ต้องรู้! หยุดรถบนทางด่วน “โดยไม่มีเหตุจำเป็น” ผิดกฎหมายปรับสูงสุด 1,000 บาท
จากกรณีที่มีคลิปวิดีโอจากผู้ใช้ TikTok ที่แสดงให้เห็นถึงบรรยากาศการทำงานถ่ายภาพระดับมืออาชีพ แต่กลับเลือกใช้สถานที่ถ่ายภาพเป็นไหล่ทางของทางด่วน จนกลายเป็นดราม่าที่ถูกพูดถึงในวงกว้างนั้น ทราบหรือไม่ว่าการหยุดรถบนทางด่วนโดยไม่มีเหตุอันควร ถือเป็นความผิดตามกฎหมายที่มีการบัญญัติโทษไว้อย่างชัดเจน
ระเบียบเกี่ยวกับการจราจรในทางพิเศษ พ.ศ. 2555 ข้อ 8 กำหนดว่า “ห้ามมิให้หยุดรถหรือจอดรถในทางพิเศษ เว้นแต่บริเวณที่มีป้ายอนุญาตให้จอดรถชั่วคราว หรือในกรณีที่รถขัดข้องหรือเกิดอุบัติเหตุ” หากผู้ใดฝ่าฝืนจะมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบดูแลในเขตพื้นที่สามารถจับกุมและออกใบสั่งได้ทันทีเมื่อพบเห็นการกระทำดังกล่าว
ส่วนกรณีที่รถเสียหรือประสบอุบัติเหตุจนไม่สามารถขับต่อไปได้นั้น ผู้ขับรถจำเป็นต้องแจ้งให้ศูนย์ควบคุมทางพิเศษทราบโดยทันที
ทั้งนี้ การห้ามมิให้ผู้ใดหยุดรถบนทางพิเศษโดยไม่มีเหตุอันควร เป็นไปเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ทางพิเศษทุกราย โดยปัจจุบันกฎกระทรวงกำหนดความเร็วสูงสุดบนทางพิเศษที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 22 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมานั้น ได้จำกัดความเร็วสูงสุดบนทางยกระดับไม่เกิน 100 กม./ชม. (เฉพาะรถยนต์ 4 ล้อ) และทางระดับดินไม่เกิน 110 กม./ชม. (เฉพาะรถยนต์ 4 ล้อ) ซึ่งการหยุดรถโดยไม่มีเหตุจำเป็นบนทางพิเศษอาจเป็นการกีดขวางจราจร และส่งผลให้เกิดอุบัติรุนแรงตามมาได้
นอกจากนี้ ผู้ใช้เว็บสนุกรายหนึ่งได้แสดงความคิดเห็นต่อข่าว “ทัวร์ลงยับ! ช่างภาพจอดรถบนทางด่วน ถ่ายรูปนางแบบกับรถ แถมถ่ายคลิปกระดกเบียร์โชว์” โดยระบุว่า การถ่ายภาพบนทางพิเศษสามารถทำได้แต่ต้องขออนุญาต โดยจะต้องทำหนังสือขออนุญาตกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (กรมทางหลวงและการทางพิเศษที่รับผิดชอบเส้นทางนั้นๆ) เป็นกรณีไป และจะต้องมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยอำนวยความสะดวก รวมถึงไม่อนุญาตให้นำเครื่องดื่มมึนเมาขึ้นบนทางพิเศษโดดเด็ดขาด
>> ทัวร์ลงยับ! ช่างภาพจอดรถบนทางด่วน ถ่ายรูปนางแบบกับรถ แถมถ่ายคลิปกระดกเบียร์โชว์
สนับสนุนเนื้อหา
