All-new Ford Mustang 2024 เจเนอเรชันที่ 7 เผยโฉมอย่างเป็นทางการในสหรัฐฯ

     All-new Ford Mustang 2024 ใหม่ ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในโลกที่สหรัฐอเมริกา พร้อมขุมเทอร์โบ 2.3 ลิตร EcoBoost และ Coyote V8 5.0 ลิตร แรงสุดเท่าที่เคยมีมา เสริมด้วยฟังก์ชันเร่งเครื่องยนต์ด้วยรีโมท Remote Rev และระบบช่วยดริฟต์ Electronic Drift Brake

    ฟอร์ด มัสแตง 2024 ใหม่ ถูกพัฒนาต่อเนื่องมาเป็นเจเนอเรชันที่ 7 แล้ว และยังได้ชื่อว่าเป็นรถสปอร์ตคูเป้ขายดีที่สุดในโลกตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมาอีกด้วย โดยยังคงมีให้เลือกทั้งตัวถังแบบ Coupe และ Convertible พร้อมขุมพลังที่มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ V8 หรือ 4 สูบเทอร์โบ พร้อมทั้งยังคงมีเกียร์ธรรมดาสำหรับแฟนมัสแตงที่ชื่นชอบการเปลี่ยนเกียร์ด้วยตัวเอง

    ดีไซน์ภายนอกของ All-new Ford Mustang ใหม่ ถูกออกแบบให้มีกลิ่นอายของมัสแตงรุ่นดั้งเดิมในอดีต มาพร้อมไฟหน้าแบบ Tri-Bar LED รับกับกระจังหน้าที่ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากมัสแตงยุคปี 1960 ขณะที่ด้านท้ายถูกออกแบบให้มีโอเวอร์แฮงก์สั้นเพื่อสะท้อนถึงสัดส่วนในแบบรถสปอร์ตแท้ๆ ของมัสแตงรุ่นแรก เสริมด้วยไฟท้ายแบบ Tri-bar ดีไซน์เอกลักษณ์ประจำรุ่น และดิฟฟิวเซอร์บริเวณกันชนเพื่อช่วยปรับปรุงแอโรไดนามิกให้ดียิ่งขึ้น

    ในรุ่น Mustang GT ขุมพลัง V8 5.0 ลิตร มีการออกแบบให้ต่างไปจากรุ่น EcoBoost 2.3 ลิตร ด้วยกระจังหน้าที่มีขนาดใหญ่กว่า เพิ่มช่องดักลมเหนือฝากระโปรงหน้า เสริมด้วยสเกิร์ตหน้าดีไซน์เฉพาะรุ่น GT ขณะที่รุ่น Convertible ถูกติดตั้งหลังคาผ้าที่สามารถเปิด-ปิดได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังออกแบบชุดกลไลหลังคาให้มีขนาดเล็ก จึงมีพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายมากที่สุดในรถระดับเดียวกัน โดยฟอร์ดระบุว่าสามารถเก็บถุงกอล์ฟได้ถึง 2 ใบ

    ภายในห้องโดยสารได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากห้องนักบินของเครื่องบินเจ็ต โดดเด่นด้วยหน้าจอโค้งที่เชื่อมจอแสดงผลจำนวน 2 จอเข้าไว้ด้วยกัน (เป็นออปชันเสริม) โดยหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 12.4 นิ้ว สามารถปรับการแสดงผลได้อย่างหลากหลายขึ้นอยู่กับโหมดการขับขี่ ทั้งยังมีการใช้เทคโนโลยี Unreal Engine 3D เพื่อให้สามารถแสดงภาพเคลื่อนไหวราวกับวิดีโอเกม

    ส่วนหน้าจอระบบอินโฟเทนเมนท์ SYNC 4 มีขนาด 13.2 นิ้ว สามารถรองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมด้วยระบบ Amazon Alexa Built-In ที่ทำงานคู่กับ Ford Streaming สามารถรองรับคำสั่งเสียงเพื่อการเล่นเพลงและพอดคาสต์ได้อย่างสะดวก โดยลูกค้าสามารถเลือกออปชันเสริมเป็นเครื่องเสียง B&O Sound System และที่ชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สายได้ รวมถึงมีระบบอัปเดตซอฟต์แวร์ไร้สาย Ford Power-Up มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

    เบาะนั่งภายในห้องโดยสารของ All-new Ford Mustang ติดตั้งเบาะผ้าเป็นมาตรฐาน สามารถเลือกตกแต่งด้วยวัสดุ Micro Suede และสายเข็มขัดนิรภัยสีดำได้ ขณะที่รุ่น Premium ถูกตกแต่งเพิ่มเติมด้วยตะเข็บทั่วทั้งแผงคอนโซลและแผงประตู โดยที่รุ่น EcoBoost จะได้แผงคอนโซลหุ้มหนังสังเคราะห์แบบ “Active X” ขณะที่รุ่น GT จะได้เบาะนั่งตกแต่งด้วยวัสดุหนังเพิ่มขึ้นมา โดยทุกรุ่นจะได้พวงมาลัยแบบท้ายตัดที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรถแข่ง ซึ่งฟอร์ดระบุว่าจะช่วยเพิ่มพื้นที่ขณะนั่งโดยสารได้

    ด้านขุมพลังของ Mustang GT จะถูกติดตั้งเครื่องยนต์ Coyote V8 ขนาด 5.0 ลิตร ที่มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ ส่วนลูกค้าที่ต้องการเน้นความประหยัดเชื้อเพลิงสามารถเลือกรุ่น EcoBoost ที่มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบขนาด 2.3 ลิตรได้ โดยทั้งคู่สามารถเลือกออปชันเสริมเป็น Performance Pack ที่ประกอบด้วยค้ำโช้ก Tower Brace, ระบบลิมิเต็ดสลิปแบบ Torsen และยังสามารถเลือกช่วงล่างแบบแอคทีฟ MagnaRide, ระบบท่อไอเสียแบบแอคทีฟ, เบาะ Recaro และจานเบรก Brembo ด้านหน้าขนาด 390 มม. ด้านหลังขนาด 355 มม. เพิ่มเติมได้

    นอกจากนี้ ฟอร์ด มัสแตง ใหม่ ยังมีการติดตั้งระบบ Electronic Drift Brake ที่มาพร้อมก้านลักษณะคล้ายกับเบรกมือปกติ เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถดริฟต์รถได้ง่ายขึ้น ทั้งยังมีระบบ Performance Electronic Parking Brake เป็นหนึ่งในออปชันของ Performance Pack ซึ่งฟอร์ดระบุว่าจะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถฝึกฝึนทักษะการดริฟต์ ขณะที่ผู้ขับขี่มือโปรก็ยังสามารถดริฟต์ได้อย่างสะดวกและง่ายดายอีกด้วย

    สำหรับ All-new Ford Mustang 2024 ใหม่ จะเริ่มวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาช่วงฤดูร้อนปีหน้าเป็นต้นไป โดยจะถูกผลิตขึ้นที่โรงงาน Flat Rock Assembly Plant ตั้งอยู่ในรัฐมิชิแกน