ชมภาพ Toyota Prius PRIME 2023 ใหม่ ขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด 220 แรงม้าที่สหรัฐฯ
ชมภาพ Toyota Prius PRIME 2023 ใหม่ พร้อมขุมพลัง Plug-in Hybrid กำลังสูงสุด 220 แรงม้า ทำอัตราเร่ง 0 - 96 กม./ชม. ในเวลาเพียง 6.6 วินาที และแบตเตอรี่วิ่งไฟฟ้าไกลขึ้น 50%
All-new Toyota Prius PRIME ใหม่ เป็นอีกหนึ่งชื่อของ Prius Plug-in Hybrid สำหรับทำตลาดในทวีปอเมริกาเหนือโดยเฉพาะ ถูกเผยโฉมเป็นครั้งแรกที่งาน Los Angeles Auto Show 2022 ประเทศสหรัฐอเมริกา ขณะที่ราคาจำหน่ายจะถูกประกาศอีกครั้งในช่วงครึ่งแรกของปี 2023 นี้ โดยมีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย คือ SE, XSE และ XSE Premium โดยยังคงใช้แพล็ตฟอร์ม TNGA-C เจเนอเรชันที่ 2 เช่นเดียวกับ Prius รุ่นปกติ
จุดเด่นของ Prius PRIME ที่เหนือกว่า Prius รุ่นปกติ คือการติดตั้งหลังคาโซลาร์ที่สามารถสร้างกระแสไฟไปเก็บไว้ยังแบตเตอรี่ขณะรถจอดอยู่กับที่ได้ โดยพลังงานไฟฟ้าที่ได้จะถูกนำไปใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ภายในรถ (เช่น ระบบปรับอากาศ) และยังถูกออกแบบเป็นพิเศษเพื่อให้มีลักษณะคล้ายกับหลังคาแก้วปกติทั่วไป
Toyota Prius PRIME ยังมาพร้อมระบบ Toyota Audio Multimedia ทำงานผ่านหน้าจอขนาด 12.3 นิ้ว ที่สามารถรองรับการอัปเกรดแบบ OTA (Over-the-air) และสามารถเริ่มต้นสั่งงานด้วยเสียงพูดว่า “Hey Toyota” จากนั้นจึงตามด้วยคำสั่งต่างๆ เช่น การค้นหาตำแหน่งสถานที่โดยใช้ข้อมูล Google Points-of-Interest, การปรับระดับเครื่องเสียง, การปรับอุณหภูมิภายในห้องโดยสาร ขณะที่ระบบนำทางผ่านคลาวด์ยังสามารถดาวน์โหลดแผนที่นำทางเวอร์ชันล่าสุด เพื่อให้การนำทางเป็นไปอย่างสมบูรณ์ที่สุด
นอกจากนี้ Prius PRIME ยังมาพร้อมระบบ Remote Connect Service เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ช่วยให้เจ้าของรถสามารถสั่งล็อก-ปลดล็อกประตู, สตาร์ทเครื่องยนต์ระยะไกล, ตรวจสอบสถานะตัวรถ ฯลฯ และยังมีระบบ Digital Key ที่ใช้สมาร์ทโฟนแทนการใช้กุญแจปกติสำหรับการล็อก-ปลดล็อก และสตาร์ทเครื่องยนต์ได้
ขณะที่ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense TSS 3.0 มีการติดตั้งระบบ Proactive Driving Assist ที่อาศํยการทำงานของกล้องและเรดาร์ เพื่อช่วยลดความเร็วลงเล็กน้อยในขณะเข้าโค้ง รวมถึงลดความเร็วอย่างนุ่มนวลเพื่อรักษาระยะห่างจากรถคันหน้า, ผู้ใช้จักรยาน และคนเดินถนน แตกต่างจากระบบ Pre-Collision System ที่จะทำงานในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น
ด้านขุมพลังของ Toyota Prius PRIME ถูกติดตั้งเครื่องยนต์ไฮบริดเจเนอเรชันที่ 5 ซึ่งทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร และแบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไอออนที่ถูกพัฒนาขึ้นใหม่ ให้กำลังรวมสูงสุด 220 แรงม้า สามารถเร่งความเร็วจาก 0-96 กม./ชม. ได้ในเวลาราว 6.6 วินาที และเพิ่มระยะทางขับขี่ด้วยไฟฟ้าขึ้นอีก 50% เมื่อเทียบกับระยะทางของรุ่นก่อนหน้าที่วิ่งได้ไกล 25 ไมล์ หรือราว 40 กิโลเมตรเมื่อชาร์จจนเต็ม
ส่วนบ้านเรายังไม่มีข้อมูลว่าจะนำเข้ามาจำหน่ายด้วยหรือไม่
อัลบั้มภาพ 9 ภาพ