All-new Ford Everest รุ่น Titanium+ 4x2 ใหม่ ตัวรองท็อปขับสองล้อ ราคา 1,704,000 บาท
All-new Ford Everest 2022 เพิ่มรุ่นย่อย Titanium+ 4x2 ใหม่ ตัวรองท็อปขับสอง พร้อมเครื่องยนต์ดีเซล Bi-Turbo 2.0 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด เคาะราคา 1,704,000 บาท
Ford Everest รุ่น 2.0L Bi-Turbo Titanium+ 4x2 10AT ใหม่ ถูกวางตำแหน่งไว้อยู่ระหว่างรุ่น Sport และ Titanium 4x4 ในปัจจุบัน ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร Bi-Turbo กำลัังสูงสุด 210 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังไปยังล้อคู่หลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมโหมดการขับขี่เลือกได้ 4 รูปแบบ ประกอบด้วย Normal, Eco, Tow/Haul และ Sippery
อุปกรณ์มาตรฐานภายนอกของ Ford Everest รุ่น Titanium+ 4x2 ประกอบด้วย ไฟหน้าแบบ LED Reflector เปิด-ปิดอัตโนมัติ, ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน C-Clamp LED, ไฟตัดหมอกหน้า LED, ไฟท้าย LED Signature, ไฟส่องสว่างข้างตัวรถ (Puddle Lamps), กระจกมองข้างปรับ-พับด้วยไฟฟ้า, ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ, หลังคา Panoramic Moonroof, ระบบเปิด-ปิดประตูท้ายไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี (Hand-Free Power Liftgate), ราวหลังคาโครเมียม, บันไดข้างสีดำพร้อมชุดแต่งสีเงิน, มือเปิดประตูภายนอกและกระจกมองข้างโครเมียม และล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารติดตั้งเบาะนั่งหุ้มหนังสลับหนังสังเคราะห์สีดำ พร้อมระบบปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางคู่หน้า, เบาะนั่งแถวที่ 3 ปรับพับด้วยไฟฟ้า, หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสีขนาด 12.4 นิ้ว, ระบบเปิด-ปิดกระจกหน้าต่างแบบสัมผัสเดียวทั้ง 4 บาน, กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติพร้อมช่อง USB (สำหรับเสียบกล้องบันทึกภาพหน้ารถ), ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา, ระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง พร้อมสวิตช์ควบคุม, ช่องจ่ายไฟ 230V (400 วัตต์), แท่นชาร์จไร้สาย และไฟตกแต่งภายในห้องโดยสาร (Ambient Lighting) เป็นต้น
ในรุ่น Titanium+ 4x2 ติดตั้งหน้าจออินโฟเทนเมนท์แบบ Multi-Touch ขนาด 12 นิ้ว ระบบ SYNC 4A ภาษาไทยพร้อมการเชื่อมต่อ Bluetooth รองรับการเชื่อมต่อ Wireless Apple CarPlay และ Android Auto, ระบบ FordPass Connect, ช่องต่อ USB 4 ตำแหน่ง (ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง และบริเวณเบาะแถวสอง 2 ตำแหน่ง), กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา (360 Degree Camera) และลำโพง 8 ตำแหน่ง
ด้านระบบความปลอดภัยมีการติดตั้งเทคโนโลยีช่วยการขับขี่ขั้นสูง (Advanced Driver Assist Technology) ประกอบด้วย
- ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ Adaptive Cruise Control with Stop-and-Go and Lane Centering
- ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ Auto High-Beam Headlamps
- ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติพร้อมตรวจจับเดินถนน Automatic Emergency Braking with Pedestrian Detection
- ระบบเตือนการชนด้านหน้า Forward Collision Warning with Brake Support
- ระบบช่วยควบคุมรถหลังจากชน Post-Impact Braking
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง Lane Keeping System
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง Lane Departure Warning
- ระบบตรวจจับรถในจุดบอดและตรวจจับขณะออกจากช่องจอด Blind Spot Information System with Cross-Traffic Alert and Braking
- กล้องมองรอบคัน 360 องศา 360 Degree Camera
- ระบบป้องกันการชนเมื่อถอยหลัง Reverse Brake Assist
- ระบบช่วยหักพวงมาลัยเพื่อเลี่ยงการปะทะ Evasive Steer Assist
- ระบบตรวจเช็กลมยาง Tire Pressure Monitoring System
ขณะที่ระบบความปลอดภัยมาตรฐานอื่นๆ ของรุ่น Titanium+ 4x2 ประกอบด้วย ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Traction Control System พร้อม Electric Brake Booster, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HLA, ระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ ROM, กล้องมองหลังขณะถอยจอด (Rear View Camera), สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้าและหลัง, ระบบช่วยโทรฉุกเฉิน (Emergency Assistance) และถุงลมนิรภัย 7 จุด (คู่หน้า/ด้านข้าง/ม่านถุงลมนิรภัย/ถุงลมนิรภัยหัวเข่า) เป็นต้น
ราคาจำหน่าย Ford Everest 2.0L Bi-Turbo Titanium+ 4x2 ใหม่ อยู่ที่ 1,704,000 บาท
ราคาจำหน่าย All-new Ford Everest 2022 ใหม่
- รุ่น Trend ราคา 1,334,000 บาท
- รุ่น Sport ราคา 1,464,000 บาท
- รุ่น Titanium+ 4x2 ราคา 1,704,000 บาท
- รุ่น Titanium+ 4x4 ราคา 1,854,000 บาท
อัลบั้มภาพ 14 ภาพ