ขายดี! Haval H6 PHEV เผยยอดจองทะลุ 1,200 คัน แม้เคาะราคาเฉียด 1.7 ล้านบาท
Haval H6 Plug-in Hybrid 2023 ใหม่ สามารถทำยอดจองพร้อมชำระเงินมัดจำได้มากกว่า 1,200 คัน ภายในระยะเวลาเพียง 24 ชั่วโมงหลังประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ พร้อมเผยสีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ สีขาว
เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย ประกาศยอดจองพร้อมชำระเงินมัดจำ Haval H6 Plug-in Hybrid ใหม่ รวมทั้งสิ้น 1,241 คัน ภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง นับตั้งแต่ประกาศราคาจำหน่ายเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา พร้อมเปิดเผยว่าสีตัวถังที่ได้รับความนิยมมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ สีขาว, สีเทา และสีดำ
นอกจากนี้ ลูกค้าที่จองและชำระเงินมัดจำภายใต้แคมเปญ Ultra Deal จำนวน 300 คันแรก จะได้รับส่วนลดพิเศษเพิ่มอีก 50,000 บาท ซึ่งเกรทวอลล์มอเตอร์ระบุว่าสามารถทำยอดดังกล่าวครบทั้งหมดภายใน 5 นาทีแรกเท่านั้น
ทั้งนี้ Haval H6 PHEV ใหม่ ประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการอยู่ที่ 1,699,000 บาท โดยมีให้เลือกเฉพาะรุ่นย่อย Ultra เท่านั้น ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุดรวม 326 แรงม้า แรงบิดสูงสุดรวม 530 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ DHT (Dedicated Hybrid Transmission) สำหรับเครื่องยนต์ไฮบริดโดยเฉพาะ สามารถเลือกระบบการขับขี่ได้ 2 รูปแบบ คือ ระบบไฮบริด และระบบไฟฟ้า โดยแต่ละระบบสามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ 4 โหมด คือ โหมดมาตรฐาน, โหมดสปอร์ต, โหมดประหยัด และโหมดสภาพถนนลื่น
แบตเตอรี่ไฮบริดของ Haval H6 PHEV เป็นแบบลิเธียม Ternary ความจุ 34 kWh สามารถขับขี่ในโหมดไฟฟ้าล้วนได้เป็นระยะทางสูงสุดถึง 201 กิโลเมตร (ภายใต้มาตรฐานการทดสอบ NEDC) รองรับการชาร์จด่วน (DC) จากระดับ 0 - 80% โดยใช้เวลาประมาณ 35 นาที ผ่านหัวชาร์จแบบ CCS Type 2 Combo รวมถึงสามารถชาร์จแบบปกติ (AC) จาก 0 - 100% ในเวลาประมาณ 6 ชั่วโมง
ดีไซน์ภายนอกของ Haval H6 Plug-in Hybrid ถูกออกแบบให้แตกต่างไปจาก H6 HEV รุ่นปัจจุบันด้วยการติดตั้งกระจังหน้าแบบ Star Matrix แตกต่างไปจากรุ่น H6 HEV พร้อมไฟหน้าแบบ Intelligent LED Headlamp ที่มีระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ, ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ และระบบส่องนำทางหลังดับเครื่องยนต์ (Follow me home) ติดตั้งไฟท้ายแบบ LED, หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิก, ระบบเปิด-ปิดประตูท้ายไฟฟ้าพร้อมระบบแฮนด์ฟรี และล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว พร้อมยางขนาด 235/55 R19
ภายในห้องโดยสารถูกตกแต่งด้วยวัสดุสี Rose Gold เน้นความมินิมอลและโมเดิร์นแบบ Futuristic ในเวลาเดียวกัน ติดตั้งหน้าจอกลาง HD Touch Screen Audio Display ขนาด 12.3 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay / Android Auto และรองรับการเชื่อมต่อแอปพลิเคชัน JOOX พร้อมระบบนำทาง Navigator ขณะที่หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่มีขนาด 10.25 นิ้ว แสดงผลด้วยความละเอียดระดับ HD พร้อมหน้าจอ Head Up Display แสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า
