แนะนำรถลุยน้ำท่วม ที่ไม่ใช่รถกระบะ
ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าคนที่ขับรถในโซนกทม. รวมถึงในบางจังหวัด ต้องเผชิญกับสถานการณ์น้ำท่วมแบบวันเว้นวัน เรียกได้ว่า “ตกเป็นท่วม!” ก็คงจะไม่ผิดนักครับ นั่นทำให้ผมฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า แบบนี้เราควรใช้รถแบบไหนดีที่ลุยน้ำท่วมได้และใช้งานในชีวิตประจำวันได้ด้วย
หากไล่ดูรถใหม่ป้ายแดงที่จอดในโชว์รูมแต่ละยี่ห้อปรากฏว่า “รถกระบะ” คือกลุ่มรถที่มีความสูงมากที่สุดในบรรดารถทุกชนิด (ไม่นับรถบรรทุกนะครับ ฮา ๆ) โดยเฉพาะกระบะยกสูงยุคนี้ บอกเลยว่าสวยดุกันทุกยี่ห้อ และมีราคาให้เลือกตั้งแต่หลักแสนปลาย ๆ ไปจนถึงหลัก 1 ล้านบาทปลาย ๆ ในบางยี่ห้อ
กลุ่มรถกระบะมีความสูงจากพื้นถนนราว 21-28 เซนติเมตร เฉลี่ยแล้วจะลุยน้ำได้ลึกไม่เกิน 80 เซนติเมตร ส่วนรถที่สูงรองลงมาก็คือรถกลุ่ม PPV ที่สูงเฉลี่ยจากพื้นราว 19-23 เซนติเมตร พอจะลุยน้ำได้ที่ความลึก 60-70 เซนติเมตร ซึ่งหากใครใช้รถ 2 ประเภทนี้อยู่แล้ว เวลาเจอน้ำท่วมลึกโอกาสรอดมีสูงแน่นอนครับ
จริง ๆ แล้วยังมีรถในกลุ่ม Crossover และกลุ่ม SUV ซึ่งเป็นรถที่ยกสูงจากพื้นฐานรถเก๋งทั่วไป อาทิ โตโยต้า C-HR ฮอนด้า HR-V มาสด้า CX-3 รวมไปถึง บีเอ็มดับเบิลยู X1 รถกลุ่มนี้จะสูงเฉลี่ยจากพื้นราว 17-21 เซนติเมตร หากขับลุยน้ำท่วมลึกระดับ 40-50 เซนติเมตร ก็ยังพอไหวอยู่ครับ
ทีนี้ถ้ามองหารถที่ขับลุยน้ำท่วมได้และใช้งานในชีวิตประจำวันได้ด้วย เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ที่ขับรถเก๋งอยู่ จะให้เปลี่ยนมาขับกระบะ หรือ PPV คันยาวก็คงจะไม่สะดวกแน่นอน โดยเฉพาะความคล่องตัวในการเข้า-ออก และถอยเข้าจอดตามที่ต่าง ๆ ฉะนั้น หากมีรถยกสูง ขนาดพอเหมาะ ระดับราคาจับต้องได้ ก็คงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย
ซึ่งหากจะให้นึกถึงรถตามคุณสมบัติที่ผมว่ามานั้น ขออนุญาตใช้ความรู้สึกและความชอบส่วนตัวล้วน ๆ มายกตัวอย่างก็แล้วกันครับ ผมนึกถึงโมเดลรถจากยุค 90 หลาย ๆ รุ่น อาทิ มิตซูบิชิ Pajero รุ่น 3 ประตู ผมนึกถึง Jeep Wrangler โฉมคลาสสิค รวมไปถึง ซูซูกิ Caribian ที่ปัจจุบันก็ยังผลิตอยู่ในชื่อ Jimny
ทว่าปัจจุบันรถ 3 รุ่นที่ผมว่ามานั้นบางรุ่นไม่มีแล้ว ส่วนบางรุ่นยังมีแต่ไม่มีการนำเข้ามาทำตลาดในบ้านเราอย่างเป็นทางการ กลายเป็นรถนำเข้าราคาเกินล้านบาทที่เป็นแรร์ไอเทมกันไปแล้ว ทำให้ตัวเลือกในบ้านเราสำหรับรถใหม่ที่ไม่ใช่กระบะและ PPV ก็จะไปอยู่ในกลุ่ม Crossover และกลุ่ม SUV เท่านั้น
งานนี้ทำให้ผมลองคิดเล่น ๆ ว่า ในเมื่อธรรมชาติของถนนในบ้านเราที่ตกเป็นท่วมแบบนี้ หากมีค่ายรถเจ้าไหนที่นำรถในรูปแบบที่ผมยกตัวอย่างไปนั้นเข้ามาทำราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาทได้ล่ะก็ น่าสนใจแน่นอนครับ เพราะจะได้กลุ่มคนที่ต้องการใช้รถขับในชีวิตประจำวันด้วย รวมถึงยังตอบโจทย์กลุ่มคนที่อยากได้รถคันที่ 2 ไว้ขับลุยน้ำอีกด้วย
ก่อนหน้านี้ผมคิดว่ารถระดับ Crossover หากไม่ท่วมหนักจริง ๆ ก็น่าจะเพียงพอกับการสู้ศึกน้ำในกทม. ได้ แต่จากประสบการณ์ที่เผชิญเส้นทางน้ำท่วมในช่วง 2 สัปดาห์ล่าสุด บอกเลยว่ารถมันต้องสูงกว่านั้นครับ! ว่าแล้วก็เสียดายแทน ซูซูกิ Jimny ที่ไม่เข้ามาประกอบและทำตลาดในบ้านเราเสียจริง ๆ ครับ