ย้ำ! นั่งเบาะหลังไม่คาดเข็มขัดนิรภัยปรับไม่เกิน 2,000 บาท มีผล 5 ก.ย. นี้

ย้ำ! นั่งเบาะหลังไม่คาดเข็มขัดนิรภัยปรับไม่เกิน 2,000 บาท มีผล 5 ก.ย. นี้

ย้ำ! นั่งเบาะหลังไม่คาดเข็มขัดนิรภัยปรับไม่เกิน 2,000 บาท มีผล 5 ก.ย. นี้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     ย้ำเตือน ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศ พ.ร.บ. จราจรทางบก (ฉบับที่ 13) กำหนดให้ผู้โดยสารเบาะหลังต้องคาดเข็มขัดนิรภัยตลอดเวลาที่โดยสาร หากฝ่าฝืนมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท มีผลบังคับใช้ 5 กันยายน 2565 ที่จะถึงนี้

     เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ พ.ร.บ. จราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565 เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยมีใจความสำคัญเกี่ยวกับการกำหนดความปลอดภัยสำหรับเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ที่ผู้ปกครองจะต้องจัดให้มีที่นั่งนิรภัย (คาร์ซีท) ตลอดระยะเวลาที่นั่งโดยสาร เพื่อป้องกันอันตรายจากกรณีประสบอุบัติเหตุ โดยมีใจความสำคัญตามมาตรา 123 ภายใต้บังคับมาตรา 123/1 ในขณะขับรถยนต์ผู้ที่อยู่ในรถยนต์ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังต่อไปนี้

     1. ผู้ขับขี่ ต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่งตลอดเวลาในขณะขับรถยนต์

     2. คนโดยสาร:-

     (ก) คนโดยสารที่นั่งแถวตอนหน้าและที่นั่งแถวตอนอื่น ต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัย ไว้กับที่นั่งตลอดเวลาในขณะโดยสารรถยนต์

     (ข) คนโดยสารที่เป็นเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ต้องจัดให้นั่งในที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก หรือนั่งในที่นั่งพิเศษสำหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตราย หรือมีวิธีการป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ

     (ค) คนโดยสารที่มีความสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร ต้องรัดร่างกายด้วย เข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่ง หรือมีวิธีการป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะนั่งแถวตอนใด

     ใจความสำคัญอีกหนึ่งประเด็นที่กำหนดไว้ คือ มาตรา 123 ภายใต้บังคับมาตรา 123/1 ในขณะขับรถยนต์ ผู้ที่อยู่ในรถยนต์ทั้งผู้ขับขี่ และผู้โดยสารที่นั่งแถวตอนหน้าและที่นั่งแถวตอนอื่น จะต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยตลอดเวลาที่โดยสารรถยนต์ เว้นแต่มีเหตุผลด้านสุขภาพอันไม่สามารถรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่งได้ หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามจะต้องถูกระวางโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท

     ทั้งนี้ กฎหมายดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้หลังจาก 120 วัน นับจากวันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา หรือตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน 2565 นี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook