ทำไมเกียร์ออโต้เข้าเกียร์ N ปล่อยไหล จึงกินน้ำมันมากกว่า?
ยังมีคนใช้รถจำนวนไม่น้อยที่มีความเชื่อผิดๆ ว่าการขับรถไหลลงเนินหรือชะลอเบรกด้วยเกียร์ N (เกียร์ว่าง) จะช่วยลดการกินน้ำมันลงได้ แต่แท้จริงแล้วนอกจากจะไม่ช่วยประหยัดน้ำมัน ยังเป็นการเพิ่มความเสี่ยงทำเกียร์พังไวขึ้นอีกด้วย
โดยปกติแล้วการใช้งานเกียร์อัตโนมัติที่ถูกต้อง ผู้ขับขี่จะสามารถเข้าเกียร์ N ได้ต่อเนื่องรถหยุดนิ่งสนิทแล้วเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงยังมีผู้ใช้รถจำนวนไม่น้อยที่ผลักเกียร์ไปยังตำแหน่ง N ขณะปล่อยไหลไปติดไฟแดง หรือขณะขับรถเนินเขา โดยเข้าใจว่าจะเป็นการตัดการจ่ายน้ำมัน ช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองลงได้ ซึ่งความจริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น
เนื่องจากขณะที่ผู้ขับขี่ปล่อยเท้าออกจากคันเร่ง กล่องอีซียูในรถยนต์สมัยใหม่จะสั่งตัดการจ่ายน้ำมันลงชั่วคราว โดยอาศัยแรงเฉื่อยจากล้อเพื่อใช้ในการหมุนของเครื่องยนต์ ก่อนจะเริ่มจ่ายน้ำมันอีกครั้งเมื่อรถใกล้หยุด (สังเกตได้จากอัตราสิ้นเปลืองแบบ Real-time บนหน้าจอจะแสดงตัวเลข 0.0 km/l และจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นอีกครั้งเมื่อความเร็วลดลงจนใกล้หยุดนิ่ง) จากนั้นกล่องอีซียูจะสั่งจ่ายน้ำมันเพื่อให้เครื่องยนต์อยู่ในรอบเดินเบา พร้อมที่จะขับเคลื่อนต่อไป
ทีนี้เมื่อผู้ขับขี่ผลักเกียร์ไปยังตำแหน่ง N (เกียร์ว่าง) ก็จะเป็นการตัดกำลังจากชุดเพลากลับมายังเครื่องยนต์ กล่องอีซียูจึงจำเป็นต้องฉีดจ่ายน้ำมันเพื่อให้เครื่องยนต์อยู่ในรอบเดินเบา (พูดง่ายๆ คือ ไม่ให้เครื่องยนต์ดับนั่นเอง) จึงทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันโดยไม่จำเป็น ซึ่งนั่นยังไม่รวมว่าการใช้เกียร์ว่างขณะรถเคลื่อนที่ จะส่งผลให้ชุดเกียร์เกิดความร้อนสูงจนได้รับความเสียหายในระยะยาวได้
นอกจากนี้ การใช้เกียร์ว่างเพื่อลงเขายังถือเป็นการกระทำที่เสี่ยงอันตรายอย่างมาก เนื่องจากรถจะไหลลงเนินอย่างรวดเร็วโดยปราศจากแรงหน่วงของเครื่องยนต์ (Engine Brake) กลายเป็นว่าระบบเบรกจะเป็นตัวรับภาระในการชะลอความเร็วเพียงอย่างเดียว เมื่อระบบเบรกเกิดความร้อนสะสมสูง ก็จะทำให้เกิดอาการเบรกจม เบรกไม่อยู่ และเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรงตามที่ปรากฏบนหน้าข่าวอยู่บ่อยครั้ง
เห็นไหมครับว่าการขับรถเกียร์อัตโนมัติอย่างเหมาะสม ไม่มีความจำเป็นใดๆ เลยที่จะใช้เกียร์ว่างเพื่อปล่อยให้รถไหลไปตามแรงเฉื่อย เพราะนอกจากจะทำให้กินน้ำมันมากขึ้นแล้ว ยังส่งผลเสียต่อชุดเกียร์ แถมยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้อีกด้วย