แนะวิธีโอนรถมือสองด้วยตัวเอง เพียงเตรียมเอกสาร 4 อย่างนี้
กรมการขนส่งทางบกแนะประชาชนที่ต้องการซื้อ-ขายรถยนต์มือสอง สามารถดำเนินการโอนรถด้วยตัวเองได้โดยไม่จำเป็นต้องโอนลอย ลดความเสี่ยงการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ เตรียมเอกสารเพียงแค่ 4 อย่างเท่านั้น และสามารถดำเนินการเสร็จเรียบร้อยภายใน 1 วัน
ปัจจุบันการซื้อขายรถยนต์มือสองสามารถทำได้ง่ายขึ้น ทั้งการซื้อขายผ่านแอปพลิเคชัน หรือการลงประกาศซื้อขายรถมือสองผ่านเพจโซเชียลมีเดียต่างๆ กรมการขนส่งจึงขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงวิธีการโอนลอย เนื่องจากอาจก่อให้เกิดปัญหาทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย เช่น ผู้ซื้อไม่นำรถไปต่อภาษีประจำปี, รถเกิดอุบัติเหตุ, นำรถไปกระทำผิดกฎหมาย ฯลฯ ซึ่งยังคงปรากฏชื่อเจ้าของเดิมในระบบทะเบียน สร้างความยุ่งยากเจ้าของรถรายเดิม
การซื้อขายรถยนต์มือสอง ผู้ซื้อและผู้ขายควรตรวจสอบแหล่งที่มาของรถก่อนตัดสินใจซื้อขายทุกครั้ง เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ และต้องตรวจสอบหลักญานทะเบียนรถให้ครบถ้วนเพื่อการซื้อขายที่ถูกต้อง โดยเฉพาะคู่มือฉบับจริงที่ระบุชื่อเจ้าของรถ, หมายเลขตัวถัง, เลขเครื่องยนต์ และสีรถ ถูกต้องกับรถคันที่จะซื้อทุกประการ รวมถึงตรวจสอบว่ามีการชำระภาษีรถยนต์ครบถ้วนถูกต้องทุกปี
ทั้งนี้ ผู้ซื้อและผู้ขายสามารถดำเนินการโอนรถได้ด้วยตัวเองที่สำนักงานขนส่ง โดยไม่จำเป็นต้องใช้วิธีโอนลอย โดยนำรถเข้ารับการตรวจสภาพและดำเนินการตามขั้นตอนโอนทางทะเบียนรถ ณ สำนักงานขนส่งที่รถจดทะเบียน
เอกสารหลักฐานที่ใช้ในการโอนรถปี 2565 - 2566 มีดังนี้
- ใบคู่มือจดทะเบียน หรือเล่มทะเบียนรถตัวจริง
- สำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของรถ
- สัญญาซื้อขาย / ใบเสร็จรับเงิน / ใบกำกับภาษี
- แบบคำขอและรับโอนที่ลงลายมือชื่อเรียบร้อย
หมายเหตุ: กรณีเป็นนิติบุคคลต้องใช้หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม
ปัจจุบันกรมการขนส่งทางบกมีการใช้ระบบฐานข้อมูล MDM (Master Data Management) สามารถตรวจสอบและแก้ไขเปลี่ยนแปลงชื่อผู้ครอบครองรถได้ในทันทีที่มีการแก้ไข อีกทั้งยังเชื่อมโยงออนไลน์พร้อมกันทั่วประเทศในทุกระบบงาน ดังนั้นชื่อผู้ครอบครองรถที่ปรากฏในระบบจึงตรงกับที่ระบุในเล่มทะเบียนรถเสมอ
อัลบั้มภาพ 4 ภาพ