อุปกรณ์มาตรฐานภายในห้องโดยสารของ Haval H6 PHEV ยังประกอบไปด้วยเบาะนั่งผู้ขับขี่ปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมระบบดันหลังไฟฟ้า เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับตำแหน่งเบาะนั่งผู้โดยสารจากฝั่งคนขับ ทั้งคู่มีระบบระบายอากาศมาให้ เบาะนั่งตอนหลังสามารถปรับพับแยกแบบ 60:40 พร้อมที่วางแขน, ช่องแอร์หลัง และช่องชาร์จไฟ USB ติดตั้งระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกซ้าย-ขวา พร้อมกรองอากาศ PM2.5, ระบบชาร์จไฟไร้สาย Wireless Charger, เกียร์ไฟฟ้า Electronic Shifter, กุญแจ Smart Key พร้อมปุ่ม Push Start และไฟสร้างบรรยากาศ Ambient Lighting เป็นต้น
Haval H6 PHEV ถูกติดตั้งระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบความปลอดภัยประกอบด้วย
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ (Intelligent ACC)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA)
- ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ (IIP)
- ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (ARA)
- กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา
- ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก (AEBI)
- ระบบช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB)
- ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)
- ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK)
- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา (BSD)
- ระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการเกิดการชนซ้ำครั้งที่ 2 (SCM)
- ระบบช่วยลงทางลาดชัน (HDC)
- ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน (HSA)
- ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู (DOW)
- ระบบตรวจความดันลมยาง (TPMS)
- ระบบช่วยเตือนความเมื่อยล้าขณะขับขี่ (DFM)
ทั้งนี้ ลูกค้าที่สั่งจองภายหลังจากการประกาศราคาจำหน่าย จะได้รับแพ็กเกจ Premiere Deal มูลค่า 167,000 บาท ประกอบด้วย
- ดอกเบี้ยพิเศษ 1.89% นาน 48 เดือน เมื่อดาวน์ 25%
- ฟรี ประกันรถยนต์ชั้น 1 เป็นระยะเวลา 1 ปี มูลค่าสูงสุด 30,000 บาท
- ฟรี GWM โฮมชาร์จเจอร์ พร้อมการติดตั้งในระยะสายไฟยาวไม่เกิน 20 เมตร (จากตู้เมน) จำนวน 1 ครั้ง (ไม่รวมค่าแท่นชาร์จ) มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 60,000 บาท
- ฟรี น้ำมันรถยนต์ มูลค่ารวมสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท
- ฟรี แพ็คเกจค่าอะไหล่และค่าแรงบำรุงรักษาตามระยะทาง (GWM Pro Service Inclusive - GPSI) สูงสุด 10 ครั้ง ภายในระยะเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร รวมมูลค่า 37,000 บาท
- ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (Roadside Assistance) ตลอด 24 ชั่วโมง ฟรี 5 ปี มูลค่า 10,000 บาท
- ฟรี สิทธิ์ในการเรียกใช้บริการรับ (Pickup Service) หรือบริการส่งรถยนต์ (Delivery Service) เพื่อเข้ารับบริการบำรุงรักษาตามระยะทาง หรือบริการบำรุงรักษาตามระยะทางนอกสถานที่ (GWM mobile service) จำนวน 2 ครั้ง รวมมูลค่าสูงสุดไม่เกิน 1,500 บาท
- ฟรี กรอบป้ายทะเบียนและพรมปูพื้น GWM มูลค่ารวม 2,050 บาท
- ฟรี คะแนน GWM Point เพื่อใช้แลกสินค้าและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ใน GWM Application จำนวน 15,000 คะแนน
อัลบั้มภาพ 13 ภาพ