, เสื้อกันฝน, กระดาษทิชชู่, สายลากจูง, สายพ่วงแบตเตอรี่, ป้ายสามเหลี่ยมสะท้อนแสง เป็นต้น
เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้การขับขี่ในช่วงฤดูฝนปลอดภัยขึ้นแล้วล่ะครับ